กรุงเทพฯ 1 พ.ย.- กระทรวงยุติธรรม ประสานสำนักงานตำรวจแห่งชาติบูรณาการ แก้ปัญหาแชร์แม่มณี หลังดีเอสไอรับเป็นคดีพิเศษ ให้ตำรวจโอนสำนวน ภายใน 15 พ.ย.นี้ พร้อมเร่งล่าตัวแม่มณี-แฟนหนุ่มที่ยังหลบหนี
ว่าที่ร้อยตรี ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พร้อม พันตำรวจเอกไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ และ พันตำรวจเอก สุชาติ วงศ์อนันต์ชัย หัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวงยุติธรรม และ คณะ เข้าพบพลตำรวจเอกจักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เพื่อหารือและบูรณาการทำงานร่วมกันระหว่างหน่วยงานในการช่วยเหลือผู้เสียหายจากการลงทุนแชร์นางสาววันทนีย์ ทิพย์ประเวช หรือ แม่มณี รวมถึงการเร่งติดตามยึดอายัดทรัพย์สินมาคืนให้แก่ผู้เสียหายอย่างเร่งด่วน
เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ระบุว่าขณะนี้คดีแชร์แม่มณีกรมสอบสวนคดีพิเศษได้รับเป็นคดีพิเศษแล้ว โดยในคดีมีผู้เสียหายร้องทุกข์ตามสถานีตำรวจหลายพื้นที่ รวมถึงกองบังคับการปราบปราม วันนี้จึงเดินทางมาที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อขอความร่วมมือให้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติสั่งการไปยังสถานีตำรวจที่รับเรื่องดังกล่าว เร่งสืบสวนและสอบปากคำผู้เสียหายก่อนจะรวบรวมและโอนคดีทั้งหมดให้กรมสอบสวนคดีพิเศษภายในวันที่ 15 พฤศจิกายนนี้ โดยดีเอสไอจะเป็นเจ้าภาพหลักในการดูแลคดีนี้เนื่องจากเข้าเงื่อนไขในการรับเป็นคดีพิเศษ โดยดีเอสไอรับเรื่องร้องทุกข์จากผู้เสียหายผ่านทางออนไลน์แล้วล่าสุดมียอดมากกว่า 3,000 คน มูลค่าความเสียหายกว่า 800 ล้านบาท
อย่างไรก็ตามผู้เสียหายที่อยู่ในพิ้นที่ต่างจังหวัด ยังสามารถแจ้งความกับตำรวจในพื้นที่ได้อยู่ แต่หากต้องการความรวดเร็วแนะนำให้เข้าเจ้งความกับดีเอสไอได้โดยตรง หรือ แจ้งเรื่องร้องทุกข์ผ่านทางเว็บไซต์ดีเอสไอ
ส่วนการติดตามตัวผู้ต้องหาในคดีนี้ นายปิยะศิริ วัฒนวรางกูร ผู้อำนวยการกองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ เปิดเผยว่า เบื้องต้นดีเอสไอได้ไปขอศาลอนุมัติหมายจับแม่มณี เพิ่มเติมแล้วในข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ร่วมกันกู้ยืมเงินอันเป็นการฉ้อโกงประชาชน และ นำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ โดยเบื้องต้นดีเอสไอได้ออกหมายจับเพียงนางสาววันทนีย์ หรือ แม่มณี เพียงคนเดียวเท่านั้น ซึ่งดีเอสไอได้จัดชุดสืบสวนในการเร่งติดตามตัวมาดำเนินคดีโดยได้ประสานไปยังช่องทางตามด่านตรวจคนเข้าเมืองทั่วประเทศ เบื้องต้นยังไม่พบว่ามีการเดินทางออกนอกประเทศ ส่วนเรื่องช่องทางธรรมชาติขอตรวจสอบก่อน แต่เชื่อว่าคดีนี้มีผู้ร่วมกระทำความผิด มากกว่า 2 คนแน่นอน แต่ต้องรวบรวมพยานหลักฐานให้เกิดความชัดเจน ซึ่งนอกจากการตรวจสอบเส้นทางการเงินแล้วจะต้องเช็คพฤติกรรมของแม่ข่ายว่ามีเจตนาในการหลอกลวงหรือไม่ ซึ่งจากการตรวจสอบก็มีแม่ข่ายหลายประเภท เช่น รับเงินจากลูกข่ายมาแล้วเก็บไว้เองไม่โอนต่อ และ แม่ข่ายอ้างว่าเป็นเครือข่ายแม่มณี ส่วนจะมีดารานักแสดง และ เซเลปเข้ามาเกี่ยวข้องหรือไม่นั้นขณะนั้ยังเป็นเพียงการแอบอ้างชื่อเท่านั้น .-สำนักข่าวไทย