วอชิงตัน 20 ธ.ค.- สหรัฐเผชิญวิกฤติงบประมาณต้องระงับการทำงานของหน่วยงานรัฐหรือที่เรียกว่า ชัตดาวน์อีกครั้ง เนื่องจากไม่สามารถผ่านร่างกฎหมายงบประมาณใหม่ โดยหากไม่มีทางออกก็จะต้องชัตดาวน์ในวันเสาร์นี้ วิกฤติครั้งนี้มองกันว่าเริ่มต้นมาจากนายอีลอน มัสก์ มหาเศรษฐีที่จะทำหน้าที่ในรัฐบาลใหม่ของนายโดนัลด์ ทรัมป์ นายมัสก์ต่อต้านร่างกฎหมายงบประมาณเดิม ทำให้นายทรัมป์ต่อต้านไปด้วย ด้านพรรครีพับลิกันของนายทรัมป์จึงได้เสนอร่างงบประมาณใหม่ขึ้นมาแทน แต่ด้วยเงื่อนไขที่ต่างไปจากเดิมทำให้สภาผู้แทนราษฎรไม่รับรองเช่นกัน จึงเสี่ยงที่จะไม่มีกฎหมายทันเวลาเที่ยงคืนของวันศุกร์ที่หน่วยงานรัฐบาลจะไม่มีงบประมาณใช้ หรือที่เรียกว่า ชัตดาวน์ ตั้งแต่วันเสาร์นี้เป็นต้นไป ร่างงบประมาณใหม่ที่ไม่ผ่านสภาผู้แทนราษฎรเมื่อวันพฤหัสบดีตามเวลาสหรัฐมีเนื้อหาไม่ต่างจากร่างงบประมาณที่นายทรัมป์และนายมัสก์ตำหนิว่าอ่อนข้อให้แก่พรรคเดโมแครตมากเกินไป โดยร่างงบประมาณใหม่ได้ขยายเวลาจัดสรรงบประมาณไปจนถึงเดือนมีนาคม 2568 จัดสรรงบบรรเทาภัยพิบัติ 100,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 3.46 ล้านล้านบาท) และระงับการใช้เพดานหนี้ระดับประเทศเป็นเวลา 2 ปี เพื่อให้ทรัมป์สามารถผ่านมาตรการลดภาษีตามที่หาเสียงไว้ ขณะนี้ยังไม่ยังไม่มีความชัดเจนว่า รัฐสภาจะดำเนินการอย่างไร เนื่องจากการอนุมัติงบประมาณต้องใช้เสียงสนับสนุนจากสภาชุดปัจจุบันที่พรรครีพับลิกันคุมเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎร พรรคเดโมแครตและสมาชิกวุฒิสภาอิสระคุมเสียงข้างมากในวุฒิสภา หากไม่มีทางออกจะเป็นการชัตดาวน์ช่วงเทศกาลวันหยุดส่งท้ายปีซ้ำสอง จากครั้งแรกเมื่อปี 2561 ที่นายทรัมป์ดำรงตำแหน่างสมัยแรก และจะกระทบต่อการทำงานของหน่วยงานต่าง ๆ ก่อนช่วงหยุดยาวคริสต์มาสและปีใหม่.-812(814).-สำนักข่าวไทย