“จุลพันธ์” รับกู้เงินมากขึ้น แต่เพื่อประชาชน

รัฐสภา 19 มิ.ย.-“จุลพันธ์” รมช.คลัง ถามกลับ จะรอให้เศรษฐกิจแย่กว่านี้ แล้วค่อยแก้หรือ รับกู้เงินมากขึ้น แต่เพื่อประชาชน ยกประโยชน์แอปพลิเคชั่นกลาง เป็นรากฐานรัฐบาลดิจิทัล

ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรครั้งที่สอง สมัยวิสามัญเป็นพิเศษ เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2568 นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง อภิปรายชี้แจง ว่า ตนเองติดตามประเด็น และรวบรวมบางส่วน ซึ่งจะหนักวาทกรรม แต่ก็รับได้ และนำไปแก้ไขปรับปรุงในจุดที่สามารถปรับแก้ได้ และสุดท้ายเป็นอำนาจหน้าที่ของสมาชิกสภาแห่งนี้ ในการตั้งคณะกรรมธิการในการพิจารณาการปรับ ลดหรือเพิ่มในส่วนที่มีความเหมาะสม และจำเป็น เป็นสิทธิอันชอบของสภาแห่งนี้


นายจุลพันธ์ อภิปรายต่อว่า บางวาทกรรมเกี่ยวกับดิจิทัลวอลเล็ตอาจดูหนักไป ทั้งการคิดไปทำไป หรือเสียหน้าไม่ได้ ซึ่งเนื้อหาการเดินหน้าของโครงการไม่เป็นอย่างที่ท่านพูดมา วันนี้รัฐบาลนี้ไม่ใช่รัฐบาลของพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่ง แต่เป็นรัฐบาลของประชาชน ร่วมมือกันทำงาน มีความสม่ำเสมอกลมเกลียว และโครงการต่าง ๆ ก็เป็นที่เข้าใจ และตกลงร่วมกัน

“เรื่องนี้เป็นเรื่องของมุมมองที่แตกต่างกันระหว่างผมกับท่านเท่านั้น ผมมองว่ากระบวนการในการสร้างการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ เพื่อให้มีเม็ดเงินเพียงพอในการแบ่งสันปันส่วน ระหว่างประชาชนจากการเจริญเติบโต สามารถทำได้ และควรต้องทำก่อน วันนี้เศรษฐกิจเติบโตอยู่ในระดับที่ต่ำ ไม่เป็นไปตามศักยภาพ ซึ่งเป็นมุมมองที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน รัฐบาลนี้เน้นเรื่องการกระตุ้นเศรษฐกิจ ต้องการอัดฉีดเม็ดเงินเข้าไปในระบบเศรษฐกิจ เพื่อเติมน้ำในบ่อ ให้คนไทยหายใจหาคอได้ สามารถมีกำลังต่อยอด การบริโภค การลงทุน สำหรับอาชีพของเขา” นายจุลพันธ์ กล่าว


นายจุลพันธ์ กล่าวว่า เช่นเดียวกับคำว่า คิดไปทำไป ซึ่งต้องยอมรับความจริงว่า เรารับมรดกมาจากรัฐบาลก่อนหน้าด้วยสภาพเศรษฐกิจที่เป็นอยู่ ซึ่งนายพิชัย ชุณหวชิร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง จะขึ้นมาอธิบายว่าสถานการณ์เศรษฐกิจปัจจุบันเป็นอย่างไร เรารับมรดกมาไม่ว่าจะเป็นหนี้สาธารณะหนี้ครัวเรือน 90 กว่าเปอร์เซ็นต์ ทั้งหมดนี้มาถึงมือเรา และเรามีหน้าที่ในการบริหารจัดการหน้าต่อไป

ส่วนคำว่าคิดไปทำไป ก็แย้งกับคำว่า เสียหน้าไม่ได้ เพราะตนเองเป็นคนดำเนินโครงการมาตั้งแต่ต้น การปรับเปลี่ยนแต่ละครั้ง ก็โดนว่า ทั้งเรื่องเกณฑ์การลดจำนวนคน เป็นข้อเสนอจากหน่วยงาน ซึ่งเราต้องรับฟัง บางอย่างเราต้องถอยเพื่อเดินหน้าอย่างแข็งแกร่ง ซึ่งสวัสดิการของผู้สูงอายุก็ไม่พร้อมในขณะนี้ ยังไม่สามารถทำได้ทันที เช่นเดียวกัน เราเข้าใจในข้อจำกัดสถานการณ์ที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน ซึ่งจะต้องมีการบริหารจัดการให้เหมาะสมที่สุด เพื่อที่จะเดินหน้าโครงการแต่ละโครงการ โดยใช้เม็ดเงินอย่างประหยัด คุ้มค่า และเกิดประโยชน์สูงสุด

