โฮโนลูลู 19 มี.ค.- ฮาวายจะเป็นรัฐแรกในสหรัฐที่ห้ามใช้พลาสติกเกือบทุกอย่างในร้านอาหารที่บริการเต็มรูปแบบและร้านอาหารจานด่วน หากร่างกฎหมายใหม่ที่หวังลดปริมาณขยะก่อมลพิษในมหาสมุทรผ่านความเห็นชอบทั้งสองสภา
รัฐฮาวายขึ้นชื่อเรื่องให้ความสำคัญกับการปกป้องสิ่งแวดล้อม บังคับใช้พลังงานหมุนเวียน ห้ามใช้ครีมกันแดดที่มีส่วนผสมเป็นอันตรายต่อปะการัง ล่าสุดวุฒิสภาระดับรัฐผ่านร่างกฎหมายห้ามร้านอาหารทุกแห่งใช้ภาชนะทำจากโฟม และร่างกฎหมายห้ามร้านอาหารทุกแห่งใช้และแจกภาชนะพลาสติกอย่างจาน ชาม ช้อน ส้อม หลอด ไปจนถึงถุง เข้มงวดกว่ารัฐแคลิฟอร์เนียที่เป็นรัฐแรกของสหรัฐที่ห้ามร้านอาหารเต็มรูปแบบให้หลอดพลาสติกแก่ลูกค้าตั้งแต่ปีก่อน และเข้มงวดกว่าหลายเมืองที่ห้ามใช้ถุงพลาสติกแบบครั้งเดียวทิ้ง ร่างกฎหมายทั้งสองฉบับนี้จะต้องนำเข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรระดับรัฐก่อน หากผ่านความเห็นชอบจึงจะส่งไปให้ผู้ว่าการรัฐลงนามเป็นกฎหมายต่อไป
สว.ไมค์ แก็บบาร์ด แถลงต่อวุฒิสภารัฐฮาวายว่า ฮาวายขึ้นชื่อเรื่องเป็นตัวอย่างให้โลกเดินตาม และครั้งนี้ฮาวายก็จะเป็นผู้นำในการปกป้องสิ่งแวดล้อมอีกครั้ง บรรจุภัณฑ์พลาสติกทั่วโลกร้อยละ 95 ถูกโยนทิ้งหลังใช้เพียงครั้งเดียว เฉพาะที่สหรัฐมีหลอดพลาสติกถูกโยนทิ้งมากถึงวันละ 500 ล้านหลอด ขยะพลาสติกที่ย่อยสลายยากเหล่านี้ไปโผล่กลางทะเล กลายเป็นคลื่นวงแหวนขนาดมหึมาล้อมรอบหมู่เกาะทางตะวันออกเฉียงเหนือของฮาวาย และถูกซัดขึ้นไปเกลื่อนชายหาด
ด้านสมาคมร้านอาหารฮาวายที่มีสมาชิก 3,500 ร้าน ติงว่าสมาชิกสภาดำเนินการเร็วเกินไป การห้ามใช้ภาชนะโฟมและพลาสติกจะทำให้ร้านมีต้นทุนสูงขึ้น กล่องโฟม 200 ใบราคา 23 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 728 บาท) หากเปลี่ยนไปใช้กล่องย่อยสลายได้ต้นทุนจะเพิ่มเป็น 57 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1,804 บาท) นอกจากนี้ยังไม่มีทางเลือกอื่นที่ดีกว่าภาชนะพลาสติก และยังไม่มีสถานที่กำจัดภาชนะย่อยสลายได้ที่สมาชิกสภาบอกให้ร้านอาหารใช้ ขณะที่สมาคมอุตสาหกรรมอาหารที่เป็นตัวแทนของซูเปอร์มาร์เก็ตและร้านสะดวกซื้อหันมาสนับสนุนคำสั่งห้ามใช้ภาชนะโฟมแล้ว แต่คัดค้านการห้ามใช้ถุงพลาสติกเพราะจะรวมถึงการใช้ถุงพลาสติกใส่ขยะด้วย ซึ่งจะก่อให้เกิดวิกฤตสาธารณสุขขึ้นได้.- สำนักข่าวไทย