อสังหาริมทรัพย์กังวลยอดปฏิเสธเงินกู้พุ่ง หลังปรับเกณฑ์ผู้กู้ร่วม

กรุงเทพ ฯ 21 มี.ค.  – สมาคมธุรกิจบ้านจัดสรรและสมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย ห่วงยอดปฏิเสธเงินกู้พุ่งสูงถึงร้อยละ 40 เหตุผู้กู้ร่วมกังวล ด้านแบงก์เข้มงวดการปล่อยสินเชื่อมากขึ้น

นายอธิป พีชานนท์ นายกสมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร กล่าวว่า หลังจากที่ธนาคารแห่งประเทศไทย ( ธปท.) ประกาศใช้หลักเกณฑ์สัดส่วนสินเชื่อต่อมูลค่าหลักประกัน ( LTV) ใหม่ ที่จะบังคับใช้ในวันที่ 1 เมษายนนี้  ธนาคารพาณิชย์มีความเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อมากขึ้นกว่าเดิม และพบปัญหาการหาผู้กู้ร่วมยากขึ้น เพราะตามเกณฑ์ LTV ตีความว่าผู้กู้ร่วมเป็นผู้ซื้อบ้านหลังแรกด้วย ดังนั้น ในอนาคตเมื่อผู้กู้ร่วมต้องการซื้อบ้านหลังแรกเป็นของตนเองก็ต้องถูกตีความเป็นการซื้อหลังที่ 2 ซึ่งตามเกณฑ์ LTV ของแบงก์ชาติต้องถูกบังคับเงินดาวน์เริ่มต้นที่ร้อยละ 20 เปรียบเทียบกับการซื้อบ้านหลังแรกมีเงินดาวน์เพียงร้อยละ 5-10 ดังนั้น จึงไม่มีใครอยากเป็นผู้กู้ร่วม เมื่อลูกค้ายื่นขอสินเชื่อจากธนาคารก็จะถูกปฏิเสธการให้สินเชื่อสูงถึงร้อยละ 40 จากเดิมอยู่ที่ร้อยละ 30 ก่อนประกาศมาตรการ LTV โดยพบว่าเกิดขึ้นกับที่อยู่อาศัยราคาต่ำกว่าระดับ 5 ล้านบาท ซึ่งมีสัดส่วนการกู้ร่วมสูง 3 ใน  10  ราย  ดังนั้น ในวันที่ 29 มีนาคมนี้จะหารือกับสมาชิกสมาคม เพื่อเก็บข้อมูลและผลกระทบที่เกิดขึ้น และจะนัดหารือกับ ธปท.เพื่อชี้แจงปัญหาที่เกิดขึ้น

นายอธิป เสนอว่า ให้รัฐบาลจัดตั้งกองทุนสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้น้อย  เพื่อเข้ามาค้ำประกันการขอสินเชื่อที่อยู่อาศัยให้ผู้มีรายได้ลักษณะเดียวกับการค้ำประกันสินเชื่อธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม หรือเอสเอ็มอี ที่มีบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) เป็นผู้ช่วยค้ำประกัน โดยอาจปรับบทบาทให้บรรษัทตลาดรองสินเชื่อที่อยู่อาศัยเข้ามาทำหน้าที่ดูแล ซึ่งจะช่วยผู้ที่มีรายได้น้อยให้มีที่อยู่อาศัยได้เร็วขึ้น

ด้านนายพรนริศ ชวนไชยสิทธิ์  นายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย กล่าวว่า ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในช่วง 2 เดือนแรกยอดขายลดลงบ้าง แต่ไม่มาก  เนื่องจากได้รับผลกระทบจากมาตรการ LTV และรอความชัดเจนทางการเมืองหลังการเลือกตั้ง  ขณะเดียวกันธนาคารพาณิชย์ยังคุมเข้มเรื่องการอนุมัติสินเชื่อ โดยยอดปฏิเสธการอนุมัติสินเชื่อยังสูงเกินร้อยละ 30 ซึ่งภาคอสังหาริมทรัพย์กังวลว่าหากหนี้เสียยังเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ธปท.อาจจะมีมาตรการเข้ามาควบคุมเพิ่มเติมอีก

“ในช่วงหนึ่งเดือนที่ผ่านมาก่อนที่มาตรการ LTV จะใช้ 1  เมษายนนี้ ลูกค้าจะเร่งการโอน ขณะที่ผู้ประกอบการเร่งระบายสตอกบ้านที่ค้าง  เพราะลูกค้าที่ซื้อบ้านหลังที่สอง และผ่อนชำระหลังแรกยังไม่ถึง 3 ปี ต้องวางเงินดาวน์เป็นร้อยละ 20 ขณะที่ผู้ประกอบการเปิดโครงการใหม่น้อยลง  ส่วนใหญ่เป็นคอนโดมิเนียมระดับกลางและที่อยู่อาศัยแนวราบ” นายพรนริศ กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าผู้ประกอบการได้จัดโปรโมชั่นพิเศษ เช่น ฟรีผ่อน 1 ปี  ฟรีดาวน์ ฟรีโอน ฟรีค่าส่วนกลาง ฟรีบิวท์อิน และ โปรโมชั่นพิเศษมากมาย ในงานมหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 40 ระหว่างวันที่ 21-24 มีนาคมนี้ เวลา 10.00-20.00 น. ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ .-สำนักข่าวไทย