นายจุลพันธ์ ระบุว่า นี่จึงไม่ใช่การไม่รอบคอบ แต่นโยบายนี้ ต้องใช้คำว่าคิดนอกกรอบ นอกจากจะวางรากฐานทางเศรษฐกิจดิจิทัล ยังมีการสร้างระบบการเงิน การโอนเงินของรัฐให้กับประชาชน มีแอปพลิเคชั่นกลาง ในการให้บริการประชาชน เป็นโครงการที่จะสามารถกระตุ้นให้คน 50 ล้านคน มาลงทะเบียนกับรัฐ ผ่านมาตรฐาน ซึ่งทำให้บัตรประจำตัวดิจิทัลสามารถใช้ล็อกอินในทุกบริการของรัฐในอนาคต และใช้บริการของรัฐได้ทุกประเภท นี่คือประโยชน์ของประชาชนและประโยชน์ของรัฐอย่างมหาศาล ทำให้ประชาชนไม่ต้องเสียเวลาเดินทางไปยังหน่วยงานของรัฐ เพื่อรับบริการ เพิ่มความรวดเร็วในการให้บริการประชาชนผ่านทางการนำระบบคอมพิวเตอร์ หรือใช้เอไอมาตัดสินใจ ลดความผิดพลาดการตัดสินใจของบุคลากร ซึ่งหลายครั้งทำเป็นช่องโหว่ในการทุจริตคอรัปชั่น และการรั่วไหลของงบประมาณ และระบบนี้สามารถให้บริการประชาชน 24 ชั่วโมงไม่ว่าพี่น้องประชาชนจะมีความต้องการเข้าถึงบริการของรัฐเวลาใด


กลไกทั้งหมดนี้สามารถลดค่าใช้จ่ายในการให้บริการของภาครัฐได้โดยเฉพาะเรื่องบุคลากร เราคุยกันมาตลอดว่าจะลดจำนวนบุคลากรของภาครัฐได้อย่างไร เงินเดือนราชการ เป็นค่าใช้จ่ายประจำที่ไม่สามารถปรับเปลี่ยนได้ เพราะเราใช้กำลังคนในภาครัฐจำนวนมาก แต่ด้วยกลไกของแอพลิเคชั่นใหม่ จะสามารถทำให้เราให้บริการผ่านทางรูปแบบออนไลน์ และระยะยาวเราจะสามารถวางแผนในการจัดสรรโครงสร้างของภาครัฐได้อย่างมีความเหมาะสมมากขึ้น

ส่วนเรื่องแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เรามีประชาชนจำนวนมากในปัจจุบัน ที่กลายเป็นเหยื่อ และสูญเสียเงิน กลไกในแอปพลิเคชั่นนี้ จะเป็นตัวกลางที่จะยืนยันได้ว่า อะไรก็ตามที่แจ้งเตือน หรือแจ้งผ่านระบบใหม่ คือระบบของรัฐที่จะส่งผ่านข้อความ ข้อมูล คำถามไปยังประชาชน ทำให้ประชาชนเกิดความมั่นใจและลดการถูกหลอกลวงผ่านทางระบบรวมถึงการป้องกันเตือนภัยสาธารณะด้วย

นายจุลพันธ์ ยอมรับว่า โครงการนี้เป็นโครงการเรือธงของรัฐ เพราะเป็นโครงการใหญ่ และประชาชนทั่วประเทศรอคอย กับการที่เม็ดเงินที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจไปถึงมือ แต่อย่างไรก็ตาม โครงการอื่น ๆ ที่ปรับเปลี่ยนโครงสร้างพื้นฐาน พัฒนาโครงสร้างทางเศรษฐกิจ ก็ยังมีควบคู่กันไปด้วย ทั้งการพัฒนาทักษะแรงงาน การผลิตอุตสาหกรรมแห่งอนาคต

