ฝากขัง 2 มือบึ้มหน้า สตช. เร่งตามจับอีก 4 คนร้ายหลบหนี

กรุงเทพฯ 15 ส.ค.- ตร.คุมตัว 2 ผู้ต้องหามือวางระเบิดหน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ฝากขังศาลอาญารัชดา พร้อมคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากคดีมีอัตราโทษสูง เร่งตามจับอีก 4 คนร้าย หลังศาลอนุมัติหมายจับวานนี้


พนักงานสอบสวน สน.ปทุมวัน และ สน.บางรัก ควบคุมตัวนาย นายลูไอ แซแง อายุ 22 ปี และนายวิลดัน มาหะ อายุ 29 ปี สองผู้ต้องหาชาวจังหวัดนราธิวาส ที่ลอบวางระเบิดหน้าป้ายสำนักงานตำรวจแห่งชาติ บ่ายวันที่ 1 สิงหาคมที่ผ่านมา  ไปขออำนาจศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ฝากขังผลัดแรก ในข้อหา อั้งยี่ซ่องโจร มีวัตถุระเบิดไว้ในความครอบครอง พยายามฆ่าผู้อื่น และพกพาอาวุธ (ระเบิด) ไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุสมควร


หลังทั้งคู่ถูกจับกุมได้เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม ขณะอยู่บนรถ บขส. ผ่านด่านตรวจปฐมพร ที่จังหวัดชุมพร  และถูกคุมตัวไปสอบปากคำที่ศูนย์พิทักษ์สันติ ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติส่วนหน้า(ศปก.ตร.สน.) จ.ยะลา เมื่อช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา จากนั้นคุมตัวขึ้นมาที่กรุงเทพฯ สอบสวนเบื้องต้นยังให้การปฎิเสธ 

ขณะที่นายลูไอ แซแง มีสีหน้าเรียบเฉย ต่างจากนายนายวิลดัน มาหะ ที่แสดงสีหน้ายิ้มแย้ม ก่อนจะถูกเจ้าหน้าที่ควบคุมไปยังห้องเวรชี้ ด้านหลังศาลฯ


โดยท้ายคำร้อง พนักงานสอบสวนขอคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากเป็นคดีอุกฉกรรจ์มีอัตราโทษสูง และเกรงว่าผู้ต้องหาจะหลบหนี โดยหลังจากนี้ ผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย จะถูกควบคุมตัวไปที่เรือนจำชั่วคราว แขวงทุ่งสองห้อง ในมณฑลทหารบกที่ 11 ถนน แจ้งวัฒนะ แทนการถูกส่งตัวไปยังเรือนจำพลเรือน ด้วยเหตุผลเรื่องความมั่นคง

ทั้งนี้ สาเหตุในการนำตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 รายมาฝากขังที่ศาลอาญารัชดา แทนศาลอาญากรุงเทพใต้ เนื่องจากคดีเกิดในหลายพื้นที่ โดยเมื่อเย็นวานนี้ (14 ส.ค.)พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้เซ็นคำสั่งโอนสำนวน คดีระเบิดที่เกิดขึ้นทั้งในพื้นที่กรุงเทพฯและภูธรภาค 1 ให้กองปราบปรามเป็นผู้รับผิดชอบและรวบรวมเป็นสำนวนเดียวกัน รวมทั้งรวบรวมพยานหลักฐานเตรียมแจ้งข้อหา”ก่อการร้าย”เพิ่มเติมกับ 2 ผู้ต้องหา

ด้านพล.ต.ต.พัฒนา เพศยนาวิน ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 6 เผย หลังจากนี้พนักงานสอบสวนจะเร่งรวบรวมพยานหลักฐาน สรุปสำนวนส่งให้กองบังคับการปราบปราม หลังจากมีคำสั่งให้รวมคดีไปที่เดียว เพื่อป้องกันความสับสนและยุ่งยากในการทำงาน โดย คณะทำงานจะยังคงสืบสวนสอบสวนหาข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อรูปคดีติดตามจับกุมกลุ่มผู้ต้องหาและผู้ต้องสงสัยที่เหลือ 

ส่วนกองบังคับการปราบปรามจะทำการรวบรวมข้อมูลจากทุกพื้นที่ที่เกิดเหตุ และช่วยสืบสวนสอบสวนในประเด็นต่างๆ ส่วนความคืบหน้าในการติดตามจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับอีก 4 คน คือ นายอัสมี อาบูวะ, นายอุสมาน เปาะลอ, นายอัมรี มะมิง, นายฮาเเซ แบเล๊าะ และผู้ต้องสงสัยอีกจำนวนเกือบ 20 คนนั้น ขณะนี้ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

มุกใหม่มิจฉาชีพ

มุกใหม่มิจฉาชีพ! ป่วนโทรแจ้ง ตร. เกิดเหตุร้ายที่บ้านเหยื่อ

อินฟลูฯ สาว สายทำอาหาร ถูกมิจฉาชีพอ้างเป็นตำรวจโทรหา แต่เธอไม่เชื่อ โดนท้าอีก 10 นาทีเจอกัน ปรากฏว่า มีตำรวจจาก 2 โรงพักบุกมาที่บ้านจริง

“วราวุธ” ระบุการแข่งขัน อบจ.-สุพรรณบุรี ไม่มีปัญหา

“วราวุธ” ระบุการแข่งขัน อบจ.-สุพรรณบุรี ไม่มีปัญหา บอกสนามใหญ่ ไม่เข้าไปก้าวก่ายสนามท้องถิ่น ซ้ายก็เพื่อน ขวาก็พวก

ครม.เคาะแจกเงินหมื่นเฟส 2 ผู้สูงอายุ 60 ปี

“จุลพันธ์” เผย ครม.เห็นชอบโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านกลุ่มผู้สูงอายุ วงเงิน 4 หมื่นล้านบาท คาดว่าจะดำเนินการทันก่อน 29 ม.ค.68 รวม 3 มาตรการ สร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบ 1.4-1.5 แสนล้านบาท

ข่าวแนะนำ

มติกฤษฎีกา “กิตติรัตน์” คุณสมบัติไม่ผ่านนั่งประธานบอร์ด ธปท.

คณะกรรมการกฤษฎีกา 3 คณะ มีมติไม่ผ่านคุณสมบัติ “กิตติรัตน์ ณ ระนอง” เป็นประธานบอร์ดธนาคารแห่งประเทศไทย

เครื่องบินโดยสาร อาเซอร์ไบจาน แอร์ไลน์ ตกในคาซัคสถาน

เครื่องบินโดยสารเอ็มบราเออร์ ของสายการบินอาเซอร์ไบจาน แอร์ไลน์ ที่บินจากอาเซอร์ไบจาน ไปยังประเทศรัสเซีย เกิดอุบัติเหตุตกที่บริเวณใกล้กับเมืองอัคเทา ในคาซัคสถาน โดยมีผู้โดยสาร 62 คน และลูกเรือ 5 คน บนเครื่อง เจ้าหน้าที่คาซัคสถานกล่าวว่า มีผู้รอดชีวิต 28 ราย