กรุงเทพฯ 31 ก.ค.- สั่งอายัดบัญชีแก๊งอุ้มเรียกค่าไถ่’นักธุรกิจเชียงแสน’ พร้อมออกหมายเรียกเจ้าของบัญชีสอบขยายผลแล้ว
พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม. , พล ต ต จิรภพ. ภูริเดช ผบก. ป. พล.ต.ต.ยุทธชัย พวงประเสริฐ ผบก.ภ .จว. เชียงราย. พ.ต.อ. แมน แม่นแย้ม ผกก. 4 บก. ป และนาย. ประสงค์ หล้าอ่อน นายอำเภอเชียงแสน ตัวแทน กระทรวงต่างประเทศ ตัวแทน ตชด ตัวแทน ทหารพราน ตัวแทน ตำรวจน้ำ ได้ประชุมติดตามความหน้าในการข่วยเหลือ นายสิงห์แก้ว. วงค์ใหญ่ ผู้เสียหายที่ถูกจับตัวเรียกค่าไถ่ ใน สปป.ลาว และ สามารถหลบหนีจากที่คุมขัง และได้รับการช่วยเหลือจาก เจ้าหน้าที่ สปป.ลาว ได้เมื่อวาน (30 กค 62) ขณะนี้อยู่ระหว่างทางการ สปป.ลาว กำลังสืบสวนสอบสวน ขยายผล และติดตามหาตัวคนร้ายใน สปป.ลาว
ความคืบหน้าในที่ประชุม ฝ่ายปกครอง ได้ชี้แจงว่า ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ได้สั่งการให้มีการประสานกับทางการ สปป.ลาว อย่างใกล้ชิดและในวันนี้ เวลา 09.00 น. เจ้าแขวงบ่อแก้ว ได้ประชุมบริหารที่ แขวงบ่อแก้ว ด้วยเช่นกัน และจะมีการยกประเด็นนี้เข้าหารือ และเร่งรัดการดำเนินการในฝั่ง สปป.ลาว อีกส่วน
ผู้แทน กระทรวงต่างประเทศ ได้ชี้แจงว่าได้ดำเนินการประสานในช่องทางการทูตไปเรียบร้อยแล้ว
ทางการสอบสวน ในฝั่งไทย สภ. เชียงแสน ได้มีการสอบสวนปากคำ ผู้เสียหาย พยาน เจ้าหน้าที่ สตม. รวมถึงเจ้าของบัญชีคนไทยที่ใช้รับโอนเงินตามที่ฝ่ายคนร้ายให้มาได้มีการอายัดและออกหมายเรียกไปเรียบร้อย ฝ่ายสืบสวนกำลังติดตามตัวอีกส่วนหนึ่ง
ในส่วนทหารในพื้นที่ ผบ.นรข. ซึ่งมีความสัมพันธ์อันดีกับ เจ้าหน้าที่ทหาร และความมั่นคง ของ สปป.ลาว ได้ติดตามประสานงานตั้งแต่วันที่ 28 ก.ค. 62 ที่ได้รับแจ้งมา โดยจากการประสาน จึงทำให้กองกำลังทาง สปป. ลาว มีการตั้งจุดตรวจ จุดสกัด และกดดัน จนนำไปสู่การช่วยเหลือนายสิงห์แก้วฯ ได้สำเร็จ และ ฝ่ายความมั่นคง สปป. ลาว จะช่วยดูแลความปลอดภัยอย่างดี
ความร่วมมือของทุกๆฝ่ายในครั้งนี้ ถือเป็นนิมิตรหมายที่ดีอย่างยิ่ง ทั้งในเรื่องความสัมพันธ์ ระหว่างประเทศ ความใกล้ชิดแน่นแฟ้นระดับเจ้าหน้าที่ รวมไปถึงความร่วมมือทางการค้า การต่อสู้กับองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่จะใช้สองประเทศเป็นฐานในการกระทำความผิดในอนาคตได้อย่างแน่นอน.-สำนักข่าวไทย