“จุลพันธ์” รับกู้เงินมากขึ้น แต่เพื่อประชาชน

รัฐสภา 19 มิ.ย.-“จุลพันธ์” รมช.คลัง ถามกลับ จะรอให้เศรษฐกิจแย่กว่านี้ แล้วค่อยแก้หรือ รับกู้เงินมากขึ้น แต่เพื่อประชาชน ยกประโยชน์แอปพลิเคชั่นกลาง เป็นรากฐานรัฐบาลดิจิทัล

ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรครั้งที่สอง สมัยวิสามัญเป็นพิเศษ เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2568 นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง อภิปรายชี้แจง ว่า ตนเองติดตามประเด็น และรวบรวมบางส่วน ซึ่งจะหนักวาทกรรม แต่ก็รับได้ และนำไปแก้ไขปรับปรุงในจุดที่สามารถปรับแก้ได้ และสุดท้ายเป็นอำนาจหน้าที่ของสมาชิกสภาแห่งนี้ ในการตั้งคณะกรรมธิการในการพิจารณาการปรับ ลดหรือเพิ่มในส่วนที่มีความเหมาะสม และจำเป็น เป็นสิทธิอันชอบของสภาแห่งนี้


นายจุลพันธ์ อภิปรายต่อว่า บางวาทกรรมเกี่ยวกับดิจิทัลวอลเล็ตอาจดูหนักไป ทั้งการคิดไปทำไป หรือเสียหน้าไม่ได้ ซึ่งเนื้อหาการเดินหน้าของโครงการไม่เป็นอย่างที่ท่านพูดมา วันนี้รัฐบาลนี้ไม่ใช่รัฐบาลของพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่ง แต่เป็นรัฐบาลของประชาชน ร่วมมือกันทำงาน มีความสม่ำเสมอกลมเกลียว และโครงการต่าง ๆ ก็เป็นที่เข้าใจ และตกลงร่วมกัน

“เรื่องนี้เป็นเรื่องของมุมมองที่แตกต่างกันระหว่างผมกับท่านเท่านั้น ผมมองว่ากระบวนการในการสร้างการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ เพื่อให้มีเม็ดเงินเพียงพอในการแบ่งสันปันส่วน ระหว่างประชาชนจากการเจริญเติบโต สามารถทำได้ และควรต้องทำก่อน วันนี้เศรษฐกิจเติบโตอยู่ในระดับที่ต่ำ ไม่เป็นไปตามศักยภาพ ซึ่งเป็นมุมมองที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน รัฐบาลนี้เน้นเรื่องการกระตุ้นเศรษฐกิจ ต้องการอัดฉีดเม็ดเงินเข้าไปในระบบเศรษฐกิจ เพื่อเติมน้ำในบ่อ ให้คนไทยหายใจหาคอได้ สามารถมีกำลังต่อยอด การบริโภค การลงทุน สำหรับอาชีพของเขา” นายจุลพันธ์ กล่าว


นายจุลพันธ์ กล่าวว่า เช่นเดียวกับคำว่า คิดไปทำไป ซึ่งต้องยอมรับความจริงว่า เรารับมรดกมาจากรัฐบาลก่อนหน้าด้วยสภาพเศรษฐกิจที่เป็นอยู่ ซึ่งนายพิชัย ชุณหวชิร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง จะขึ้นมาอธิบายว่าสถานการณ์เศรษฐกิจปัจจุบันเป็นอย่างไร เรารับมรดกมาไม่ว่าจะเป็นหนี้สาธารณะหนี้ครัวเรือน 90 กว่าเปอร์เซ็นต์ ทั้งหมดนี้มาถึงมือเรา และเรามีหน้าที่ในการบริหารจัดการหน้าต่อไป

ส่วนคำว่าคิดไปทำไป ก็แย้งกับคำว่า เสียหน้าไม่ได้ เพราะตนเองเป็นคนดำเนินโครงการมาตั้งแต่ต้น การปรับเปลี่ยนแต่ละครั้ง ก็โดนว่า ทั้งเรื่องเกณฑ์การลดจำนวนคน เป็นข้อเสนอจากหน่วยงาน ซึ่งเราต้องรับฟัง บางอย่างเราต้องถอยเพื่อเดินหน้าอย่างแข็งแกร่ง ซึ่งสวัสดิการของผู้สูงอายุก็ไม่พร้อมในขณะนี้ ยังไม่สามารถทำได้ทันที เช่นเดียวกัน เราเข้าใจในข้อจำกัดสถานการณ์ที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน ซึ่งจะต้องมีการบริหารจัดการให้เหมาะสมที่สุด เพื่อที่จะเดินหน้าโครงการแต่ละโครงการ โดยใช้เม็ดเงินอย่างประหยัด คุ้มค่า และเกิดประโยชน์สูงสุด

นายจุลพันธ์ ระบุว่า นี่จึงไม่ใช่การไม่รอบคอบ แต่นโยบายนี้ ต้องใช้คำว่าคิดนอกกรอบ นอกจากจะวางรากฐานทางเศรษฐกิจดิจิทัล ยังมีการสร้างระบบการเงิน การโอนเงินของรัฐให้กับประชาชน มีแอปพลิเคชั่นกลาง ในการให้บริการประชาชน เป็นโครงการที่จะสามารถกระตุ้นให้คน 50 ล้านคน มาลงทะเบียนกับรัฐ ผ่านมาตรฐาน ซึ่งทำให้บัตรประจำตัวดิจิทัลสามารถใช้ล็อกอินในทุกบริการของรัฐในอนาคต และใช้บริการของรัฐได้ทุกประเภท นี่คือประโยชน์ของประชาชนและประโยชน์ของรัฐอย่างมหาศาล ทำให้ประชาชนไม่ต้องเสียเวลาเดินทางไปยังหน่วยงานของรัฐ เพื่อรับบริการ เพิ่มความรวดเร็วในการให้บริการประชาชนผ่านทางการนำระบบคอมพิวเตอร์ หรือใช้เอไอมาตัดสินใจ ลดความผิดพลาดการตัดสินใจของบุคลากร ซึ่งหลายครั้งทำเป็นช่องโหว่ในการทุจริตคอรัปชั่น และการรั่วไหลของงบประมาณ และระบบนี้สามารถให้บริการประชาชน 24 ชั่วโมงไม่ว่าพี่น้องประชาชนจะมีความต้องการเข้าถึงบริการของรัฐเวลาใด


กลไกทั้งหมดนี้สามารถลดค่าใช้จ่ายในการให้บริการของภาครัฐได้โดยเฉพาะเรื่องบุคลากร เราคุยกันมาตลอดว่าจะลดจำนวนบุคลากรของภาครัฐได้อย่างไร เงินเดือนราชการ เป็นค่าใช้จ่ายประจำที่ไม่สามารถปรับเปลี่ยนได้ เพราะเราใช้กำลังคนในภาครัฐจำนวนมาก แต่ด้วยกลไกของแอพลิเคชั่นใหม่ จะสามารถทำให้เราให้บริการผ่านทางรูปแบบออนไลน์ และระยะยาวเราจะสามารถวางแผนในการจัดสรรโครงสร้างของภาครัฐได้อย่างมีความเหมาะสมมากขึ้น

ส่วนเรื่องแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เรามีประชาชนจำนวนมากในปัจจุบัน ที่กลายเป็นเหยื่อ และสูญเสียเงิน กลไกในแอปพลิเคชั่นนี้ จะเป็นตัวกลางที่จะยืนยันได้ว่า อะไรก็ตามที่แจ้งเตือน หรือแจ้งผ่านระบบใหม่ คือระบบของรัฐที่จะส่งผ่านข้อความ ข้อมูล คำถามไปยังประชาชน ทำให้ประชาชนเกิดความมั่นใจและลดการถูกหลอกลวงผ่านทางระบบรวมถึงการป้องกันเตือนภัยสาธารณะด้วย

นายจุลพันธ์ ยอมรับว่า โครงการนี้เป็นโครงการเรือธงของรัฐ เพราะเป็นโครงการใหญ่ และประชาชนทั่วประเทศรอคอย กับการที่เม็ดเงินที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจไปถึงมือ แต่อย่างไรก็ตาม โครงการอื่น ๆ ที่ปรับเปลี่ยนโครงสร้างพื้นฐาน พัฒนาโครงสร้างทางเศรษฐกิจ ก็ยังมีควบคู่กันไปด้วย ทั้งการพัฒนาทักษะแรงงาน การผลิตอุตสาหกรรมแห่งอนาคต

