กรุงเทพฯ 2 ต.ค. – อธิบดีกรมชลฯ ระบุน้ำท่วมอำเภอวารินฯ ลดลงเท่าระดับตลิ่งพรุ่งนี้ เร่งสูบน้ำท่วมขังพื้นที่ลุ่มต่ำออกด่วนที่สุด ป้องกันน้ำเน่าเสีย สั่งสำรวจความมั่นคงแข็งแรงอาคารชลประทานทุกพื้นที่
นายทองเปลว กองจันทร์ อธิบดีกรมชลประทาน กล่าวว่า ระดับน้ำแม่น้ำมูลเวลา 06.00 น.วันนี้ (2 ต.ค.) สูงกว่าตลิ่งฝั่งอำเภอวารินชำราบ 47 เซนติเมตร การระบายน้ำมูลลงสู่แม่น้ำโขงทำได้สะดวก เนื่องจากระดับแม่น้ำโขงต่ำกว่าแม่น้ำมูลมากกว่า 4 เมตร ทำให้ระดับน้ำลดลงวันละ 35 – 40 เซนติเมตร ดังนั้นมั่นใจว่าภายในบ่ายพรุ่งนี้ (3 ต.ค.) น้ำแม่น้ำมูลจะลดลงเท่ากับระดับตลิ่งแน่นอน ขณะนี้สั่งการให้นำเครื่องสูบน้ำไปติดตั้งในพื้นที่ลุ่มต่ำที่มีน้ำขังเพื่อสูบให้แห้งโดยเร็วป้องกันน้ำเน่าเสียจากที่ท่วมขังมานาน โดยฝั่งอำเภอเมืองอุบลราชธานีนั้น ได้เดินเครื่องทุกจุดแล้ว ส่วนฝั่งอำเภอวารินชำราบ เจ้าหน้าที่กำลังสำรวจว่า จะดำเนินการในพื้นที่ใดได้ก่อน ซึ่งจะใช้กระสอบทรายปิดล้อมพื้นที่ที่น้ำขัง แล้วสูบกลับออกสู่แม่น้ำมูล
นอกจากนี้ ยังกำชับให้เร่งสำรวจอาคารชลประทานทุกแห่งในพื้นที่ที่ประสบอุทกภัย ได้แก่ พนังกั้นน้ำ ประตูระบายน้ำ คลองหลัก คลองย่อยว่า ถูกน้ำกัดเซาะเสียหายหรือไม่ หากชำรุดเสียหายให้เร่งซ่อมแซมด่วนที่สุด เพื่อให้สามารถใช้บริหารจัดการน้ำและเก็บกักน้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพสำหรับไว้ใช้ในฤดูแล้ง
ด้านนายศักดิ์ศิริ อยู่สุข ผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 6 กล่าวว่า ในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนกลางนั้น สถานการณ์เข้าสู่ภาวะปกติแล้ว แต่ยังคงมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ลการเกษตรที่ลุ่มต่ำบางแห่ง ซึ่งเร่งสำรวจความเสียหายและฟื้นฟู ขณะนี้วางแผนการบริหารจัดการน้ำปลายฤดูฝน 62 โดยให้เก็บกักน้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่และขนาดกลางหลายแห่ง เพื่อสำรองไว้ใช้ในฤดูแล้งปี 2562/2563 ซึ่งจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายนนี้
สำหรับสถานการณ์น้ำเขื่อนขนาดใหญ่ 3 แห่งนั้น เขื่อนลำปาว จังหวัดกาฬสินธุ์แห่งเดียวที่อยู่ในเกณฑ์น้ำมาก โดยน้ำใช้การ 1,614 ล้าน ลบ.ม. จากความจุเก็บกัก 1,980 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 81 ของความจุ ส่วนเขื่อนอุบลรัตน์ จังหวัดขอนแก่น ความจุเก็บกัก 2,431 ล้าน ลบ.ม. น้ำใช้การได้ 58 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 3 ของความจุ ซึ่งถือว่าอยู่ในเกณฑ์น้ำน้อย และเขื่อนจุฬาภรณ์ จังหวัดชัยภูมิ ความจุเก็บกัก 163 ล้าน ลบ.ม. น้ำใช้การ 13 ล้าน ลบ.ม.คิดเป็นร้อยละ 10 ของความจุ ซึ่งอยู่ในเกณฑ์น้ำน้อยเช่นกัน ส่วนอ่างเก็บน้ำขนาดกลาง 69 แห่ง ความจุรวม 440 ล้าน ลบ.ม. น้ำใช้การได้ 320 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 80
นายศักดิ์ศิริ กล่าวต่อว่า ได้วางแนวทางในการบริหารจัดการน้ำช่วงปลายฤดูฝนนี้ โดยเขื่อนลำปาวเริ่มส่งน้ำเข้าระบบเพื่อหล่อเลี้ยงข้าวที่กำลังตั้งออกรวงในช่วง 2 สัปดาห์นี้ เพื่อให้เกษตรกรเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ ด้านเขื่อนอุบลรัตน์และเขื่อนจุฬาภรณ์มีปริมาณน้ำอยู่ในเกณฑ์น้ำน้อย เพียงพอสำหรับการอุปโภคและบริโภคเท่านั้น ส่วนพื้นที่รับน้ำจากอ่างเก็บน้ำขนาดกลางต่าง ๆ ที่มีปริมาณน้ำเพียงพอส่งน้ำเพื่อการเกษตรจะส่งน้ำเพื่อให้เกษตรกรทำการเกษตรและปลูกต่อเนื่องทดแทนที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม
สำหรับมาตรการรับสถานการณ์น้ำฤดูแล้งปี 2562/2563 ได้ประเมินน้ำต้นทุนอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่และขนาดกลาง เพื่อประเมินพื้นที่เสี่ยงภัยแล้งด้านการอุปโภค-บริโภค สั่งการให้ทุกโครงการชลประทานทุกโครงการเร่งประชุมคณะกรรมการจัดการชลประทาน (JMC) เพื่อให้ผู้ใช้น้ำได้หารือแนวทางบริหารจัดการน้ำร่วมกันและเน้นย้ำให้รับทราบถึงสถานการณ์น้ำและแผนบริหารจัดการน้ำ ทำให้ผู้ใช้น้ำทุกภาคส่วนได้ปฏิบัติตามแผนการจัดสรรน้ำที่วางไว้และสามารถทำให้มีน้ำใช้ในกิจกรรมที่จำเป็นได้ตลอดฤดูแล้ง รวมถึงต้นฤดูเพาะปลูกหน้าในเดือนกรกฎาคม 2563.-สำนักข่าวไทย