อธิบดีปศุสัตว์พบทูตจีน หารือเปิดตลาดส่งออกโคมีชีวิต

กรุงเทพฯ 29 มี.ค. – อธิบดีกรมปศุสัตว์หารือเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทยเกี่ยวกับการส่งออกโคมีชีวิตจากไทยไปจีน โดยเชิญเจ้าหน้าที่ศุลกากรจีนตรวจสอบเขตกักกันโรคในไทย ขณะที่อธิบดีกรมปศุสัตว์เตรียมเยือนมณฑลยูนนานเพื่อสำรวจเส้นทางส่งออกและธุรกิจการค้าโคมีชีวิตในจีน มั่นใจการเปิดตลาดโคมีชีวิตดังกล่าว จะสร้างรายได้ให้แก่เกษตรกรผู้เลี้ยงโคไทยเป็นอย่างมาก


นายสัตวแพทย์สมชวน รัตนมังคลานนท์ อธิบดีกรมปศุสัตว์และคณะ เข้าพบหารือกับนายหาน จื้อเฉียง เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีน ประจำประเทศไทย ณ สถานทูตจีนประจำประเทศไทยเพื่อติดตามความคืบหน้าเกี่ยวกับความร่วมมือด้านการขอเปิดตลาดการส่งออกโคมีชีวิตจากไทยไปจีน 

เอกอัครราชทูตจีนระบุว่า สำนักงานศุลกากรจีนได้รับหนังสือเชิญเจ้าหน้าที่ศุลกากรจีนให้เดินทางมาตรวจสอบเขตกักกันโรคในไทยแล้วซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณาการลงพื้นที่ โดยใช้เวลาพิจารณา 2 เดือน นอกจากนี้ยังได้แลกเปลี่ยนข้อมูลกับอธิบดีกรมปศุสัตว์เรื่องการเลี้ยงโคในประเทศไทยเกี่ยวกับจำนวนเกษตรกร สายพันธุ์โค มาตรฐานฟาร์ม และพืชอาหารสัตว์ แล้วเห็นด้วยว่า ความร่วมมือในการเปิดตลาดส่งออกโคมีชีวิตจากไทยไปจีน จะเป็นผลดีในการช่วยสร้างรายได้ให้แก่เกษตรกรผู้เลี้ยงโคที่มีอยู่เป็นจำนวนมากในประเทศไทย พร้อมยืนยันว่า จะติดตามประเด็นความร่วมมือนี้อย่างใกล้ชิด


อธิบดีกรมปศุสัตว์ได้แจ้งเอกอัครราชทูตจีนว่า จะนำคณะไปเยือนมณฑลยูนนานเพื่อสำรวจเส้นทางส่งออกและธุรกิจการค้าโคมีชีวิต โดยเอกอัครราชทูตจีนเห็นด้วยกับกำหนดการเยือนมณฑลยูนนานของอธิบดีกรมปศุสัตว์ เนื่องจากจะแสดงให้รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของจีนตระหนักถึงความตั้งใจในการขับเคลื่อนการค้าโคมีชีวิตไทย-จีนของกรมปศุสัตว์และรัฐบาลไทย

ในการเดินทางไปยังมณฑลยูนนานของอธิบดีกรมปศุสัตว์และคณะเพื่อสำรวจเส้นทางส่งออกและธุรกิจค้าโคมีชีวิตนั้น มีกำหนดการเยี่ยมคารวะและหารือรายละเอียดมาตรการการนำเข้าโคมีชีวิตกับสำนักงานศุลกากรคุนหมิง สำนักงานเกษตรยูนนาน และสำนักงานพาณิชย์ยูนนานซึ่งมั่นใจว่า จะเป็นประโยชน์ต่อการผลักดันความร่วมมือระหว่างกันอย่างมีนัยสำคัญเนื่องจากกรมปศุสัตว์เป็นหน่วยงานตรงที่มีอำนาจในการเจรจาความร่วมมือการส่งออกสินค้าปศุสัตว์ โดยเอกอัครราชทูตจีนพร้อมสนับสนุนการเยือนมณฑลยูนนานของอธิบดีกรมปศุสัตว์อย่างเต็มที่

