กรุงเทพฯ 27 ส.ค.-อดีต รมว.พลังงาน เตือนอย่าบิดเบือนแนวคิดทางเศรษฐกิจ ประเทศไทยยังต้องพึ่งพาการส่งออกในการขับเคลื่อนประเทศ แนะเร่งฟื้นฟูการส่งออกและการลงทุนเพื่อให้ประเทศก้าวหน้าไปได้
นายพิชัย นริพทะพันธุ์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยถึงตัวเลขการส่งออกในเดือนกรกฏาคม 2559 ที่ยังคงติดลบร้อยละ 4.4 และถ้าหักตัวเลขการส่งออกทองคำจะติดลบถึงร้อยละ 8.2 ซึ่งทำให้การส่งออกที่แท้จริงในปี 2559 ติดลบตลอด 7 เดือนที่ผ่านมา และหากนับปีที่ผ่านมา ก็จะติดลบถึง 19 เดือนติดต่อกัน ทำให้เห็นว่าการส่งออกที่แท้จริงติดลบตลอดช่วงการบริหารงานของนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี และยังไม่สามารถแก้ไขได้ แต่นายสมคิดกลับออกมาระบุว่าเศรษฐกิจไทยยืนได้ด้วยตัวเอง โดยไม่ต้องพึ่งพิงการส่งออกนั้น ไม่น่าจะใช่แนวคิดทางเศรษฐกิจที่ถูกต้อง เพราะการส่งออกมีสัดส่วนถึงร้อยละ 70 ซึ่งเป็นสัดส่วนที่สูงสุดของรายได้ประชาชาติ หากรัฐบาลไม่สามารถฟื้นการส่งออกได้ เศรษฐกิจไทยก็จะโตได้น้อย และจะไม่มีแรงขับเคลื่อนในอนาคต ยิ่งการลงทุนลดลงจนเกือบหมด การส่งออกในอนาคตก็จะลดลงตามไปด้วย
นายพิชัย กล่าวอีกว่า ขอยืนยันว่าประเทศไทยยังต้องพึ่งการส่งออกในการขับเคลื่อนประเทศ และรัฐบาลควรจะต้องเร่งฟื้นฟูการส่งออกและการลงทุนเพื่อให้ประเทศก้าวหน้าไปได้ และขออย่าเสนอแนวคิดที่บิดเบือน เพราะสุดท้ายประเทศจะไม่สามารถพัฒนาได้ และหากนักลงทุนต่างประเทศไม่เชื่อมั่นประเทศไทย ปัญหาเศรษฐกิจก็ยิ่งเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ดังนั้นรัฐบาลควรระวังข้อมูลข่าวสารที่เป็นลบ และควรยึดหลักสากลในการบริหารประเทศ
“ถึงแม้ว่าเศรษฐกิจไทยจะโตขึ้น แต่โตจากฐานเศรษฐกิจที่ต่ำมา 2 ปีติด และมีเพียงคนบางกลุ่มเท่านั้นที่ได้ประโยชน์ โดยจะเห็นได้ว่าประชาชนส่วนใหญ่ยังลำบากกันมาก ดังนั้นจึงอยากขอฝากคำถามไปถึงทีมเศรษฐกิจของรัฐบาลว่าเศรษฐกิจจะโตอย่างต่อเนื่องได้อย่างไร ถ้าการส่งออกไม่ฟื้นและการลงทุนไม่เพิ่ม จะหวังพึ่งแต่การลงทุนภาครัฐและการท่องเที่ยวจะสามารถขยายเศรษฐกิจให้ยั่งยืนได้หรือไม่ ซึ่งหากตอบไม่ได้ ก็สมควรแล้วที่จะมีการปรับ ครม.เศรษฐกิจ” นายพิชัย กล่าว.-สำนักข่าวไทย