กรมศิลปากร 9 เม.ย.-กรมศิลปากร เชิญชวนประชาชนร่วมสรงน้ำพระธาตุและเทวดานพเคราะห์ ณ ศาลาสำราญมุขมาตย์ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร เนื่องในเทศกาลสงกรานต์ ประจำปี2562 วันที่ 11-14 เม.ย.นี้
กรมศิลปากร แจ้งว่า เนื่องในเทศกาลสงกรานต์ ประจำปี2562 กำหนดจัดกิจกรรมสรงน้ำพระธาตุและเทวดานพเคราะห์ เพื่อเริ่มต้นปีใหม่ไทยด้วยความเป็นสิริมงคลตามแบบแผนประเพณีที่ดีงาม โดยอัญเชิญพระธาตุ 23 องค์ประดิษฐานอยู่ในพระกรัณฑ์ทองคำลงยา ซึ่งเดิมทีบรรจุไว้ในก้านพระรัศมีของพระพุทธสิหิงค์ ณ พระที่นั่งพุทไธสวรรย์ พระราชวังบวรสถานมงคล (วังหน้า) และเทวดานพเคราะห์ 9 องค์ มาให้ประชาชนได้สรงน้ำและกราบไหว้บูชาขอพร
ทั้งนี้แต่ละคนเมื่อเกิดมาจะมีเทวดานพเคราะห์ประจำวันเกิด และในแต่ละช่วงชีวิตเทวดานพเคราะห์จะหมุนเวียนเข้าเสวยอายุ กำหนดปีการเสวยอายุตามกำลังของเทวดาแต่ละองค์ ซึ่งจะส่งผลร้ายหรือดีต่อมนุษย์ขึ้นอยู่กับประเภทของเทวดานพเคราะห์ว่าเป็นฝ่ายบาปเคราะห์หรือศุภเคราะห์ หรือความเข้ากันได้หรือไม่กับเทวดาประจำวันเกิด เทพนพเคราะห์มีต้นกำเนิดมาจากโหราศาสตร์ฮินดูที่นับถือพระสุริยเทพ (พระอาทิตย์) ซึ่งมีเทพบริวารอีก 8 องค์ รวมเป็น 9 องค์ ถือว่าเป็นเทพที่ปกปักรักษาชีวิตของประชาชนตั้งแต่เกิดจนตาย ประกอบด้วย พระอาทิตย์ ทรงราชสีห์ เป็นเทพนพเคราะห์ที่มีอำนาจเหนือกว่าเทพนพเคราะห์ทั้งปวง ,พระจันทร์ ทรงม้า ,พระอังคาร ทรงมหิงสา ,พระพุธ ทรงคชสาร ,พระพฤหัสบดี ทรงกวาง ,พระศุกร์ ทรงโค ,พระเสาร์ ทรงพยัคฆ์ ,พระราหู ทรงพญาครุฑ และพระเกตุ ทรงนาค
ประติมากรรมเทวดานพเคราะห์ทั้ง 9 องค์ ที่อัญเชิญมาประดิษฐาน ณ ศาลาสำราญมุขมาตย์ สร้างขึ้นตามแบบเทวดานพเคราะห์ของไทย แต่งกายคล้ายคลึงกับภาพเทวรูปในสมุดไทยหมวดตำราภาพเทวรูปไสยาศาสตร์ เล่มที่ 70 สำนักหอสมุดแห่งชาติ สันนิษฐานว่าเป็นรูปแบบของพระเจ้าราชวรวงศ์เธอ เจ้าฟ้าอิศราพงศ์ พระราชโอรสในสมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาศักดิพลเสพ วังหน้าองค์ที่4 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ มีความคล้ายคลึงกับภาพจิตรกรรมเทพยดาบนบานประตูหน้าต่างด้านในของพระอุโบสถวัดบวรสถานสุทธาวาส (วัดพระแก้ววังหน้า) ที่พระเจ้าราชวรวงศ์เธอ เจ้าฟ้าอิศราพงศ์ ทรงร่วมในการควบคุมการก่อสร้างเช่นกัน
ความพิเศษของประติมากรรมชุดนี้ คือสามารถถ่ายทอดรูปแบบของเทพนพเคราะห์ให้ออกมาเป็นประติมากรรมแบบลอยตัว แสดงท่าทางและลักษณะของเทพนพเคราะห์ได้อย่างสมจริงและมีชีวิตชีวา โดยยังคงรักษาเอกลักษณ์และลักษณะของเทพแต่ละองค์ไว้ได้อย่างสมบูรณ์ สันนิษฐานว่าน่าจะหล่อขึ้นในราวรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้า อยู่หัวเป็นต้นมา โดยเปรียบเทียบลักษณะประติมานวิทยากับภาพในสมุดไทย และรูปสัตว์ที่มีความเหมือนจริงเนื่องจากได้รับอิทธิพลจากตะวันตก
ทั้งนี้ ในวันพฤหัสบดีที่ 11 เม.ย.เวลา 09.09 น.กรมศิลปากรกำหนดจัดพิธีบวงสรวงสมโภช ณ ศาลาสำราญมุขมาตย์ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ
พระนคร .-สำนักข่าวไทย