นายจุลพันธ์ อภิปรายยอมรับว่า เรากู้มากขึ้นในปีนี้ แต่เป็นการกู้ชั่วคราว เพราะจะนำเงินมากระตุ้นเศรษฐกิจในการทำโครงการดังกล่าว หลายท่านมีความห่วงใยว่า หากเรากู้เต็มเพดาน และมีวิกฤต จะไม่สามารถรับมือได้ ตามข้อเท็จจริง มีกลไกตาม พ.ร.บ. ที่เกี่ยวข้องในการบริหารจัดการภาครัฐ ที่จะสามารถรองรับ ไม่ว่าจะเกินวิกฤตในลักษณะใดก็ได้ เรายังสามารถเดินหน้าได้ แต่ที่สำคัญแนวคิดนี้ เมื่อสถานการณ์เศรษฐกิจไม่ได้อยู่ในสถานการณ์ที่ดีนัก พี่น้องประชาชนยังเดือดร้อนในเรื่องของรายรับ ค่าใช้จ่าย ค่าครองชีพประจำวัน เรามีพื้นที่ทางการคลัง เราจะใช้พื้นที่นี้ลงไปไม่ให้เกิดวิกฤติ ทำให้เศรษฐกิจเติบโตในตัวเลขที่เหมาะสม หรือรอให้เศรษฐกิจหนักไปกว่านี้ จนกระทั่งถึงจุดที่ยอมรับว่าหนักแล้ว และนำพื้นที่การคลังไปซ่อม ซึ่งเราผ่านประสบการณ์เช่นนี้มาหลายครั้ง ซึ่งใช้เงินเยียวยาสูงกว่ามหาศาล นี่จึงเป็นแนวทางของรัฐบาลชุดปัจจุบันว่าเรามีความจำเป็นที่ต้องใช้พื้นที่ทางการครั้งนี้ ในการกระตุ้นเศรษฐกิจให้พี่น้องประชาชน

นายจุลพันธ์ ยืนยันตามข้อเท็จจริงว่าไม่มีงบประมาณจากหน่วยงานไหนถูกตัดไปทำโครงการดังกล่าวโดยสำนักงานงบประมาณได้พิจารณาจัดลำดับความสำคัญ ยืนยันว่า เม็ดเงินทุกบาท มีประสิทธิภาพ เกิดการหมุนเวียนหลายรอบ และเกิดประโยชน์กับประชาชนมากที่สุด.-317.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบร่างพลทหารรัวยิงชาวบ้านแล้ว คาดจบชีวิตตัวเองในป่า

15 ส.ค.- พบร่างพลทหารที่ก่อเหตุยิงชาวบ้านแล้ว คาดใช้อาวุธปืนจบชีวิตตัวเอง ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 200 เมตร อยู่ระหว่างเคลียร์พื้นที่ นำร่างผู้เสียชีวิตออกมา เมื่อเวลาประมาณ 10.30 น. พบร่างพลทหารที่ก่อเหตุยิงชาวบ้านแล้ว คาดใช้อาวุธปืนจบชีวิตตัวเอง ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 200 เมตร ซึ่งเป็นป่าติดกับคลองส่งน้ำ เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างเคลียร์พื้นที่ นำร่างผู้เสียชีวิตออกมาส่งพิสูจน์ทราบต่อไป ด้านครอบครัวที่มาเฝ้ารอ ต่างเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น – สำนักข่าวไทย

ทบ.แจงเหตุทหารรัวยิงชาวบ้านกาบเชิง เจ็บ 2 ยังคุมตัวไม่ได้

15 ส.ค.- กองทัพบกแจงเหตุทหารหนีออกจากหน่วยพร้อมอาวุธปืน รัวยิงกลางดึก ชาวบ้านกาบเชิง เจ็บ 2 ราย จนท.เร่งล่า ยังไม่พบตัว หากประชาชนพบเห็นรีบแจ้งทันที กองทัพบกชี้แจงเหตุการณ์ใช้อาวุธปืนในพื้นที่อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2568 เวลา 00.45 น. กำลังพลกองร้อยทหารราบที่ 1623 ได้ยินเสียงปืนดังเป็นชุด จำนวน 10 นัด บริเวณถนนข้างวัดบ้านเขื่อนแก้ว อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ ต่อมาเวลา 00.54 น. ได้ยินเสียงปืนเพิ่มอีก 2 นัด จากการตรวจสอบกำลังพลและอาวุธประจำกาย พบว่า พลทหารรัฐภูมิ เทพศิริ สังกัดกองร้อยทหารราบที่ 1623 ได้ออกจากที่ตั้งโดยไม่ได้รับอนุญาต พร้อมอาวุธปืนเล็กยาวและกระสุนจำนวนหนึ่ง เจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย ได้แก่ ผู้บาดเจ็บทั้งสองรายได้รับการปฐมพยาบาลเบื้องต้นและส่งโรงพยาบาลกาบเชิง ก่อนส่งต่อรักษาตามความเหมาะสม โดยขณะนี้พ้นขีดอันตรายแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจร่วมกับกำลังพลกองร้อยทหารราบที่ 1623 ได้ตรวจสอบพื้นที่และสอบถามพยาน เบื้องต้นคาดว่าพลทหารดังกล่าวอาจเป็นผู้ก่อเหตุ […]

