กรุงเทพฯ 26 พ.ค.-ตลอดชีวิตของพลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี และรัฐบุรุษ ได้ทำความดีทดแทนคุณแผ่นดิน อย่างที่ท่านได้ฝากคำสอนไว้ในชนรุ่นหลัง นอกจากนี้ คำสอนแต่ละด้านล้วนแต่แฝงแง่คิดในการทำเพื่อแผ่นดิน ติดตามจากรายงาน
กว่า 98 ปี ที่พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี และรัฐบุรุษ เป็นเสาหลักประชาธิบไตยให้การเมืองไทยฝ่าทุกวิกฤติปัญหา วันนี้คงเหลือไว้แต่คำสอน เตือนให้ผู้ปฏิบัติหน้าที่ทางการเมืองรักชาติ ทำประโยชน์เพื่อประชาชนและแผ่นดิน
พลเอกเปรม เกิดเมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2463 ที่ตำบลบ่อยาง อำเภอเมืองสงขลา จังหวัดสงขลา เป็นบุตรคนที่ 6 ของรองอำมาตย์โทหลวงวินิจทัณฑกรรม ศึกษาระดับประถมศึกษาที่โรงเรียนมหาวชิราวุธ มัธยมศึกษาที่โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย สำเร็จการศึกษาที่โรงเรียนเทคนิคทหารบก ปัจจุบันคือโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า ในปี พ.ศ.2484 โดยใช้เวลาเพียง 3 ปี ไม่ครบ 5 ปีตามหลักสูตร เนื่องจากเกิดกรณีพิพาทระหว่างรัฐบาลไทยกับฝรั่งเศสขึ้น จำเป็นต้องให้นักเรียนนายร้อยออกรับราชการก่อนกำหนด
เข้าสู่เส้นทางราชการในตำแหน่งผู้บังคับหมวด ประจำกรมรถรบ ปฏิบัติหน้าที่ ณ สมรภูมิรบปอยเปต กรณีพิพาทในอินโดจีนระหว่างไทยกับฝรั่งเศส ได้รับแต่งตั้งให้เป็นว่าที่ร้อยตรี จากนั้นได้ร่วมในประจำกองหนุนในสงครามมหาเอเชียบูรพา จนได้รับตำแหน่งร้อยเอก และเป็นผู้บังคับกองร้อยที่ลพบุรี และเกษียณอายุในตำแหน่งผู้บัญชาทหารบก
การก้าวเข้าสู่เส้นทางการเมืองในสมัยรัฐบาล พลเอกเกรียงศักดิ์ ชมะนันท์ โดยควบตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และผู้บัญชาการทหารบก ก่อนเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 16 ของไทย และครองเก้าอี้นานถึง 3 สมัย ระยะเวลา 8 ปี 5 เดือน อย่างที่ไม่นายกรัฐมนตรีคนใดทำได้มาก่อน ขณะนั้นการเมืองไทยเผชิญกับปัญหาชายแดนและคอมมิวนิสต์อย่างหนัก พลเอกเปรม ออกคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีที่ 66/2523 ใช้นโยบายการเมืองนำการทหาร หาทางออกด้วยสันติ แทนที่จะส่งทหารไปรบกับคอมมิวนิสต์ที่เป็นคนไทยด้วยกัน กลับเน้นการอภัยโทษ และอ้าแขนรับผู้ที่เปลี่ยนอุดมการณ์กลับมาร่วมพัฒนาชาติไทย นับเป็นผลงานชิ้นโบแดง
ส่วนปัญหาวิกฤติเศรษฐกิจที่รัฐบาลพลเอกเปรม ต้องเผชิญ มีทั้งการขาดดุลการค้า ขาดดุลบัญชีเดินสะพัด และอัตราค่าเงินบาทคงที่ผูกติดกับเงินดอลลาร์ของสหรัฐ พลเอกเปรม กล้าที่จะประกาศปรับลดระบบอัตราแลกเปลี่ยน มาเป็นระบบตะกร้าเงินแทน
จากนั้นรัชกาลที่ 9 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งให้ พลเอกเปรม ดำรงตำแหน่งองคมนตรี และประธานองคมนตรี และยังคงดำรงตำแหน่งจนถึงรัชสมัยรัชกาลที่ 10
ทั้งนี้ ตลอดระยะเวลาที่มีคณะบุคคลมาเยี่ยมเยียน พลเอกเปรม ได้อวยพรและย้ำเสมอว่าต้องทำความดี ตอบแทนคุณแผ่นดิน เพราะชาติบ้านเมืองเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เราทุกคนต้องทุ่มเทรักษา ซึ่งเป็นการสะท้อนให้เห็นถึงความจงรักดีที่มีต่อสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ ของประธานองคมนตรีท่านนี้.-สำนักข่าวไทย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
คลิก► เตรียมการพิธีพระราชทานน้ำหลวงอาบศพ พล.อ.เปรม
คลิก►พล.อ.เปรม ถึงแก่อสัญกรรมอย่างสงบเมื่อรุ่งเช้า สิริอายุ 98 ปี
คลิก►สภายืนไว้อาลัยให้ พล.อ.เปรมที่ถึงแก่อสัญกรรม
คลิก►แถลงการณ์เรื่องการถึงแก่อสัญกรรมของพลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี