fbpx

ฝ่ายค้านลุยมหาสารคามเตือนรัฐเสียงปริ่มน้ำอย่ามั่นใจ

มหาสารคาม 14 ก.ย. -7 พรรคฝ่ายค้าน สัญจรครั้งที่ 2 จ.มหาสารคาม มอบถุงยังชีพผู้ประสบภัยน้ำท่วม ด้านตัวแทนชาวบ้านฝากช่วยบอกนายกฯ อย่าค้านทำนาปรัง ด้านหัวหน้าพรรคเพื่อไทย รับปากจะคอยกำชับให้เร่งช่วยเหลือการแก้น้ำท่วม เตือนรัฐบาลเสียงปริ่มน้ำอย่ามั่นใจมาก พรรคเล็กพร้อมถอนตัว


นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร พร้อมด้วยตัวแทน 7 พรรคฝ่ายค้าน ลงพื้นที่บ้านหนองหวาย หมู่ที่ 9 ต.ลาดพัฒนา อ.เมือง จ.มหาสารคาม  เยี่ยมให้กำลังใจและมอบถุงยังชีพให้กับประชาชน ที่ประสบภัยน้ำท่วมในพื้นที่นาที่ได้รับความเสียหาย โดยมีนพ.กิตติศักดิ์ คณาสวัสดิ์ ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ร่วมให้ข้อมูลพื้นที่

ด้าน นายประเสริฐ วันโพนทอง สมาชิก อบต.บ้านหนองหวาย ได้เป็นตัวแทนประชาชนบ้านหนองหวาย ระบุว่า ขอฝากไปยังฝ่ายค้านขอให้นายกรัฐมนตรีอย่าประกาศห้ามทำนาปรัง และต้องเปิดให้ประชาชนทำนาปรัง พร้อมสนับสนุนเมล็ดพันธุ์ข้าว และเสนอให้รัฐบาลสนับสนุนปัจจัยการผลิต และประกันราคาให้ราคาข้าวขึ้น 


นายสมพงษ์  อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย และผู้นำฝ่ายค้านฯ ระบุว่า ตนรับรู้ว่าพื้นที่บ้านหนองหวาย เป็นพื้นที่ต่ำทำให้น้ำมาท่วมรวมกันในที่แห่งนี้เป็นเวลาหลายเดือน จึงขอเพิ่มปั๊มน้ำอีก 4 เครื่องให้ชลประทานจังหวัด และตนจะคอยบอกรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องให้ช่วยสนับสนุนการแก้ปัญหาน้ำท่วมให้กับ จ.มหาสารคาม 

นายสมพงษ์ ระบุว่า การห้ามทำนาปรัง จะต้องกำหนดเวลาการทำเช่นถ้ามีน้ำสามารถทำได้ ไม่ใช่สั่งห้ามตลอด ส่วนการสนับสนุนเมล็ดพันธุ์ข้าว จะแจ้งไปถึงกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ให้มาช่วยสนับสนุนเมล็ดพันธุ์ข้าว พร้อมหวังให้ประชาชนบ้านหนองหวายให้กำลังใจกับฝ่ายค้านด้วย แม้รัฐบาลเสียงปริ่ม เพราะขณะนี้พรรคเล็กแตกกระจาย ไม่ชอบให้เรียกพรรคลิง หากมีการเลือกตั้งก็ขอให้ช่วยสนับสนุน 7 พรรคฝ่ายค้าน และฝากรัฐบสลอย่ามั่นใจให้มากกับเสียงปริ่มน้ำ เนื่องจากที่ผ่านมาเพลี่ยงพล้ำมาแล้วหลายครั้ง

ต่อมาเวลา 11.40 น. นายสมพงษ์ พร้อมตัวแทน 7 พรรคฝ่ายค้าน เดินทางไปที่บ้านใคร่นุ่น ต.มะค่า อ.กันทรวิชัย จ.มหาสารคาม เพื่อมอบถุงยังชีพให้กับประชาชนที่ประสบภัยน้ำท่วม และได้ขึ้นรถอีแต๋นไปสำรวจดูนาข้าว ซึ่งถูกน้ำท่วมจนได้รับความเสียหาย เนื่องจากประตูระบายน้ำระบายน้ำไม่ทันด้วย.- สำนักข่าวไทย      


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบศพโบลท์หญิงวัย 47 ในป่าหญ้าริมทาง คาดถูกฆ่าชิงรถ

โบลท์หญิงวัย 47 ปี หายตัวจากบ้านพักย่านดินแดง 9 วัน ล่าสุดพบเป็นศพในป่าหญ้าริมถนนสายนครชัยศรี-ห้วยพลู อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ส่วนรถยนต์โผล่ที่ จ.ภูเก็ต คาดถูกคนร้ายฆ่าชิงรถ

pagers on display

ทำไมยังมีการใช้ “เพจเจอร์” ในยุคสมาร์ทโฟน

ลอนดอน 19 ก.ย.- เพจเจอร์ หรือวิทยุติดตามตัวเป็นอุปกรณ์การสื่อสารยอดนิยมในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1990 ที่ต้องหลีกทางให้แก่โทรศัพท์เคลื่อนที่ เนื่องจากเป็นการสื่อสารทางเดียว แต่ยังคงมีการใช้งานในบางกลุ่ม รวมถึงกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ที่เพจเจอร์ระเบิดพร้อมกันหลายพันเครื่องทั่วเลบานอนเมื่อวันที่ 17 กันยายน แหล่งข่าวเผยว่า ฮิซบอลเลาะห์ใช้เพจเจอร์ เนื่องจากเป็นช่องทางสื่อสารเทคโนโลยีต่ำ ส่งข้อความผ่านสัญญาณวิทยุ จึงตรวจจับสัญญาณและตำแหน่งได้ยากกว่าโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ส่งสัญญาณไปยังเสาส่งที่อยู่ใกล้ที่สุด อีกทั้งไม่มีเทคโนโลยีระบุพิกัดบนพื้นโลกอย่างจีพีเอสด้วย อดีตเจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนกลางหรือเอฟบีไอ (FBI) ของสหรัฐเผยว่า ในอดีตแก๊งอาชญากรรมโดยเฉพาะแก๊งค้ายาเสพติดในสหรัฐเคยนิยมใช้เพจเจอร์ แต่ขณะนี้หันมาใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่แบบเติมเงินราคาถูกที่สามารถเปลี่ยนเครื่องและหมายเลขได้อย่างง่ายดาย ทำให้เจ้าหน้าที่ติดตามแกะรอยได้ยาก อย่างไรก็ดี  ศัลยแพทย์โรงพยาบาลใหญ่แห่งหนึ่งในสหราชอาณาจักรเผยว่า เพจเจอร์เป็นอุปกรณ์ที่แพทย์และพยาบาลสังกัดสำนักงานบริการสุขภาพแห่งชาติหรือเอ็นเอชเอส (NHS) ต้องพกติดตัวอยู่เสมอ เพื่อรับแจ้งข่าวในการปฏิบัติหน้าที่ เป็นช่องทางที่ถูกที่สุดและมีประสิทธิภาพมากที่สุดในการแจ้งข่าวทางเดียวกับคนจำนวนมาก เพจเจอร์หลายรุ่นสามารถส่งเสียงไซเรนและมีข้อความเสียงแจ้งให้ทีมแพทย์ไปรวมตัวที่ห้องฉุกเฉินได้ทันที ข้อมูลล่าสุดในปี 2562 ระบุว่า เอ็นเอชเอสใช้เพจเจอร์ประมาณ 130,000 เครื่อง คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 1 ใน 10 ของที่ใช้ทั่วโลก คอกนิทีฟมาร์เก็ตรีเสิร์ช  (Cognitive Market Research) ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยคาดการณ์ว่า ตลาดเพจเจอร์จะเติบโตร้อยละ 5.9 ต่อปี จากปี 2566 ถึงปี 2573 […]

ข่าวแนะนำ

ฆ่ารัดคอขับโบลท์

รวบ “ไอ้แม็ก” ฆ่ารัดคอหญิงขับโบลท์ พบเคยถูกจับคดีโหด

จับแล้ว “ไอ้แม็ก” เดนคุก ฆ่ารัดคอหญิงขับโบลท์ ทิ้งร่างอำพราง ริมถนนห้วยพลู จ.นครปฐม ก่อนเอารถไปขาย สอบประวัติ พบเพิ่งพ้นโทษ คดีล่ามโซ่ล่วงละเมิดเด็กวัย 13 ปี นาน 1 สัปดาห์ เมื่อปี 2553

พายุโซนร้อนซูลิก

ฤทธิ์พายุโซนร้อนซูลิก ทำฝนเริ่มตกหนักในพื้นที่นครพนม

ฤทธิ์พายุโซนร้อน “ซูลิก” ทำฝนเริ่มตกหนักในพื้นที่ จ.นครพนม เจ้าหน้าที่ต้องเร่งเดินเครื่องสูบน้ำลงน้ำโขง

อุตุฯ เตือนพายุ “ซูลิก” ฉบับที่ 12 ฝนถล่มหลายจังหวัด

กรมอุตุฯ ออกประกาศเตือนพายุ “ซูลิก” ฉบับที่ 12 ภาคเหนือ อีสาน กลาง รวมทั้งกรุงเทพฯ-ปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากกับมีลมแรง