ย่างกุ้ง 15 พ.ค.- เจ้าหน้าที่สหประชาชาติ หรือยูเอ็นขอร้องทางการเมียนมาให้เจ้าหน้าที่บรรเทาทุกข์มีความแน่นอนในการเข้าไปในรัฐยะไข่ ทางตะวันตกสุดของประเทศ ที่กองทัพกำลังสู้รบกับกลุ่มติดอาวุธจนมีคนไร้ที่อยู่อาศัยแล้วเกือบ 33,000 คนตั้งแต่ปลายปีก่อน และเสี่ยงเสียชีวิตหากไม่ได้รับความช่วยเหลือ
เออร์ซูลา มุลเลอร์ รองเลขาธิการยูเอ็นฝ่ายกิจการมนุษยธรรมเผยกับสำนักข่าวรอยเตอร์เมื่อวานนี้ หลังเสร็จสิ้นการเยือนเมียนมาเป็นเวลา 6 วัน ว่า ทางการเมียนมาปัดคำขอของเธอที่ต้องการพบกับผู้พลัดถิ่นเพราะการสู้รบในรัฐยะไข่ กลุ่มบรรเทาทุกข์ต้องการความแน่นอนในการเข้าถึงผู้คนเหล่านี้ที่ไม่ได้รับความช่วยเหลือตั้งแต่เกิดการสู้รบ หากความช่วยเหลือซึ่งรวมถึงคลีนิกเคลื่อนที่เข้าไม่ถึง พวกเขาก็ไม่ได้รับความช่วยเหลือจากที่อื่นเลย และหลายคนกำลังจะตาย เธอได้พบกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงหลายคนในกรุงเนปิดอว์ รวมถึงนางออง ซาน ซู จี ผู้นำโดยพฤตินัยของเมียนมาที่บอกว่ากำลังทำให้รัฐยะไข่มีการพัฒนาและมีความสามัคคีทางสังคม แต่เธอแย้งว่า สิ่งจำเป็นเร่งด่วนขณะนี้คือ การส่งความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม ชาวบ้านในรัฐยะไข่ตกอยู่ท่ามกลางการสู้รบระหว่างกองทัพเมียนมากับกองทัพอารกันที่เรียกร้องสิทธิปกครองตนเองในรัฐยะไข่และเกณฑ์ชาวพุทธยะไข่มาเข้าร่วม
รองเลขาธิการยูเอ็นเผยว่า ได้เยี่ยมค่ายผู้ลี้ภัยนอกเมืองซิตตเว เมืองเอกของรัฐยะไข่ที่ชาวโรฮิงญาจำนวนมากถูกกักบริเวณไว้ตั้งแต่เกิดเหตุรุนแรงครั้งแรกในปี 2555 ส่วนใหญ่ยังคงไร้สัญชาติ ถูกจำกัดการเดินทางและการเข้าถึงบริการสาธารณสุขขั้นพื้นฐาน เธอได้หารือกับเจ้าหน้าที่เมียนมาเรื่องยุทธศาสตร์การดูแลผู้ลี้ภัยเหล่านี้ว่า ลำพังการสร้างอาคารที่พักใหม่ขึ้นในค่ายผู้ลี้ภัย แต่ไม่แก้ไขที่รากเหง้าปัญหา เป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง ชาวโรฮิงญาไม่มีเสรีภาพในการเดินทางและหมดหวังตั้งแต่ถูกกักบริเวณในค่ายนี้เมื่อ 7 ปีก่อน.- สำนักข่าวไทย