แจ้งจับ “ภูมิธรรม” ปล่อยกัมพูชารุกราน ทำไทยเสียเปรียบ

ขอนแก่น 15 ส.ค. – องค์กรต่อต้านคอร์รัปชันภาคพลเมืองจังหวัดขอนแก่น แจ้งความเอาผิด “ภูมิธรรม” รักษาการนายกฯ ไม่ทำหน้าที่ตัวเอง ปล่อยกัมพูชารุกรานไทย องค์กรต่อต้านคอร์รัปชันภาคพลเมืองจังหวัดขอนแก่น เข้าแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน เพื่อเอาผิด นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ในข้อหาหรือฐานความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา ม.119, ม.120, ม.124 ม.157 และมาตราอื่นที่เกี่ยวข้อง นายตุลย์ ประเสริฐศิลป์ ประธานองค์กรต่อต้านคอรัปชั่นภาคพลเมืองจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า การมาร้องทุกข์กล่าวโทษครั้งนี้ ด้วยเรื่องเอกราชและอธิปไตยของชาติเป็นสิ่งสำคัญสูงสุด แต่รักษาการนายกฯ ไม่ได้ทำหน้าที่ตัวเอง โดยปล่อยปละละเลยทำให้ต่างชาติรุกรานประเทศไทย ต้องปกป้องรักษาเอกราชและอธิปไตยของชาติให้มั่นคง แต่ที่ทหารขาขาด บาดเจ็บ ประชาชนล้มตายทรัพย์สินเสียหาย คือ ความร้ายแรงของของผู้รักษาการนายกรัฐมนตรีต้องทำและต้องปกป้องให้ได้ แต่ไม่มี มีแต่ไปเข้าข้างศัตรูโดยเฉพาะกัมพูชา เป็นโทษร้ายแรงมาก.-สำนักข่าวไทย

“วีระ” เตือน รัฐบาลควรเลิกนโยบายกึ่งการคลัง หลังแบกหนี้ 1 ล้านล้านบาท

รัฐสภา 15 ส.ค.-“วีระ” เตือน รัฐบาลควรเลิกนโยบายกึ่งการคลัง ผ่านสถาบันการเงินเฉพาะกิจ หลังแบกหนี้ 1 ล้านล้านบาท ตั้งคำถามหลายรัฐวิสาหกิจมีผลกำไรดี จะมาตั้งของบอีกทำไม นายวีระ ธีระภัทรานนท์ ในฐานะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 ในเรื่องของรัฐวิสาหกิจ ว่า ในเอกสารงบประมาณที่เป็นงบประมาณรายจ่าย มาตรา 29 มีรัฐวิสาหกิจ 21 แห่งของบประมาณรวมกันทั้งสิ้น 79,298 ล้านบาท แต่ค่าใช้จ่ายของรัฐวิสาหกิจทั้งหมด 1.43 แสนล้านบาท ซึ่งในรัฐวิสาหกิจ 21 แห่งที่ของบประมาณมาตนไม่ค่อยติดใจ เพราะมีรัฐวิสาหกิจจำนวนหนึ่งไม่มีรายได้ อีกส่วนเป็นรัฐวิสาหกิจมีรายจ่ายมากกว่ารายได้ บางรัฐวิสาหกิจมีหนี้สินจำนวนมาก เช่น ขสมก. การรถไฟแห่งประเทศไทย นายวีระ ฝากไปถึงคนที่ต้องจัดการรัฐวิสาหกิจว่า รัฐวิสาหกิจที่มีปัญหารัฐบาลต้องตัดสินใจให้เด็ดขาดว่า รัฐวิสาหกิจเหล่านั้นคงอยู่ต่อไปในสภาพแบบนั้น หรือ จะดำเนินการแปรรูปให้เอกชนเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ เพื่อไม่ให้เกิดภาระการคลังในอนาคตอย่างที่เป็นอยู่ปัจจุบัน สำหรับกรณี บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ซึ่งประสบความสำเร็จในการฟื้นฟูกิจการ โดยที่รัฐบาลยังถือหุ้นใหญ่อยู่ประมาณ 40% แต่ไม่มีสถานะภาพเป็นรัฐวิสาหกิจอีกต่อไป […]

