วอชิงตัน 3 ส.ค.- ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐแนะว่า ข้อตกลงลดอาวุธนิวเคลียร์ฉบับใหม่ควรรวมจีนไว้ด้วย ด้านฝรั่งเศสเตือนว่า การที่ทั้งสหรัฐและรัสเซียละทิ้งข้อตกลงลดอาวุธนิวเคลียร์สมัยสงครามเย็นทำให้ยุโรปเสี่ยงไร้เสถียรภาพมากยิ่งขึ้น
ประธานาธิบดีทรัมป์กล่าวกับผู้สื่อข่าวหลังจากรัฐบาลสหรัฐถอนตัวจากสนธิสัญญากำลังนิวเคลียร์พิสัยกลาง หรือไอเอ็นเอฟ (INF) ปี 2530 อย่างเป็นทางการเมื่อวันศุกร์ตามเวลาสหรัฐว่า หากจะมีข้อตกลงลดอาวุธนิวเคลียร์ฉบับใหม่ก็อยากให้มีจีนเข้าร่วมด้วย เพราะจะเป็นเรื่องดีมากสำหรับโลก เขาได้หารือเรื่องสนธิสัญญาลดอาวุธนิวเคลียร์ฉบับใหม่กับรัสเซียและจีนแล้ว จีนตื่นเต้นมาก รัสเซียก็เช่นกัน ข้อตกลงที่ทั้งสองประเทศและสหรัฐลดอาวุธนิวคลียร์จะเป็นเรื่องดีมากสำหรับโลก เขาเชื่อว่าจะเกิดขึ้นได้
ด้านโฆษกกระทรวงกิจการยุโรปและต่างประเทศของฝรั่งเศสแถลงว่า ฝรั่งเศสผิดหวังที่ไม่มีหนทางที่จะสามารถประคองไอเอ็นเอฟไว้ได้ และผิดหวังที่รัสเซียไม่ตอบสนองต่อคำขอให้ชี้แจงหรือคำขอให้ปฏิบัติตามไอเอ็นเอฟที่เกิดขึ้นหลายครั้งเมื่อปีก่อน ไอเอ็นเอฟเป็นองค์ประกอบสำคัญของโครงสร้างความมั่นคงยุโรปและเสถียรภาพเชิงยุทธศาสตร์ในยุโรป การยุติข้อตกลงนี้ทำให้ยุโรปเสี่ยงไร้เสียรภาพมากยิ่งขึ้น และทำลายระบบการควบคุมอาวุธสากล ฝรั่งเศสขอยืนยันเรื่องการยึดมั่นต่อการควบคุมและปลดอาวุธนิวเคลียร์ที่แท้จริง พิสูจน์ได้ และเป็นไปตามหลักฎหมาย ขณะเดียวกันขอสนับสนุนให้รัสเซียและสหรัฐต่ออายุสนธิสัญญานิวสตาร์ตลดอาวุธนิวเคลียร์ที่สหรัฐและรัสเซียลงนามไปในปี 2553 และจะหมดอายุในปี 2564
ประธานาธิบดีโรนัลด์ เรแกนของสหรัฐและประธานาธิบดีมิคาอิล กอร์บาชอฟของสหภาพโซเวียตลงนามไอเอ็นเอฟในปี 2530 ตกลงจำกัดจำนวนขีปนาวุธพิสัยกลางทั้งอาวุธทั่วไปและอาวุธนิวเคลียร์เมื่อครั้งที่ทั้งสองประเทศเป็นมหาอำนาจช่วงสงครามเย็น สหรัฐกล่าวหารัสเซียมาโดยตลอดว่าละเมิดข้อตกลงนี้ ขณะที่รัสเซียปฏิเสธ สหรัฐเริ่มกระบวนการถอนตัวจากข้อตกลงนี้มาหลายเดือนและมีผลอย่างเป็นทางการเมื่อวานนี้ ทำให้รัสเซียประกาศว่าข้อตกลงนี้สิ้นสุดลงแล้วในวันนั้น.-สำนักข่าวไทย