นายจุลพันธ์ อภิปรายยอมรับว่า เรากู้มากขึ้นในปีนี้ แต่เป็นการกู้ชั่วคราว เพราะจะนำเงินมากระตุ้นเศรษฐกิจในการทำโครงการดังกล่าว หลายท่านมีความห่วงใยว่า หากเรากู้เต็มเพดาน และมีวิกฤต จะไม่สามารถรับมือได้ ตามข้อเท็จจริง มีกลไกตาม พ.ร.บ. ที่เกี่ยวข้องในการบริหารจัดการภาครัฐ ที่จะสามารถรองรับ ไม่ว่าจะเกินวิกฤตในลักษณะใดก็ได้ เรายังสามารถเดินหน้าได้ แต่ที่สำคัญแนวคิดนี้ เมื่อสถานการณ์เศรษฐกิจไม่ได้อยู่ในสถานการณ์ที่ดีนัก พี่น้องประชาชนยังเดือดร้อนในเรื่องของรายรับ ค่าใช้จ่าย ค่าครองชีพประจำวัน เรามีพื้นที่ทางการคลัง เราจะใช้พื้นที่นี้ลงไปไม่ให้เกิดวิกฤติ ทำให้เศรษฐกิจเติบโตในตัวเลขที่เหมาะสม หรือรอให้เศรษฐกิจหนักไปกว่านี้ จนกระทั่งถึงจุดที่ยอมรับว่าหนักแล้ว และนำพื้นที่การคลังไปซ่อม ซึ่งเราผ่านประสบการณ์เช่นนี้มาหลายครั้ง ซึ่งใช้เงินเยียวยาสูงกว่ามหาศาล นี่จึงเป็นแนวทางของรัฐบาลชุดปัจจุบันว่าเรามีความจำเป็นที่ต้องใช้พื้นที่ทางการครั้งนี้ ในการกระตุ้นเศรษฐกิจให้พี่น้องประชาชน

นายจุลพันธ์ ยืนยันตามข้อเท็จจริงว่าไม่มีงบประมาณจากหน่วยงานไหนถูกตัดไปทำโครงการดังกล่าวโดยสำนักงานงบประมาณได้พิจารณาจัดลำดับความสำคัญ ยืนยันว่า เม็ดเงินทุกบาท มีประสิทธิภาพ เกิดการหมุนเวียนหลายรอบ และเกิดประโยชน์กับประชาชนมากที่สุด.-317.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เขยโหดบุกยิงแม่ยาย-ญาติ ดับ 3 ก่อนจบชีวิตตัวเอง

ปทุมธานี 3 ก.ย. – เขยปืนโหด ถูกจับได้ว่าแอบคบกับน้องเมียวัย 13 ปี บุกยิงยกครัวเมียที่บ้านพัก ย่านปทุมธานี แม่ยาย-น้องเมีย-น้า เสียชีวิต ก่อนจบชีวิตตัวเองหนีความผิด เหตุดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อเวลา 23.10 น. ที่ผ่านมา พนักงานสอบสวน สภ.คลองห้า จ.ปทุมธานี ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู ร่วมตรวจสอบบ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่หมู่ 7 ต.คลองเจ็ด อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี จุดเกิดเหตุอยู่ด้านหลังบ้าน ซึ่งเป็นพื้นที่เปิดโล่ง พบร่างนางทัศนี อายุ 46 ปี นอนเสียชีวิตอยู่ด้านข้างโต๊ะกินข้าว ตามร่างกาย มีบาดแผลถูกยิงเข้าที่ศีรษะ ข้างกันพบปลอกกระสุนปืนขนาด.380 ตกอยู่จำนวนหนึ่ง นอกจากนี้ ยังพบร่างนายชัยวัฒน์ อายุ 43 ปี น้องชายนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บ ส่วนในบ้านพบ ด.ญ.วันเพ็ญ อายุ 13 ปี ลูกสาวนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บอีกราย เจ้าหน้าที่กู้ชีพและกู้ภัยฯ […]

พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย”

รัฐสภา 3 ก.ย.-พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย” ก๊วน “สุชาติ-ธรรมนัส-สันติ” ร่วมด้วย ด้านงูเห่า “เพื่อไทย-ปชป.” โผล่โชว์ตัว บรรยากาศการประชุมพรรคภูมิใจไทย ภายหลังพรรคประชาชนมีมติโหวตให้นายอนุทิน เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งพรรคร่วมรัฐบาลต่างทยอยเดินทางมาเพื่อรอแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลในเวลา 11:00 น. โดยมีนายสุชาติ ชมกลิ่น สส.รวมไทยสร้างชาติ นำกลุ่ม 18 สส. เดินทางมาเป็นกลุ่มแรก อย่างไรก็ตามไม่พบว่ามี สส.ของพรรครวมไทยสร้างชาติ ของกลุ่มนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ เดินทางมาร่วมแต่อย่างใด ขณะที่ตัวแทนจากพรรคพลังประชารัฐ นำโดย ชัยมงคล ไชยรบ สส.สกลนคร และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ตามมาด้วยนายสันติ พร้อมพัฒน์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่นำ สส.เพชรบูรณ์ มาร่วมด้วย จากนั้น พรรคกล้าธรรม นำโดย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม พร้อมแกนนำพรรค เช่น นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ หัวหน้าพรรค นายไผ่ […]

“ทักษิณ” รับผิดไว้ใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป

กรุงเทพฯ 2 ก.ย.- “ทักษิณ” ยอมรับผิด ไว้วางใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป ส่วนการจัดตั้งรัฐบาล ต้องรอดูพรรคประชาชน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำวันที่ 1 ก.ย. สส.พรรคเพื่อไทย ประมาณ 10 คน ได้นัดเลี้ยงสังสรรค์ให้นายฉลาด ขามช่วง ที่ได้รับเลือกให้เป็นดำรงตำแหน่งรองประธานสภาฯ คนที่ 1 เมื่อเรื่องรู้ถึงนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นายทักษิณ จึงเดินทางมาร่วมแสดงความยินดีกับนายฉลาด ด้วย โดยในวงรับประทานอาหาร นายทักษิณ พูดถึงกรณีที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม ถอนตัวจากรัฐบาลพรรคเพื่อไทย โดยยอมรับผิดว่า “ไว้วางใจ ร.อ.ธรรมนัส มากเกินไป พี่ผิดไปแล้ว พี่ดูคนผิด” ทำให้ สส. ที่ร่วมวงอยู่นั้นสวนทันทีว่านายทักษิณ โดนคนหลอกตลอด ซึ่ง สส.ที่ร่วมวง ต่างเห็นตรงกันว่า ไม่เคยเห็นนายทักษิณ ยอมรับผิดแบบนี้มาก่อน เห็นได้ว่านายทักษิณ ได้แสดงท่าทีรู้สึกผิดมาก พร้อมกันนี้ สส. […]

เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย ส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ

พรรคเพื่อไทย 2 ก.ย.- เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย เข้าชื่อส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ แต่ยังปฏิบัติหน้าที่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า 20 สส.เพื่อไทย นำโดย นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ ประธานวิปรัฐบาล ได้ทำหนังสือถึงประธานสภาผู้แทนราษฎร ขอให้ส่งคำร้องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อพิจารณาความชอบด้วยกฎหมายของกระบวนการพิจารณาวินิจฉัย เรื่องพิจารณาที่ 17/2568 กรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติ 6 ต่อ 3 วินิจฉัยให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร สิ้นสุดความเป็นนายกรัฐมนตรี โดยเมื่อวันที่ 29 ส.ค.2568 ซึ่งเป็นวันวินิจฉัยคดีของศาลรัฐธรรมนูญ ได้มีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งให้ นายสราวุธ ทรงศิวิไล ดำรงตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ตั้งแต่วันที่ 29 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป แทน นายปัญญา อุดชาชน ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งพ้นจากตำแหน่งเนื่องจากครบวาระการดำรงตำแหน่ง ดังนั้น เมื่อได้รับทราบถึงการมีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งนายสราวุธ แทนนายปัญญา ซึ่งพ้นจากตำแหน่งตามวาระแล้ว จึงไม่ควรที่จะให้ นายปัญญา […]

ข่าวแนะนำ

อดีตนายกฯ โพสต์พร้อมทุ่มเททำหน้าที่ฝ่ายค้าน-ตรวจสอบรัฐบาล

กรุงเทพ 5 ก.ย.- “แพทองธาร” ระบุ จากวันนี้เพื่อไทยทุ่มเททำหน้าที่ฝ่ายค้าน ตรวจสอบการทำงานรัฐบาล บอก ไม่มีส่วนรับผิดชอบต่อสิ่งที่จะเกิดขึ้นจากรัฐบาลชุดใหม่ พร้อมขอบคุณผู้สนับสนุน จะผ่านวันนี้ไปด้วยกัน และจะกลับมาด้วยหัวใจเพื่อประชาชน นางสาวแพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ระบุว่า ตลอดระยะเวลาการทำงานของพรรคเพื่อไทย เราผ่านสถานการณ์ทุกรูปแบบ ทั้งช่วงเวลาแห่งความสุข และช่วงเวลาที่ต้องแบกรับความยากลำบากร่วมกัน แต่สิ่งที่เราไม่เคยละวาง คือความหวัง โอกาส และอนาคตที่ดีกว่าของประชาชน จากวันนี้ เราจะทุ่มเททำหน้าที่ฝ่ายค้าน ตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล รักษาระบบรัฐสภาให้เดินหน้าตามวิถีทางประชาธิปไตย เราไม่มีส่วนรับผิดชอบต่อสิ่งที่จะเกิดขึ้นจากรัฐบาลชุดใหม่นี้ แต่เราจะรับผิดชอบต่อพี่น้องประชาชน ด้วยความมุ่งมั่นและจิตวิญญาณของพรรคเพื่อไทย ขอบคุณกำลังใจและการสนับสนุนจากทุกท่าน เราทราบดีว่า การเดินทางร่วมกับพรรคเพื่อไทยจนถึงวันนี้ ต้องใช้ความเข้มแข็งและอดทนถึงเพียงไหน เราจะผ่านวันนี้ไปด้วยกัน และจะกลับมาด้วยหัวใจเพื่อประชาชน .-316 -สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ก้มกราบพ่อ หลังได้รับโหวตนั่งเก้าอี้นายกฯ

