นายกฯ รับต้องปรับตัวอีกเยอะ

ทำเนียบฯ 30 ก.ค.- นายกฯ ไม่ขอประเมินคะแนนการแถลงนโยบาย ระบุต้องปรับตัวอีกเยอะ  โวยมีคนนำคำพูดไปบิดเบือน  เตือนอย่าหลงเชื่อข่าวปลอม ย้ำรัฐบาลต้องพาคน 70 ล้านคนไปให้ได้


ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ปฏิเสธตอบคำถามสื่อมวลชน กรณีท่าทีของนายกรัฐมนตรีต่อการสังกัดพรรคพลังประชารัฐพรรค หรือการเป็นหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ หลังจากที่พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีได้สมัครเป็นสมาชิกพรรคไปแล้ว โดยกล่าวสั้นๆ ว่าตนจะเป็นอะไรเมื่อไหร่  ขอตัดสินใจเอง 

นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงการให้คะแนน การแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภา ว่า เป็นเรื่องของประชาชนที่ต้องพิจารณาและให้คะแนน ซึ่งข้อมูลทั้งหมดก็เป็นไปตามที่ได้ชี้แจงไปแล้ว ในส่วนของตน ก็มีสิ่งที่ต้องปรับปรุงอีกมาก เพราะอาจเป็นครั้งแรกที่เข้าไปชี้แจงในรัฐสภา ที่ผ่านมาคุ้นเคยกับการพูดคุยกับสื่อฯที่ทำเนียบรัฐบาล หากมีอะไรที่ไม่เหมาะสม ก็ต้องขอโทษไว้ ณ ที่นี้ และจะขอแก้ตัวใหม่ในครั้งต่อไป


“หลายเรื่องที่ชี้แจงไปในสภาฯ ผมไม่ขอมาวิพากษ์วิจารณ์ขณะนี้ ขอให้ทุกคนได้ติดตามข้อเท็จจริง และขอให้ทุกคนระมัดระวังข่าวปลอม และข่าวบิดเบือนต่าง ๆ เพราะคำพูดของผมเอง ก็ถูกนำมาบิดเบือน เช่น การพูดถึงการเสียภาษี ที่ผมยืนยันไม่เคยดูถูกว่า คนจนไม่เสียภาษี แต่เพียงอธิบายว่า ภาษีมีกี่ประเภท โดยผู้มีรายได้น้อยแม้ไม่เสียภาษีเงินได้ แต่ก็ต้องเสียภาษีในรูปแบบอื่น” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

ส่วนข้อมูลด้านเศรษฐกิจที่รัฐบาลได้แถลงต่อรัฐสภานั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ทั้งหมดเป็นเรื่องของข้อเท็จจริง ตัวเลขและข้อมูลต่าง ๆ ได้จากส่วนราชการ ยอมรับว่าตัวเลขของเศรษฐกิจมหภาค เป็นสิ่งจำเป็นและเป็นตัวเลขที่ดีพอสมควร เมื่อเปรียบเทียบกับหลายประเทศ แต่เศรษฐกิจมหภาคหรือเศรษฐกิจระดับล่างของประเทศได้สั่งการให้มีมาตรการเพิ่มเติมในการแก้ปัญหาให้ได้เร็วที่สุด โดยต้องวิเคราะห์หาสาเหตุของปัญหา และแก้ปัญหาให้ตรงจุด ตรงกับประชาชนกลุ่มเป้าหมาย โดยเฉพาะการจัดตลาดสินค้าอุปโภคบริโภคให้ตรงกับกลุ่มของประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มผู้มีรายได้น้อย

ส่วนการยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินของรัฐมนตรี ต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)  นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เมื่อกฎหมายระบุให้ยื่นบัญชีทรัพย์สินฯ ก็ต้องดำเนินการตามกฎหมาย


ส่วนที่นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เปรียบรัฐบาลเป็นเรือเหล็กนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลจะเป็นเรืออะไรก็ได้ แต่ต้องนำพาคน 70 ล้านคนไปให้ได้ และการที่เรือจะลอย จะจม จะไปได้หรือไม่ได้นั้น ต้องขึ้นอยู่กับน้ำ ดังนั้นหากใครไม่ช่วยพาย ก็ขออย่าไปราน้ำ เพราะเรือที่มีคน 70 ล้านคน ก็ถือว่ามีน้ำหนักมากพอแล้ว จึงต้องขอความร่วมมือจากทุกคนด้วย.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ป.ป.ส. รวบ 3 นักค้ายาเสพติดต่างชาติ ที่สนามบินสุวรรณภูมิ

ป.ป.ส. รวบนักค้ายาเสพติดต่างชาติ 3 ราย ที่สนามบินสุวรรณภูมิ ส่งออกไปอิตาลี-อังกฤษ เลขาฯ ป.ป.ส. เผยความสำเร็จครั้งนี้เป็นผลจากการประสานงานใกล้ชิดระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

ตรวจสอบตลาดปาล์มน้ำมัน หลังราคาพุ่ง

ช่วงนี้น้ำมันปาล์มตามท้องตลาดปรับราคาแพงขึ้น จากเดิมขวดละราว 10 บาท ทำให้ผู้บริโภคถึงกับโอดครวญ ขณะที่เกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ำมัน ระบุแม้ช่วงนี้ราคาปาล์มน้ำมันขายได้ราคาดีที่สุดในรอบหลายปี แต่เกษตรกรกลับไม่มีปาล์มขาย

ข่าวแนะนำ

เดินหน้าเสนอ ครม. ตั้งคณะกรรมการร่วมไทย-กัมพูชา เจรจาพื้นที่ทับซ้อน

กระทรวงการต่างประเทศ เดินหน้าเสนอ ครม. ตั้งคณะกรรมการร่วมด้านเทคนิค JTC ไทย-กัมพูชา เจรจาพื้นที่ทับซ้อนทางทะเลระหว่างไทยกับกัมพูชา ตามแนว MOU 2544 ยืนยันไม่ทำให้เสียเกาะกูด

เข้าสู่ฤดูหนาว

อุตุฯ ประกาศไทยเข้าสู่ฤดูหนาวแล้ว

กรมอุตุฯ ประกาศการเข้าสู่ฤดูหนาวของประเทศไทย ปี 2567 ตั้งแต่วันที่ 3 พ.ย. โดยเป็นการเข้าสู่ฤดูหนาวช้ากว่าปกติประมาณ 2 สัปดาห์ เนื่องจากมีพายุก่อตัวในมหาสมุทรแปซิฟิกและเคลื่อนเข้าสู่ทะเลจีนใต้ และยังมีฝนบางพื้นที่ ปีนี้จะหนาวกว่าปีที่แล้ว

ช้างพลายขุนเดช

ย้ายแล้ว “ช้างพลายขุนเดช” ไปสถาบันคชบาลแห่งชาติ จ.ลำปาง

ย้ายแล้ว “ช้างพลายขุนเดช” สู่สถาบันคชบาลแห่งชาติ จ.ลำปาง จบดราม่า หลังฝากเลี้ยงที่มูลนิธิอนุรักษ์ช้างและสิ่งแวดล้อม จ.เชียงใหม่