ประชุมนานาชาติ ยกระดับดูแลผู้ป่วยจิตเวช

รร.เดอะสุโกศล 20 ก.ย.-สธ.ร่วมกับภาคีเครือข่ายจัดประชุมวิชาการนานาชาติผสานความร่วมมือระดับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ยกระดับการดูแลผู้ป่วยจิตเวช หลังพบในอาเซียนป่วยจิตเภท 1 ล้านคน จาก 650 ล้านคน ขณะที่พบคนไทยป่วยจิตเภท 400,000 คน วอนคนใกล้ชิดเข้าใจและรับฟัง ไม่ต้องอายเข้าสู่การรักษาทางการแพทย์ เสนอรัฐบาลออกกฏหมาย ดูแลสุขภาพทางจิตตั้งแต่เกิด 


กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข สมาคมจิตแพทย์แห่งประเทศไทย และบริษัท จอห์นสัน แอนด์ จอนห์นสัน(ไทย) จํากัด จัดประชุมวิชาการนานาชาติกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในหัวข้อเรื่อง “Working Together, Delivering a Better Future for Mental Health Patients” หลังลงนามบันทึกข้อตกลงว่าด้วยความร่วมมือ “โครงการความร่วมมือระหว่างประเทศในอาเซียน เพื่อพัฒนาศักยภาพและมาตรฐานการดูแลผู้ป่วยจิตเวชแบบองค์รวม” เพื่อเผยแพร่วิทยาการ แลกเปลี่ยนประสบ การณ์การดูแลรักษาโรคทางจิตเวช และนําไปประยุกต์ใช้ในการดูแลรักษาผู้ป่วยให้มีคุณภาพดียิ่งขึ้น 


โดยมี นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต อธิบดีกรมสุขภาพจิต พร้อมด้วย รศ.นพ.ชวนันท์ ชาญศิลป์ นายกสมาคมจิตแพทย์แห่งประเทศไทย และน.ส.รสสุคนธ์ กองเกตุ หรือครูเงาะ ผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาบุคคลิกภาพ ร่วมให้ข้อมูลเกี่ยวกับนโยบายการดูแลผู้ป่วย ข้อมูลโรคและคำแนะนำการทำความเข้าใจและเปิดรับผู้ป่วยจากภาคสังคม กับผู้เข้าร่วมประชุม กว่า70 คน จาก 6 ประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทั้ง จิตแพทย์ พยาบาลทางด้านจิตเวช รวมถึงกลุ่มผู้ป่วย 


ทั้งนี้ ปัจจุบันประชากรของประเทศในกลุ่มอาเซียนกว่า 1ล้านคน จาก 650 ล้านคน ป่วยเป็นโรคจิตเภทขณะที่คนไทยอย่างน้อย 400,000 คนป่วยโรคดังกล่าวเช่นกัน วาระหลักของงานประชุมฯ ปี2562 ให้ความสำคัญกับโรคจิตเภท และช่องว่างในการรักษาผู้ป่วย โดยมุ่งเน้นไปในการนำข้อมูลการรักษาที่เกิดจากการใช้จริง มาใช้พัฒนาการตัดสินใจด้านสาธารณสุข และมุ่งเน้นไปถึงการพัฒนาประสบการณ์ของผู้ป่วยผ่านการใช้นวัตกรรมหรือเทคโนโลยีที่ทันสมัยเพื่อการดูแลรักษาผู้ป่วยแบบองค์รวม 

รศ.นพ.ชวนันท์ ชาญศิลป์ นายกสมาคมจิตแพทย์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า ปัจจุบันพิสูจน์แล้วว่าปัจจัยทางชีวภาพการเปลี่ยนแปลงของเคมีในสมองเกี่ยวข้องกับการป่วยโรคจิตเภท จึงจำเป็นต้องรักษาด้วยยาเพื่อให้อาการทุเลาและเพื่อป้องกันอาการกำเริบ ปัจจุบันการรักษาโรคจิตเภทก้าวหน้าไปมาก เรามียาหลายตัวและผู้ป่วยส่วนมากตอบสนองดีกับยา ปัญหาหลักๆ คือผู้ป่วยไม่รับการรักษาให้ต่อเนื่อง (รวมถึงการกินยาไม่สม่ำเสมอ) และความลำบากในการกลับคืนสู่สังคม ผู้ป่วยจิตเภทจำเป็น ต้องรับการรักษาต่อเนื่อง  เช่นเดียวกับโรคลมชัก หรือความดันโลหิตสูง บางคนเข้าใจว่าอาการดีแล้วไม่จำเป็นต้องกินยา กังวลเรื่องผลข้างเคียงของยาและรู้สึกอายที่จะเข้ารับการรักษา การไม่รับการรักษาอย่างต่อเนื่องทำให้อาการกำเริบและรักษายากยิ่งขึ้นเนื่องจากการตอบสนองต่อยาอาจไม่ดีเหมือนเดิม 

ปัจจุบันมียาฉีดที่ช่วยให้มียาอยู่ในร่างกายนานเป็นเดือนคล้าย ๆ  ยาคุม กำเนิด ก็ช่วยลดปัญหาการกินยาไม่ต่อเนื่องหรือลืมกินยาบางมื้อ ในด้านสังคมแม้ว่าผู้ป่วยจะมีอาการทุเลาแล้ว แต่สังคมยังมีความรู้สึกลบต่อโรคจิตเภททำให้ผู้ป่วยจำนวนหนึ่งกลับเข้าสู่สังคมได้ยาก ผู้ป่วยจิตเภทที่ป่วยเป็นเวลานานอาจจะมีทักษะทางสังคม และความสามารถในการคิดลดลงได้ ส่งผลต่อการกลับไปใช้ชีวิต  แต่สามารถฟื้นฟูได้ด้วยความช่วยเหลือจากบุคคลากรทางการแพทย์ ปัญหานี้ต้องอาศัยความร่วมมือจากหลายฝ่ายในการทำความเข้าใจกับสังคมถึงตัวโรคว่าปัจจุบันมีการรักษาที่ดีขึ้นสามารถทำให้ผู้ป่วยอาการดีได้ ในขณะเดียวกันผู้ป่วยและญาติก็ต้องร่วมมือในการรักษา

ปัจจุบันคนไทย 70 ล้านคน ป่วยเป็นโรคจิตเภทแล้วอย่างน้อย 400,000 คน ซึ่งไม่สามารถกันคนเหล่านี้ออกจากสังคม วิธีที่ดีคือความเข้าใจและเห็นใจเพื่ออยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข  ผู้ป่วยเมื่อรับการรักษาต่อเนื่องอาการก็จะดีอยู่ร่วมกันได้ และบางรายก็สามารถทำงานได้ ส่วนคนที่อาการไม่ดีก็ให้ช่วยกันพามารักษาแต่เนิ่น ก็จะได้คนที่อาการดีกลับไป เพื่อสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องต่อการรักษาและดูแลผู้ป่วย  สมาคมจิตแพทย์แห่งประเทศไทยร่วมกับบริษัท จอห์นสัน แอนด์ จอนห์นสัน (ไทย) จํากัด ได้จัดทำหนังสือให้ความรู้แก่ผู้ป่วย ญาติหรือบุคคลทั่วไป โดยสามารถดาวน์โหลดไปอ่านได้ฟรี ที่ facebook page ของสมาคมฯ https://th-th.facebook.com/ThaiPsychiatricAssociation  

น.ส.รสสุคนธ์ กองเกตุหรือครูเงาะ ผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาบุคคลิกภาพ กล่าวว่า อยากเสนอรัฐบาล ดูแลด้านสุขภาพจิตตั้งแต่เกิด เริ่มตั้งแต่ฝากครรภ์ เพื่อเสริมสร้างพัฒนาการด้านจิตใจ เมื่อเติบโตให้รู้เท่าทันอารมณ์ รวมทั้งทำให้พ่อแม่ผู้ปกครองมีแนวทางในการเลี้ยงดูบุตรหลานอย่างถูกทางมากขึ้น นอกจากนี้ไม่อยากให้สังคมรังเกียจผู้ป่วยอยากให้มองว่าผู้ป่วยจิตเวชคือคนปกติ เพียงแต่ป่วยเหมือนโรคทั่วไป เช่น ป่วยโรคหัวใจ ความดัน เพียงแค่ป่วยเป็นอาการทางจิตและควรได้รับการรักษาให้หาย ทุกคนควรเข้าใจ ไม่แบ่งแยกพวกเขาออกจากสังคม  