รัฐสภา 5 ก.ย.- “อนุทิน” ก้มกราบพ่อ หลังได้รับโหวตนั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรี คนที่ 32 นายอนุทิน ชาญวีรกูล ว่าที่นายกรัฐมนตรี คนที่ 32 เดินทางไปเยี่ยม นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล บิดา ที่โรงพยาบาลรามาธิบดี ภายหลังได้รับการโหวตจากสภาผู้แทนราษฎรให้เป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 32 ด้วยคะแนน 311 เสียง ทันทีที่ถึงโรงพยาบาล นายอนุทินได้ก้มกราบที่ตักพ่อ พร้อมสวมกอดระหว่างที่พ่อกำลังรับประทานอาหารเย็น ทั้งคู่มีสีหน้ายิ้มแย้ม สดใส ทั้งนี้ มีรายงานว่า นายอนุทินจะเดินทางเข้าที่ทำการพรรคภูมิใจไทย ในเวลา 20.00 น. ของวันนี้.-315 -สำนักข่าวไทย

เริ่มลงตัว! เปิดโผ​ “ครม.อนุทิน​ 1” แบ่งโควตาคนนอก 5 เก้าอี้

กทม.5 ก.ย.- เช็กโผ​ “ครม.อนุทิน​ 1” เริ่มลงตัว “ภูมิใจไทย” 12 เก้าอี้ แบ่งโควตาคนนอกอีก 5 เก้าอี้ มีชื่อ “เศรษฐพุฒิ” อดีตผู้ว่าฯ แบงก์ชาติ นั่งขุนคลัง ผู้สื่อข่าวรายงานว่าภายหลังจากที่นายอนุทิน​ ชาญวีรกูล​ สส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ได้รับความเห็นชอบให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี​ จากสภาผู้แทนราษฎร ความเคลื่อนไหวการจัดตั้ง “ครม.อนุทิน 1” ก็ขยับทันที​ โดยมีการจัดสรรโควตาตามจำนวนเสียงที่ประกาศจัดตั้งรัฐบาลเสียง​ข้างน้อย​ ร่วมกัน​ 146 ประกอบด้วย พรรคภูมิใจไทย​ 12 เก้าอี้ เนื่องจากมีโควตาของคนนอก ที่จะไม่นับรวม อีก 5 เก้าอี้​ ส่วนพรรคกล้าธรรม 7 เก้าอี้ แบ่งเป็น 4 รัฐมนตรีว่าการ​ และ 3 รัฐมนตรีช่วยว่าการ ขณะที่​ พรรคพลังประชารัฐ​ 4​ เก้าอี้ กลุ่มนายสุชาติ​ ชมกลิ่น​ จากพรรครวมไทยสร้างชาติ 4 […]

เพื่อไทยโพสต์พร้อมทำหน้าที่ฝ่ายค้าน

กรุงเทพฯ 5 ก.ย.- พรรคเพื่อไทย พร้อมทำหน้าที่ฝ่ายค้าน ขอบคุณทุกแรงใจ ระบุ นโยบายหลายเรื่องค้างไว้ รอวันกลับมาสานต่อ ภายหลังที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีมติ 311 เสียง เห็นชอบ นายอนุทิน ชาญวีรกูล ให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี คนที่ 32 พรรคเพื่อไทย ได้โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ว่า “พร้อมทำหน้าที่ฝ่ายค้าน ตามครรลองของรัฐสภา ยึดมั่นหลักการประชาธิปไตย ขอขอบคุณทุกแรงใจ นโยบายหลายเรื่องที่ยังค้างไว้ เราจะรอวันกลับมาสานต่อให้สำเร็จ เพื่อคนไทยทุกคน…ตลอดไป” .-316 -สำนักข่าวไทย