ปตท. ย้ำใน 10 – 15 ปี มีแค่ 3 สถานีแอลเอ็นจีก็เพียงพอ

ชลบุรี 11 ต.ค. – ซีอีโอ ปตท. ย้ำใน 10 – 15 ปี มีแค่ 3 สถานีแอลเอ็นจีก็เพียงพอ ด้าน รมว.พลังงานขีดเส้น ปตท.ทำแผนฮับแอลเอ็นจีภายใน 2 เดือน   พร้อมสร้างความมั่นใจ ดูแลเสถียรภาพพลังงานแม้เกิดเหตุระเบิดเรืออิหร่าน



นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน พร้อมด้วยนายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงาน และผู้บริหารกระทรวงพลังงาน ร่วมเยี่ยมชมและรับฟังการบรรยายสรุปการดำเนินงานธุรกิจก๊าซธรรมชาติ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (ปตท.) โดยมี นายชาญศิลป์ ตรีนุชกร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ โดย รมว.พลังงานระบุว่า ในส่วนของกรณีเรือบรรทุกน้ำมันอิหร่านระเบิดที่ได้ส่งผลต่อสถานการณ์น้ำมันโลกทางกระทรวงได้ติดตามอย่างใกล้ชิด โดยปริมาณน้ำมันสำรองของเรารองรับได้หากเกิดวิกฤติด้านการผลิตหรือขนส่งน้ำมัน  ส่วนเรื่องราคาที่อาจผันผวนมีกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงที่จะช่วยรองรับได้


ทั้งนี้ จากการตรวจเยี่ยมศูนย์ปฏิบัติการชลบุรี พบว่า มีการควบคุมการรับส่งก๊าซระยะทางไกลแบบเรียลไทม์ (Real time) เพื่อให้การขนส่งก๊าซไปให้ลูกค้าตรงเวลา มีคุณภาพก๊าซตรงตามความต้องการด้วยความปลอดภัยและต่อเนื่องมั่นคง และเพื่อเพิ่มรายได้เข้าประเทศได้มอบให้ ปตท.ทำแผนการเป็นฮับจำหน่ายแอลเอ็นจีในอาเซียนให้แล้วเสร็จใน 2 เดือนนี้เบื้องต้น ปตท. พร้อมขนส่งทั้งทางรถทางเรือให้แก่ลูกค้าทั้งในและต่างประเทศ  

นายชาญศิลป์ กล่าวว่า ก๊าซธรรมชาติถือเป็นพลังงานที่สำคัญยิ่งในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ พัฒนาชีวิตความเป็นอยู่ของคนไทยทุกคน ทำให้ธุรกิจก๊าซธรรมชาติ เป็นธุรกิจต้นน้ำอยู่คู่กับ ปตท. มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องมาตลอด 40 ปี จนปัจจุบันได้ขยายการจัดหา จัดจำหน่ายก๊าซฯ ทั้งจากประเทศเพื่อนบ้าน และนำเข้า LNG จากต่างประเทศ ซึ่งการดำเนินงานทั้งหมดก็เพื่อสร้างความมั่นคงทางพลังงานของประเทศไทย และปัจจุบันได้มุ่งไปสู่การเป็นศูนย์กลางด้านพลังงานของภูมิภาค ตามนโยบายจากภาครัฐต่อไป


“จากที่ไทยมีสถานีรับส่งแอลเอ็นจีทั้งมาบตาพุดและหนองแฟบรวมรับได้ 19 ล้านตัน /ปีและกำลังจะก่อสร้างอีกแห่งตามแผนสร้างท่าเรือมาบตาพุดระยะที่ 3 จึงเห็นว่าไม่จำเป็นต้องมีสถานีแห่งใหม่ โดยเฉพาะ FSRU เกิดขึ้น ใน 10 – 15 ปีนี้ เราจะเสนอความเห็นแก่กระทรวงพลังงานใน 2 เดือนนี้” นายชาญศิลป์กล่าว

สำหรับการนำเข้าแอลเอ็นจีของ ปตท. ในปีนีั้ ไม่มีแผนนำเข้าราคาสปอตแต่อย่างใด นำเข้าตามสัญญาระยะยาว 5.2 ล้านตัน โดยนำเข้ามาแล้ว 4 ล้านตัน ในขณะที่ความต้องการใช้ก๊าซธรรมชาติของประเทศ ปีนี้คาดอยู่ที่ 4, 800 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน ขยายตัวจากปีที่แล้วเล็กน้อย เป็นผลจากความต้องการใช้ภาคไฟฟ้าทรงตัวตามทิศทางขยายตัวของพลังงานทดแทน ส่วนการใช้ภาคอุตสาหกรรมขยายตัวเพราะมีการนำไปใช้ทดแทนน้ำมันเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม การใช้ก๊าซส่วนใหญ่ คือภาคไฟฟ้า, ปิโตรเคมี, ขนส่ง ในขณะที่ภาคอุตสาหกรรมมีความต้องการเพียง 250 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน จำนวนลูกค้า 400 ราย . – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน อากาศเย็นในตอนเช้า ภาคใต้ฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก