ทำเนียบฯ 15 ส.ค.-“สนธิรัตน์” เผย “พล.อ.ประวิตร” ร่วมประชุมกับ พปชร.ครั้งแรกในฐานะประธานยุทธศาสตร์พรรค 20 ส.ค.นี้ เชื่อแก้ปัญหาเสียงแตก-เสียงปริ่มน้ำได้ เผยรอ “พล.อ.ประวิตร” เลือกบุคคสำคัญนั่งกรรมการยุทธศาสตร์
นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานและในฐานะเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวถึงกรณี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี จะร่วมประชุมกับพรรคพลังประชารัฐเป็นครั้งแรกในวันที่ 20 สิงหาคมนี้ ว่า พล.อ.ประวิตร มาร่วมประชุมในฐานะประธานยุทธศาสตร์ของพรรค ซึ่ง พล.อ.ประวิตร จะเข้ามาช่วยขับเคลื่อนการทำงานระหว่าง ส.ส. กับการทำงานในพื้นที่เพื่อให้เป็นไปตามความต้องการของประชาชน และเชื่อมโยงกับพรรคในกรอบที่ได้วางไว้
ส่วนปัญหาที่พรรคพลังประชารัฐไม่สามารถควบคุมเสียงในสภาได้ โดยเฉพาะการโหวตลงมติจะเป็นปัญหาต่อการโหวตเรื่องสำคัญในอนาคตหรือไม่ นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า ตนเชื่อว่าวิปประสานงานพรรคร่วมรัฐบาลจะดำเนินการเรื่องนี้ได้ ซึ่งเท่าที่ได้พูดคุยกัน วิปทราบปัญหานี้แล้วและเชื่อว่าจะจัดการปัญหานี้ได้
“หลังจากนี้ไปต้องพูดคุยกันให้มากขึ้น และน่าจะบริหารจัดการได้ ขณะเดียวกันเห็นว่าเรื่องการเมืองเป็นเรื่องจุกจิก จะมีเรื่องต่าง ๆ เข้ามาแทรกบ้าง เป็นเรื่องธรรมดา” นายสนธิรัตน์ กล่าว
นายสนธิรัตน์ กล่าวถึงการปรับโครงสร้างพรรคพลังประชารัฐ ว่า ขณะนี้ยังไม่มี เมื่อถามว่า หลังจาก พล.อ.ประวิตร มาเป็นประธานยุทธศาสตร์พรรค จะมีบุคคลสำคัญคนอื่นมานั่งในตำแหน่งสำคัญ ทั้งรองประธานยุทธศาสตร์ หรือตำแหน่งอื่น ๆ หรือไม่ นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า หลังจากนี้จะต้องหารือกันอีกครั้ง เพราะ พล.อ.ประวิตร จะพิจารณาบุคคลที่จะเข้ามาในคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรค ซึ่งพรรคมีโครงสร้างอยู่แล้ว
เมื่อถามว่า ความชัดเจนของนายกรัฐมนตรี ที่จะเข้าร่วมทำงานกับพรรคพลังประชารัฐ นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า ยังไม่เห็นนายกรัฐมนตรีพูดเรื่องดังกล่าว
เมื่อถามย้ำถึงเรื่องการแพ้โหวตของพรรคร่วมรัฐบาล ที่ไม่สามารถควบคุมเสียงในสภาฯ ได้ ทำให้เกิดเสียงปริ่มน้ำ นายสนธิรัตน์ กล่าวติดตลกว่า สงสัยไม่มีวิทยุทรานซิสเตอร์ฟัง ซึ่งวิปรัฐบาลทราบปัญหาดังกล่าวแล้ว
เมื่อถามว่า หาก พล.อ.ประวิตร เข้ามาบริหารจัดการ จะเกิดปัญหาแพ้โหวตฝ่ายค้านหรือไม่นั้น นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า ต้องช่วยกัน ส่วนจะวางกลยุทธ์ให้ ส.ส.จับกลุ่มดูแลกันเองหรือไม่นั้น ต้องเป็นไปตามกระบวนการทำงานที่โดยปกติจะมีการดำเนินการอยู่แล้ว.-237 (225) สำนักข่าวไทย