จ.ชลบุรี 30 มี.ค.- “อุทัย พิมพ์ใจชน” ระบุ ว่าที่ ส.ส.ต้องเชื่อมั่นในรัฐสภา ต่อสู้กับตัวเองอย่าเห็นแก่ผลประโยชน์
นายอุทัย พิมพ์ใจชน อดีตประธานรัฐสภา และอดีตประธานสภาร่างรัฐธรรมนูญ กล่าวปาฐกถาในงานสัมมนาว่าที่ ส.ส.บัญชีรายชื่อและแบ่งเขตเลือกตั้ง ของพรรคอนาคตใหม่ ที่จังหวัดชลบุรี ในหัวข้อ “สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรกับการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย” ตอนหนึ่งว่า การเข้ามาเป็น ส.ส. สิ่งสำคัญที่ต้องคิดถึงและต้องท่องจำไว้ให้ขึ้นใจ คือ การที่เราเข้ามาอยู่ในจุดนี้จะทำประโยชน์เพื่อใคร นอกจากนี้ ต้องต่อสู้กับตัวเองอย่างเข้มข้นมาก ยิ่งสถาการณ์บ้านเมืองขณะนี้ ที่ชัดเจนว่ามีการยึดอำนาจแล้วผู้ที่ยึดอำนาจเขาอยากจะอยู่ครอบครองต่อ จึงมีการออกแบบกฎกติกาต่าง ๆ เพื่อให้ตนเองอยู่ต่อได้ด้วย เช่น การให้ ส.ว.ร่วมเลือกนายกรัฐมนตรี เป็นต้น และที่ตอนนี้มีการพูดถึงอย่างมากคือสิ่งที่เรียกว่างูเห่า ซึ่งอาจจะมี ส.ส. ย้ายพรรค ฝืนมติพรรค โดยในสมัยของตนเองนั้นเรียกว่า ขายตัว
นายอุทัย กล่าวว่า การที่มีผู้มาเสนอผลประโยชน์ให้นั้น ราวปี 2512 ตนอยู่ฝ่ายค้าน เคยมีลูกน้องของนายทหารมาหา บอกว่าเจ้านายอยากได้ตัว คนอื่นๆ รับไป 3.5 แสนบาท กับรถแลนด์ โรเวอร์ ช่วงสั้น ขณะที่ตนถ้าขายตัวจะได้ 10 เท่า และแลนด์ โรเวอร์ ช่วงยาว ตอนนั้น ต้องต่อสู้กับตัวเองอย่างหนัก เพราะถ้าไม่ไปก็เป็นฝ่ายค้าน ต่อไป แต่สุดท้ายแล้วตัดสินใจไม่ไป โดยตอบกลับคนที่มาหาว่าเงินนั้นอยากได้แน่นอน แต่ไม่ทำ
“อยากบอกกับว่าที่ ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ทุกท่านให้เชื่อมั่นในรัฐสภา เชื่อมั่นในการปกครองระอบประชาธิปไตย ผมเป็นคนที่รักสภาฯมาก เพราะเห็นว่าเป็นที่รวมของสิ่งที่เรียกว่า 500 รู้ อย่างสมมติคนที่เป็นด็อกเตอร์ก็อาจจะรู้แค่เรื่องเดียว แต่ในสภามีหลายเรื่องที่จะให้ความรู้เรา เช่น วันหนึ่งอภิปรายเรื่องดาวเทียม อีกวันอภิปรายเรื่องชาวไร่ชาวนา เป็นความรู้ที่หลากหลาย สำหรับผมในฐานะประชาชนทั่วไป อยากฝากว่าที่ ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ ให้ผลักดันเรื่องของการกระจายอำนาจ ตั้งแต่ปี 2526 ที่ผมพยายามผลักดัน ถ้าเกิดขึ้นตั้งแต่ตอนนั้นเชื่อว่าประเทศไทยเจริญรุดหน้ากว่านี้มาก เพราะปัญหาต่างๆ ในท้องถิ่น คนที่รู้ปัญหา รู้วิธีแก้ปัญหาดีที่สุดคือคนที่อยู่ในท้องถิ่น ไม่ใช่คนที่ถูกส่งไปจากส่วนกลางอย่างผู้ว่าราชการจังหวัด ทั้งนี้ ฝากผู้แทนใหม่ทุกท่านว่า เมื่อเข้าไปในสภาแล้วไม่ต้องกลัว พูดในสิ่งที่ตัวเองคิดโดยไม่ต้องเกรงใจผู้แทนเก่า และไม่ต้องกลัวพวกด็อกเตอร์ต่าง ๆ ต้องยืนยันความคิดเห็นของเรา เป็นปากเสียงให้กับประชาชนให้ได้” นายอุทัย กล่าว.-สำนักข่าวไทย