ประจวบคีรีขันธ์ 3 ธ.ค.-ชาวบ้านบางสะพานน้อยไม่เห็นด้วยกับการตั้งอุทยานแห่งชาติอ่าวสยาม เนื่องจากเกรงจะส่งกระทบต่อการประกอบอาชีพประมงพื้นบ้าน ขณะที่หัวหน้าวนอุทยานป่ากลางอ่าวยืนยันไม่มีการเอื้อประโยชน์กลุ่มนายทุนอย่างที่ชาวบ้านวิตก แต่จะส่งผลดีกับการท่องเที่ยว
นายภัทร อินทรไพโรจน์ หัวหน้าวนอุทยานป่ากลางอ่าว ต.แม่รำพึง อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า หลังจากกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช มีคำสั่งให้สำรวจพื้นที่และดำเนินการผนวกรวมพื้นที่วนอุทยานป่ากลางอ่าว วนอุทยานแม่รำพึง อ.บางสะพาน ,เกาะทะลุ เกาะสิงห์ เกาะสังข์ อ.บางสะพานน้อย รวมพื้นที่กว่า 20,000 ไร่ เพื่อประกาศเป็น“อุทยานแห่งชาติอ่าวสยาม” ขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการตามขั้นตอนการประกาศเขตอุทยาน โดยมีการแต่งตั้งคณะกรรมการจากฝ่ายปกครองในพื้นที่ อ.บางสะพาน และ อ.บางสะพานน้อย รวมถึงผู้บริหารองค์กรปกครองท้องถิ่น เพื่อร่วมกันกำหนดแนวทางในการรังวัดพื้นที่และการบริหารจัดการ
“ขอยืนยันว่าการประกาศแนวเขตอุทยานแห่งใหม่จะไม่ส่งผลกระทบตามที่ชาวประมงพื้นบ้านหลายพื้นที่หวั่นวิตก โดยเฉพาะในพื้นที่ อ.บางสะพานน้อย ทราบว่ามีชาวประมงชายฝั่งได้รวมตัวเพื่อยื่นหนังสือร้องเรียนถึงนายอำเภอบางสะพานน้อย” หัวหน้าวนอุทยานป่ากลางอ่าว กล่าว
หัวหน้าวนอุทยานป่ากลางอ่าว เผยอีกว่า ขณะนี้รัศมีโดยรอบ 1 กิโลเมตร บริเวณรอบเกาะทะลุ เกาะสิงห์ และเกาะสังข์ ทางกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง(ทช.)ได้ประกาศเป็นพื้นที่คุ้มครองทางทะเลแล้ว เพื่อปกป้องทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เนื่องจากบริเวณดังกล่าวมีแนวปะการัง แม้ว่ายังไม่มีการประกาศเขตอุทยาน แต่กฎหมายดังกล่าวก็มีผลบังคับใช้แล้ว และเมื่อมีการประกาศเขตอุทยานแห่งใหม่เร็วๆนี้ ทช.ก็จะมอบอำนาจให้อุทยานแห่งชาติอ่าวสยามเป็นผู้ดูแลพื้นที่ทั้งหมด
“การประกาศเขตแนว ยืนยันว่าไม่มีการเอื้อประโยชน์ให้กับบุคลกลุ่มใด เนื่องจากการดำเนินการอยู่ในรูปแบบของคณะกรรมการในพื้นที่ร่วมพิจารณา เพื่อแก้ไขปัญหากรณีที่มีการร้องเรียนผลกระทบการประกอบอาชีพของคนในท้องถิ่น เชื่อว่าหลังการประกาศจะส่งผลดีกับการท่องเที่ยว” นายภัทร กล่าวและว่า สำหรับเกาะร่ำร่า เนื้อที่กว่า 500 ไร่ ในพื้นที่ ต.อ่างทอง อ.ทับสะแก นั้น ไม่ได้อยู่ในพื้นที่อุทยานแห่งใหม่แต่อย่างใด เนื่องจากที่ผ่านมามีการคัดค้าน
ด้านนายชนการ ทิพย์ประเสริฐสุข นายอำเภอบางสะพานน้อย กล่าวว่า ก่อนหน้านี้มีการทำประชาคมหมู่บ้าน เพื่อสอบถามความเห็นจากประชาชนกรณีการจัดตั้งอุทยานแห่งใหม่ตามนโยบายของรัฐบาล ปรากฏว่าชาวบ้านบางส่วนไม่เห็นด้วย เนื่องจากเกรงว่าจะมีผลกระทบทั้งการทำกินและการท่องเที่ยว ซึ่งฝ่ายปกครองจะเสนอความเห็นดังกล่าวไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อพิจารณาต่อไป เนื่องจากการประกาศเขตอุทยานจะมีข้อจำกัดหลายประการและที่สำคัญจะต้องมีการจ่ายค่าธรรมเนียมในการท่องเที่ยว ขณะที่ปัจจุบันการประกาศพื้นที่คุ้มครองทางทะเลของ ทช.บริเวณรอบเกาะทะลุ เกาะสิงห์ และเกาะสังข์ แหล่งท่องเที่ยวชื่อดัง ก็ถือว่ามีความเข้มงวดพอสมควร.-สำนักข่าวไทย