ข่าวแนะนำ

ผ่านฉลุย สภาฯ ไฟเขียวงบ 69 เห็นชอบ 257 : 230

รัฐสภา 15 ส.ค.- ผ่านฉลุย สภาฯ ไฟเขียวงบ 69 เห็นชอบ 257 ต่อ 230 ด้าน ‘พิชัย’ ขอบคุณสภาฯ ยันจะใช้งบให้ตรงตามวัตถุประสงค์โปร่งใส-เป็นประโยชน์ต่อประชาชนและประเทศ ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายไชยา พรหมา รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 เป็นประธานการประชุม วาระพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2569 ที่คณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญฯ พิจารณาเสร็จแล้ว โดยมีการตั้งวงเงินงบประมาณ จำนวน 3.78 ล้านล้านบาท ซึ่งที่ประชุมสภาฯ ใช้เวลาอภิปรายตลอด 3 วัน ระหว่างวันที่ 13-15 สิงหาคม และลงมติเมื่อเวลา 22.50 น. ผลปรากฏว่า จากจำนวนสมาชิก 487 เสียง เห็นด้วย 257 เสียง ไม่เห็นด้วย 230 เสียง งดออกเสียง 1 […]

พลทหารยิงชาวบ้านเจ็บ 2 ก่อนหนีเข้าป่า จบชีวิตตัวเอง

สุรินทร์ 15 ส.ค. – ตื่นตระหนก เหตุพลทหารที่ปฏิบัติภารกิจในพื้นที่ชายแดน อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ ควงปืนอาวุธประจำกาย ออกมายิงชาวบ้าน มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย ก่อนจะหลบหนี และสุดท้ายปลิดชีพตนเอง ขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวนหาสาเหตุ ติดตามได้จากรายงานของศูนย์ข่าวภาคตะวันออกเฉียงเหนือ.-สำนักข่าวไทย

ไล่ล่าโจรชิงทอง 123 บาท กลางห้างย่านบางบ่อ

สมุทรปราการ 15 ส.ค. – ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ เรียกประชุมตำรวจที่เกี่ยวข้อง แกะรอยหาเบาะแส ไล่ล่าโจรชิงทองห้างย่านบางบ่อ ยืนยันจำนวนทอง 123 บาท มูลค่ากว่า 6 ล้าน ขณะที่พนักงานยังผวาทุกครั้งที่เห็นคนใส่ชุดไรเดอร์เดินเข้าห้าง จากเหตุการณ์คนร้ายแต่งกายด้วยชุดไรเดอร์ สวมกางกางยีนขายาวสีดำ รองเท้าผ้าใบสีขาว เดินเท้าบุกเดี่ยวมาที่ร้านทอง แล้วชักอาวุธปืนพกแบบออโตเมติก สีบอร์นซ์ ขู่บังคับให้พนักงานขายทองซึ่งเป็นหญิง 3 คน หยิบทองรูปพรรณส่งให้คนร้าย แต่พนักงานขายทองไม่หยิบส่งให้ และหมอบลงกับพื้น คนร้ายจึงกระโดดข้ามตู้ทองด้านหน้าร้าน ไปเลื่อนกระจกตู้ทองด้านหลัง หยิบเอาทองคำรูปพรรณ มีสร้อยข้อมือ หนัก 5 บาท 5 เส้น น้ำหนัก 25 บาท น้ำหนัก 3 บาท 30 เส้น น้ำหนักรวม 90 บาท, หนัก 2 บาท 24 เส้น รวม 48 บาท […]

ย้าย “ลุงพล” มาคุมขังต่อที่เรือนจำกลางนครพนม

15 ส.ค. – เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ ย้ายตัว “ลุงพล” จำเลยคดีน้องชมพู่ ไปควบคุมต่อที่เรือนจำกลางนครพนม ด้าน “ป้าแต๋น” ตามมาเยี่ยมให้กำลังใจสามี บอกเอาหัวใจมาฝาก ยืนยันลุงพลสู้ต่อถึงฎีกา หลังเมื่อวันที่ 13 สิงหาคมที่ผ่านมา ศาลอุทธรณ์ภาค 4 พิพากษาแก้เพิ่มโทษ นายไชย์พล วิภา หรือ “ลุงพล” จำเลยที่ 1 จาก 20 ปี เป็น 26 ปี และยกฟ้อง นางสมพร หลาบโพธิ์ หรือ “ป้าแต๋น” ในคดีฆ่า เด็กหญิงอรวรรณ หรือน้องชมพู่ อายุ 3 ขวบ หลังหายตัวจากบ้านพัก ขณะนั่งเล่นกับพี่สาวที่บ้าน กกกอก ต.กกตูม อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร เหตุเกิดช่วงเช้าวันที่ 11 พ.ค.2563 ต่อมาจำเลย ได้ยื่นหลักทรัพย์ขอปล่อยตัวชั่วคราว และวานนี้ ศาลฎีกาไม่อนุญาตให้ประกันตัว […]