นอกจากนี้สังคมสามารถมีส่วนช่วยลดอคติหรือตราบาปให้กับผู้ป่วยได้เช่นกัน เช่น การลดตราบาปผ่านสื่อสามารถทำได้ด้วยการให้ข้อมูลที่ถูกต้อง ไม่เอามาล้อเล่น หรือใฝ่รู้ หาข้อมูลที่ถูกต้องเพื่อทำความเข้าใจ 

ไม่ล้อเลียน ให้เกียรติความเป็นมนุษย์ อยากให้กำลังใจผู้ป่วยและญาติในการจับมือกันฟันฝ่าความเจ็บป่วยด้วยกันเพื่อให้สามารถกลับมาอยู่ในสังคมได้อย่างปกติ .-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้นบ้านสามารถ

ดีเอสไอเข้าค้นบ้าน “สามารถ” คดีฟอกเงินดิไอคอน

ดีเอสไอเข้าค้นบ้าน “สามารถ เจนชัยจิตรวนิช” คดีฟอกเงินดิไอคอน หลังพบเงิน “บอสดิไอคอน” โอนเข้าบัญชีแม่ของนายสามารถ

หมอบุญ

THG แจงบริษัทไม่เกี่ยวข้องคดีต่างๆ ที่เกิดจาก “หมอบุญ”

THG แจงตลาดหลักทรัพย์ฯ ปัจจุบัน “หมอบุญ” ไม่ได้ดำรงตำแหน่งกรรมการและผู้บริหารใน THG คดีฉ้อโกงใดๆ ที่เกิดขึ้น บริษัทไม่เกี่ยวข้อง

คะแนนไม่เป็นทางการ เลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ

ลุ้นผลคะแนนเลือกตั้งนายก อบจ.นครศรีธรรมราช นับเสร็จแล้วบางหน่วย ล่าสุด ณ เวลา 19.40 น. “วาริน ชิณวงศ์” เบอร์ 2 จากทีมนครเข้มแข็ง ชนะคู่แข่งขาดลอยในหลายหน่วย คะแนนทิ้งห่างแชมป์เก่า “กนกพร เดชเดโช” เบอร์ 1 จากพรรค ปชป.

“ทนายสายหยุด” จ่อถอนตัวคดีตั้ม หวั่นติดร่างแห

“ทนายสายหยุด” เตรียมถอนตัวเป็นทนายให้ “ตั้ม” เผยในมือมีแต่พยานเท็จ ปิดบังข้อเท็จจริง เสี่ยงเป็นผู้ร่วมกระทำผิด

ข่าวแนะนำ

วิเคราะห์การเมืองสนามใหญ่ หลังศึกเลือกตั้งนายก อบจ.

วิเคราะห์ผลการเลือกตั้งนายก อบจ. 4 สนามใหญ่ โดยเฉพาะอุดรธานี ที่สะท้อนถึงความนิยมในตัวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี

“บิ๊กเต่า” ลั่นเตรียมมอบกุญแจมือเป็นของขวัญปีใหม่ให้คนดัง ส่งนอนห้องขัง

“บิ๊กเต่า” ลั่นเตรียมมอบ “กุญแจมือ” เป็นของขวัญปีใหม่ให้อินฟลูฯ นักร้อง คนดัง ส่งนอนห้องขังวีไอพี เผยปม “ฟิล์ม รัฐภูมิ” คาดมีความชัดเจนภายในสัปดาห์นี้

หมอบุญ

THG แจงบริษัทไม่เกี่ยวข้องคดีต่างๆ ที่เกิดจาก “หมอบุญ”

THG แจงตลาดหลักทรัพย์ฯ ปัจจุบัน “หมอบุญ” ไม่ได้ดำรงตำแหน่งกรรมการและผู้บริหารใน THG คดีฉ้อโกงใดๆ ที่เกิดขึ้น บริษัทไม่เกี่ยวข้อง