ทำเนียบฯ 22 ส.ค. – วิษณุ ปัดให้ตีความคำถามพ่วง ส.ว.เสนอชื่อนายกฯ ได้หรือไม่ ชี้ ต้องทบทวนว่า ไปชี้แจงประชาชนเช่นไร จนผ่านประชามติ ระบุ ศาลรัฐธรรมนูญจะเป็นผู้ตัดสินสุดท้าย
นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ ถึงคำถามพ่วงประชามติ ที่อยู่ระหว่างการตีความว่า จะให้ ส.ว.มีอำนาจในการเสนอชื่อนายกรัฐมนตรีได้หรือไม่ ว่า อยู่ที่กรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) พิจารณา และศาลรัฐธรรมนูญจะเป็นผู้ชี้ขาด อย่างไรก็ตาม ต้องไปทบทวนด้วยว่า ขณะที่ไปชี้แจงกับประชาชน จนทำให้ประชาน 15 ล้านเสียง รับในคำถามพ่วง ได้ไปชี้แจงอย่างไร
ต่อข้อถามว่า หลายพรรคการเมืองไม่พอใจ ที่จะให้ ส.ว.เสนอชื่อนายกรัฐมนตรี จะนำมาซึ่งความขัดแย้งหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า หากมองให้ขัดแย้งขัด ก็ขัดแย้งได้หมด ขอความกรุณาอย่ามองให้ขัดแย้ง ขอให้มองเป็นการเสนอความเห็น หากคิดว่าเป็นความขัดแย้ง เรื่องเล็กจะกลายเป็นเรื่องใหญ่ หากมองย้อนไป จะมีกับดักทางการเมืองวางไว้ตลอดทาง แต่เมื่อเวลาผ่านไป ทุกอย่างก็เดินหน้าไปได้
“พระอาทิตย์ก็ยังขึ้น นกก็ยังบิน เรื่องนี้ถือเป็นเกมทางการเมือง หรือตามหลักพุทธศาสนาคือ มันเป็นอย่างนั้นเอง มันก็จะเดินไปตามทางของมัน” นายวิษณุ กล่าว
อย่างไรก็ตาม นายวิษณุ ปฏิเสธที่จะให้ความเห็นว่า เหตุใดจึงไม่เขียนคำถามพ่วงให้ชัดเจน และจะไม่เป็นผู้ที่ตีความคำถามพ่วง เพราะเป็นหน้าที่ของ กรธ.ที่จะหารือกับสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) โดยมีศาลรัฐธรรมนูญเป็นผ฿ตัดสิน
“รู้อยู่ก่อนแล้วว่า จะต้องมีปัญหาเรื่องของคำถามพ่วง และตอนนี้พอมองเห็นทางออก คือ ทางออกซ้ายและขวา” นายวิษณุ กล่าว
เมื่อถามถึง ผลโพลที่ติดอันดับ 4 รัฐมนตรีที่ประชาชนพอใจในผลงาน นายวิษณุ กล่าวว่าว่า ไม่ได้รู้สึกพิเศษอะไร เพราะเป็นการประเมินอย่างต่อเนื่อง คนที่ผลการประเมินไม่ดี ก็อาจจะปรับปรุงให้ทำดีขึ้น เป็นเรื่องธรรมดา และว่า มีสารพัดโพลที่สำรวจความเห็น เมื่อเกี่ยวข้องกับใครคนนั้น ก็ใช้เป็นตัวชี้วัดอะไรบางอย่างได้ แต่อย่าไปเอานิยายอะไรมาก
นายวิษณุ ยังกล่าวถึง การปรับคณะรัฐมนตรีด้วยว่า อาจต้องมีการปรับในตำแหน่งมีปัญหา สืบเนื่องจากการเสนอชื่อเปลี่ยนกระทรวง จาก กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ICT) เป็นกระทรวงดิจิตัลเพื่อเศษฐกิจและสังคม ซึ่งขณะนี้เรื่องอยู่ระหว่างการนำขึ้นทูลเกล้าฯ ซึ่งหากจะเปลี่ยนก็คง กระทรวงเดียวเท่านั้น .- สำนักข่าวไทย