สำหรับการขับเคลื่อนการผลักดันการส่งออกโคมีชีวิตและผลิตภัณฑ์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมปศุสัตว์รับสนองนโยบายของรัฐบาลซึ่งจัดทำแผนยกระดับมาตรการเฝ้าระวังป้องกันโรคระบาดและนโยบายในการเตรียมตัวส่งออกโคมีชีวิต ผ่านการรับรองคุณภาพ “ปลอดโรคปลอดภัย” เพื่อสร้างหลักประกันและความเชื่อมั่นให้กับประเทศคู่ค้าว่า สินค้าปศุสัตว์ไทยปราศจากโรค พร้อมกันนี้เร่งเดินหน้าเปิดตลาดใหม่ๆ เพื่อส่งออกไปยังต่างประเทศในตลาดที่มีกำลังซื้อสูง เพื่อให้ผู้เลี้ยงโคสามารถเติบโตในอาชีพได้อย่างยั่งยืนและยกระดับคุณภาพชีวิตของเกษตรกรให้ดีขึ้นอีกด้วย


ทั้งนี้ ในปี 2566 มูลค่าการส่งออกสินค้าปศุสัตว์และอาหารสัตว์เลี้ยงไปยังสาธารณรัฐประชาชนจีน มีมูลค่าประมาณ 19,224 ล้านบาท โดย เป็นสินค้ากลุ่มเนื้อสัตว์ปีกแช่แข็ง ประมาณ 16,917 ล้านบาท สินค้าอื่นๆ เช่น กลุ่มนมและผลิตภัณฑ์ น้ำผึ้ง และรังนกรวม 1,015 ล้านบาท ส่วนกลุ่มอาหารสัตว์เลี้ยง 1,292 ล้านบาท.-512-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สามีเข้าเกียร์ค้างไว้ สตาร์ทรถพุ่งชนภรรยาดับ

สลด! สามีขับรถใส่เกียร์ค้างไว้ สตาร์ทรถพุ่งชนภรรยาเสียชีวิตในบ้านพักย่านวิภาวดี ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การเบื้องต้น นำตัวสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง

คุมฝากขัง “เอ็ม เอกชาติ” เจ้าตัวปิดปากเงียบ

ตร.ไซเบอร์คุมตัว “เอ็ม เอกชาติ” ฝากขัง เจ้าตัวปิดปากเงียบ ไม่ตอบคำถามสื่อ ด้านตำรวจพบเส้นทางการเงินจากเว็บพนัน กว่า 30 ล้านบาท

ข่าวแนะนำ

บกปภ.ช. แถลงความคืบหน้าการให้ความช่วยเหลือเหตุแผ่นดินไหว

บกปภ.ช. แถลงความคืบหน้าการให้ความช่วยเหลือเหตุแผ่นดินไหว สั่งพื้นที่เร่งสำรวจและให้ความช่วยเหลือ หากงบประมาณไม่เพียงพอให้ขอขยายวงเงินทันที ด้านอาคารที่ถล่มได้ส่งทีม USAR Thailand สลับกำลังเพิ่มเติม

นายกฯ กล่าวในวันอีฎิ้ลฟิตริ ฮ.ศ.1446 ส่งความปรารถนาดีชาวไทยมุสลิม

นายกรัฐมนตรี กล่าวในวันอีฎิ้ลฟิตริ ฮ.ศ.1446 ส่งความรัก ความปรารถนาดียังชาวไทยมุสลิมทุกคน ชื่นชมศรัทธาที่เข้มแข็ง ความอดทน อดกลั้น ความมุ่งมั่น เสียสละ

เร่งปฏิบัติการค้นหาผู้รอดชีวิตจากใต้ซากอาคาร สตง.

ปฏิบัติการค้นหาผู้ติดใต้ซากอาคาร สตง. ยังคงดำเนินการอย่างต่อเนื่อง ซึ่งผ่านมาเกือบ 54 ชั่วโมงแล้ว ตอนนี้ยังไม่พบผู้รอดชีวิตเพิ่ม ส่วนยอดผู้เสียชีวิตล่าสุดเพิ่มเป็น 11 รายแล้ว

สตง.ตั้งศูนย์ประสานงานช่วยผู้ประสบภัยตึกถล่มจากแผ่นดินไหว

สตง. เร่งตั้งศูนย์ประสานงานเพื่อให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยและผู้ได้รับผลกระทบ จากกรณีอาคารที่ทำการสำนักงานแห่งใหม่ได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์แผ่นดินไหว พร้อมยืนยันกระบวนการดำเนินโครงการฯ เป็นไปโดยชอบด้วยกฎหมาย