บีโอไอ 18 ส.ค. – “สมคิด” ตรวจเยี่ยมบีโอไอ สั่งเร่งขยายการลงทุนทั้งจากนักลงทุนในประเทศและต่างประเทศ หลังมีสัญญาณดีทั้งปัจจัยการเมืองและกระแสการลงทุนในภูมิภาค ขณะที่บีโอไอขานรับปรับเป้ายอดขอส่งเสริมการลงทุนเพิ่มอีก 100,000 ล้านบาท
นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีเศรษฐกิจ ตรวจเยี่ยมสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ซึ่งได้มีการประชุมหัวหน้าสำนักงาน 14 แห่งทั่วโลก เพื่อกำหนดทิศทางดึงเม็ดเงินลงทุนจากภูมิภาคต่าง ๆ ภายหลังการหารือนายสมคิด กล่าวว่า ได้แจ้งให้หัวหน้าสำนักงานทราบว่ากระแสการลงทุนในไทยปรับตัวไปในทิศทางที่ดีมากจากปัจจัย 2 ด้าน คือ การเมืองหลังจากการทำประชามติร่างรัฐธรรมนูญผ่านเรียบร้อย ทำให้ความไม่มั่นใจด้านต่าง ๆ คลี่คลาย รวมทั้งความสนใจของนักลงทุนทั่วโลกที่กำลังจะเข้ามาลงทุนในภูมิภาคเอเชียโดยเฉพาะอาเซียนและไทย
ทั้งนี้ เมื่อวานที่ผ่านมาผู้แทนธนาคารเพื่อความร่วมมือแห่งประเทศญี่ปุ่น (เจบิค) หารือกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้แสดงความสนใจเข้ามาเป็นพาร์ทเนอร์ลงทุนกับไทย และวันนี้ (18 ส.ค.) จะหารือกับนายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เพื่อแสดงความสนใจการลงทุนกองทุนโครงสร้างพื้นฐานเพื่ออนาคตประเทศไทย หรือไทยแลนด์ฟิวเจอร์ฟันด์ ซึ่งเป็นสัญญาณดีที่ญี่ปุ่นจะเร่งขยายการลงทุนในไทยมากขึ้น
นายสมคิด กล่าวว่า ได้แจ้งเลขาฯ บีโอไอ ให้สั่งการไปยังหัวหน้าสำนักงานบีโอไอทั้ง 14 แห่งว่าในช่วงการลงทุนไหลเข้าไทยให้เตรียมความพร้อมของบุคลากรแต่ละสำนักงาน โดยรัฐบาลพร้อมเพิ่มกำลังบุคลากรแต่ละประเทศ ซึ่งอาจจะเป็นการว่าจ้างผู้เชี่ยวชาญเจาะตลาดแต่ละพื้นที่เป็นการเร่งด่วน เพื่อให้ทันต่อการขยายการลงทุน และเมื่อได้ข้อสรุปแจ้งมายังรัฐบาล ซึ่งตนในฐานะหัวหน้าทีมเศรษฐกิจพร้อมไปเยือนประเทศต่าง ๆ เพื่อดึงเม็ดเงินลงทุนสู่ประเทศไทย
นอกจากนี้ ยังได้สั่งการให้บีโอไอพิจารณาการเตรียมความพร้อมการจัดงานใหญ่ของบีโอไอ หรือบีโอไอแฟร์ ปลายเดือนพฤศจิกายนนี้ ซึ่งขอให้การจัดงานมีความชัดเจนในเรื่องแนวคิดเพื่อทำให้นักลงทุนทราบว่าทำไมไทยจึงเป็นประเทศที่น่าลงทุน ขณะที่ที่ผ่านมาได้มีการแก้ไขกฎหมายหลายฉบับเพื่อเป็นเครื่องมือทำให้การลงทุนของนักลงทุนได้รับความสะดวกและเกิดความคล่องตัวมากขึ้น
นางหิรัญญา สุจินัย เลขาฯ บีโอไอ กล่าวว่า หลังพบสัญญาณการลงทุนที่ดี บีโอไอจึงได้ประกาศปรับเป้าหมายการขอส่งเสริมการลงทุนปีนี้จากเดิม 450,000 เป็น 550,000 ล้านบาท หรืออีก 100,000 ล้านบาท โดยเฉพาะการลงทุนเพิ่มขึ้นใน 10 อุตสาหกรรมเป้าหมายที่จะต้องขอรับส่งเสริมเพิ่มกว่าร้อยละ 50 ปัจจุบันการแก้ไข พ.ร.บ.ส่งเสริมการลงทุนและกฎหมายฉบับอื่นจะเป็นปัจจัยสนับสนุนเร่งการลงทุนปี 2559-2560 ทั้งนี้ ปัจจุบันบีโอไอมียอดขอส่งเสริมการลงทุนประมาณ 320,000 ล้านบาท และใน 6 เดือนแรกปีนี้มียอดลงทุนจริง 200,000 ล้านบาท.-สำนักข่าวไทย