ทำเนียบฯ 30 ต.ค.-นายกรัฐมนตรี เป็นประธานมอบรางวัลรัฐบาลดิจิทัล ประจำปี 2562 เผยสหประชาชาติ จัดอันดับรัฐบาลไทยใช้เทคโนโลยีอยู่อันดับที่ 73 จาก 193 ประเทศ ย้ำรัฐจะขับเคลื่อนใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อประโยชน์ของประชาชน ระบุสั่งสอบข้อมูลไม่ถูกต้องหลอกลวงขายของในเฟสบุ๊คที่ไม่ได้มาตรฐาน ให้ข้อมูลป้องกันประชาชนถูกหลอกลวง
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานมอบรางวัล Digital Goverment Awords 2019 หรือรางวัลรัฐบาลดิจิทัล ประจำปี 2562 และเปิดงาน “ประกาศผลสำรวจระดับความพร้อมรัฐบาลดิจิทัลหน่วยงานภาครัฐของประเทศไทย” จัดขึ้นโดยสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล(องค์การมหาชน) สพร. โดยนายกรัฐมนตรี ได้มอบโล่รางวัลรัฐบาลดิจิทัล ระดับกรม 10 รางวัลและระดับจังหวัด 5 รางวัล
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลดิจิทัลเป็นส่วนหนึ่งของผลงานรัฐบาลที่ทำมาตลอด 5 ปี และทำต่อเนื่องในรัฐบาลนี้ สิ่งที่เกิดขึ้นลดการใช้เทคโนโลยีในการลดขั้นตอนการทำงานที่ซ้ำซ้อน โดยไม่ต้องใช้สำเนาบัตรประชาชน ทะเบียนบ้านในการติดต่อกับหน่วยงานรัฐ ซึ่งถือเป็นเรื่องใหม่ในการทำงานราชการ ทำให้ทุกหน่วยงานต้องปรับตัวเรียนรู้สิ่งใหม่ เข้าสู่การเป็นรัฐบาลดิจิทัล เพื่อประโยชน์ของประชาชนและสอดรับกับการเปลี่ยนแปลงของโลกที่ปรับเปลี่ยนด้วย เพราะจะใช้วิธีการเดิม ๆทำงานไม่ได้แล้ว โดยขณะนี้รัฐบาลได้แก้ไขและออกกฎหมายมารองรับอำนวยความสะดวกให้ประชาชนด้วย
“ภาครัฐต้องตระหนักถึงผลกระทบและปรับเปลี่ยนเพื่อให้การบริหารงานเกิดประโยชน์สูงสุด รวมถึงการค้า การลงทุน การท่องเที่ยวด้วย อาทิขั้นตอนการเดินทาง หนังสือเดินทาง ให้นักท่องเที่ยว และขณะนี้น่ายินดีที่สหประชาชาติ จัดอันดับรัฐบาลไทยในการใช้เทคโนโลยีอยู่อันดับที่ 73 จาก 193 ประเทศ ถือว่าดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง รัฐบาลพยายามขับเคลื่อนการใช้เทคโนโลยีดิจิทัล อย่างบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ทำให้มีการจัดสรรสวัสดิการได้ตรงกลุ่มเป้าหมาย โครงการลดสำเนาเอกสารในการติดต่อหน่วยงานภาครัฐ ซึ่งทุกหน่วยงานต้องเร่งปรับ เพราะหากยังทำไม่สำเร็จอย่างที่ประชาขนคาดหวัง เมื่อประชาชนยังใช้บริการแบบดิจิทัลไม่ได้ จะเกิดกระแสโจมตี โดยเฉพาะอย่างยิ่งในโซเชียลมีเดียที่จะรุนแรง” นายกรัฐมนตรี กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ส่วนเรื่องการระงับสิทธิทางภาษีศุลกากรของสหรัฐฯ ถือเป็นเรื่องธรรมดา ที่เมื่อสหรัฐฯให้สิทธิประโยชน์กับไทยมายาวนานแล้วให้แล้วจะยกเลิกได้ ในเมื่อประเทศไทยเติบโตขึ้น ดังนั้นเมื่อไทยมีความเข้มเเข็งขึ้น สิ่งสำคัญคือต้องสร้างความเข้มเเข็งด้วยตัวเอง ไม่ต้องไปพึ่งความร่วมมืออื่นที่ไม่จำเป็น
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ต่อจากนี้ข้อมูลหน่วยงานของภาครัฐจะต้องเขื่อมโยง โปร่งใส ประชาขนสามารถเข้าถึงเเหล่งข้อมูลได้ จากศูนย์ข้อมูลของรัฐบาล เพื่อนำไปต่อยอดนวัตกรรมเพื่อเศรษฐกิจและสังคมได้อีกด้วย นอกจากนี้การใช้รูปถ่ายเป็นหลักฐานประกอบการติดต่อหน่วยงานภาครัฐ อยากให้ช่วยกันเลือกรูปให้เหมือนตัวจริง เพราะบางครั้งรูปถ่ายดูแตกต่างจากใบหน้าจริงมากทำให้เวลามาติดต่อหน่วยงานภาครัฐอาจเกิดปัญหา
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ภัยจากไซเบอร์ เมื่อวานก็จับได้แล้ว กรณีก่อกวนระบบลงทะเบียนชิม ช็อปใช้ รวมถึงมีการจัดตั้งศูนย์เฟคนิวส์ ป้องกันข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง จึงไม่อยากให้กังวลว่ารัฐบาลจะเข้าไปดักฟังหรือละเมิดสิทธิส่วนบุคคลของประชาชน เพียงแต่จะตรวจสอบหาต้นตอการปล่อยข้อมูลที่ไม่ถูกต้องเท่านั้น ว่าใครเผยเเพร่คนแรก
“เรื่องแชร์แม่มณี อยากให้ทำความเข้าใจกับประชาชนว่าไม่มีอะไรที่ได้มาง่ายๆ เป็นไปไม่ได้ที่จะลงทุนแล้วได้ค่าตอบแทนมากขนาดนั้น ลงทุน 1,000 บาท ได้ 930 บาท เรื่องเหล่านี้เราต้องสร้างภูมิต้านทานให้เข้มแข็งกับประชาชนไม่ให้ถูกหลอกลวง วันนี้สั่งการดูแลการขายให้ได้มาตรฐาน บางครั้งไม่มีความปลอดภัย เป็นอันตรายในการซื้อขายที่มีจำนวนมาก หน่วยงานต้องเข้าไปดู โดยเฉพาะในเฟซบุ๊กที่มีการขายสินค้าจำนวนมาก”นายกรัฐมนตรี กล่าว.-สำนักข่าวไทย