หมอชิต 2 คึกคัก ประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนาฉลองปีใหม่

27 ธ.ค. – บรรยากาศการเดินทางที่หมอชิต 2 คึกคัก ประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนาและท่องเที่ยวในช่วงหยุดยาวปีใหม่ ด้าน รฟท. คาดผู้โดยสารเดินทางขาออกวันนี้ 1 แสนคน


ที่สถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพฯ (หมอชิต 2) ตั้งแต่ช่วงบ่ายจนถึงขณะนี้ ประชาชนที่จะเดินทางกลับภูมิลำเนาเริ่มหนาแน่นขึ้น ทำให้ บขส. ต้องเพิ่มเจ้าหน้าที่ในการอำนวยความสะดวกในบางจุด ประชาชนบางส่วนทั้งที่มีตั๋วแล้ว รอเดินทางก่อน 18.00 น. และผู้โดยสารที่ยังไม่มีตั๋ว รีบเดินทางมาตั้งแต่ช่วงเที่ยง เพราะกลัวรถจะติด

สิ่งที่เปลี่ยนไปในปีนี้คือ การจัดช่องทางเดินจากอาคารผู้โดยสารไปยังชานชาลาให้เป็นระเบียบและมีความปลอดภัยมากขึ้น โดยอนุญาตให้ผู้ที่มีตั๋วโดยสารข้ามไปยังอาคารชานชาลาได้ แต่ไม่อนุญาตให้ญาติหรือผู้ที่ไม่มีตั๋วเข้าไปได้ รวมถึงมีการใช้เครื่องสแกนสัมภาระ เพื่อป้องกันการพกพาอาวุธหรือสิ่งของผิดกฎหมายไว้ในกระเป๋าเดินทางด้วย


ส่วนการตรวจสอบอุปกรณ์ประจำรถต้องตรวจสอบก่อนเดินรถทุกครั้ง โดยจะต้องมีถังดับเพลิง 2 ถัง ด้านหน้าและท้ายรถ ที่ทุบกระจก 6 จุด และมีการทดสอบประตูฉุกเฉินให้เปิดใช้งานได้เป็นปกติ รวมถึงพนักงานขับรถ และพนักงานประจำรถ ทาง บขส. ได้ตรวจสภาพร่างกายและจิตใจ ตรวจวัดแอลกอฮอล์และสารเสพติดก่อนจะเริ่มงาน แต่ละคันจะมีพนักงานขับรถ 2 คน คอยสับเปลี่ยนกันทุก 400 กิโลเมตร เพื่อความปลอดภัยและสร้างความมั่นใจให้กับประชาชน

สำหรับผู้จองตั๋วล่วงหน้าของวันที่ 27-28 ธ.ค. 67 เฉพาะสายเหนือและสายตะวันออกเฉียงเหนือ รอบหลัง 18.00 น.เป็นต้นไป ต้องไปขึ้นรถที่สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ ประตู 2 และเผื่อเวลาเดินทางด้วย ขณะที่ภายในหมอชิต 2 จะรับเฉพาะผู้โดยสารที่ยังไม่มีตั๋วเท่านั้น ซึ่ง บสข. คาดการณ์ไว้ว่าภาพรวมวันนี้จะมีผู้โดยสารหนาแน่นที่สุดถึง 120,000 คน

รฟท.คาดผู้โดยสารเดินทางขาออกวันนี้ 100,000 คน
ที่สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ บรรยากาศการเดินทางทางรถไฟในช่วงเย็นมีประชาชนเดินทางหนาตา โดยผู้ว่าการการรถไฟฯ ลงพื้นที่สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ และโรงงานมักกะสัน เพื่อตรวจสอบความพร้อมรถจักรและรถพ่วง ก่อนให้บริการประชาชน พร้อมทั้งกำชับเจ้าหน้าที่ให้ปฏิบัติตามมาตรการความปลอดภัยอย่างเข้มงวด เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอุบัติเหตุ โดยเฉพาะบริเวณจุดตัดทางรถไฟ และดูแลอำนวยความสะดวกผู้โดยสารตามสถานีต่างๆ ทั่วประเทศ เพื่อไม่ให้มีผู้โดยสารตกค้าง คาดว่าจะมีผู้โดยสารเดินทางรถไฟวันนี้ทั่วประเทศกว่า 100,000 คน


การรถไฟฯ ได้จัดขบวนรถรองรับผู้โดยสาร 219 ขบวน (รวมขบวนรถเสริมพิเศษ 5 ขบวน) จากสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ ไปยังเส้นทางสายเหนือ สายใต้ สายตะวันออกเฉียงเหนือ และสถานีกรุงเทพฯ (หัวลำโพง) ในเส้นทางสายตะวันออก ส่วนเส้นทางที่คาดว่าจะมีผู้โดยสารเดินทางหนาแน่นที่สุดคือ สายใต้ รองลงมาคือ สายตะวันออกเฉียงเหนือ สายเหนือ สายตะวันออก และสายแม่กลอง.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สุดยื้อ! ด.ช.5 ขวบ น้ำหนัก 50 กก. อาหารติดคอดับ

เจ้าหน้าที่กู้ภัยพยายามปั๊มหัวใจเด็กชายวัย 5 ขวบ น้ำหนัก 50 กิโลกรัม อาหารติดคอ แต่สุดยื้อ เสียชีวิต ท่ามกลางความโศกเศร้าของครอบครัว

เจอร่างใต้ตึกถล่ม

เจออีก 4 ร่างใต้ซากตึกถล่มโซน C จ่อนำเครนยักษ์เปิดพื้นที่

กู้ภัยเจอ 4 ร่างผู้สูญหายตึกถล่ม โซน C รอส่งนิติเวชโรงพยาบาลตำรวจ เตรียมนำเครนเข้ายกแผ่นปูนขนาดใหญ่ เปิดพื้นที่มากขึ้น

“ไฮโซกำมะลอ” กระโดดชั้น 3 สน.โคกคราม

“ไฮโซเก๊” โลก 2 ใบ เครียดปีนตึก หลังถูก “คะน้า” ดาราสาว ออกมาแฉกลางรายการดัง จนตำรวจต้องเข้าเกลี้ยกล่อมพาไปโรงพัก แต่ยังวิ่งหนีการควบคุม กระโดดลงมาจากชั้น 3 สน.โครกคราม บาดเจ็บ

ปิดฉาก “มอเตอร์โชว์” ครั้งที่ 46 ยอดจองพุ่ง 7.9 หมื่นคัน โต 44.8%

ยอดจองรถยนต์ในงาน “บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 46” รวมทุกเซกเมนต์โตพุ่ง 44.8% หรือคิดเป็น 79,941 คัน โดยเป็น EV 65% ส่งผลให้ภาพรวมอุตสาหกรรมยานยนต์ของไทยในปีนี้ยังคงอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ยอดผู้เข้าชมงานทั้งสิ้น 1.6 ล้านคน

ข่าวแนะนำ

นายกฯ ควงหัวหน้าพรรคร่วม แถลงเลื่อน “เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์”

นายกฯ ควงหัวหน้าพรรคร่วม แถลงเห็นตรงกันเลื่อนพิจารณาร่าง พ.ร.บ.เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ออกไปก่อน หลังมีเรื่องด่วนกว่า ต้องจัดลำดับความสำคัญ แต่ไม่ถอนการพิจารณาในสภา บอกการเมืองบิดเป็นกาสิโน ลั่นผู้นำสไตล์ “แพทองธาร” พรรคร่วมต้องเห็นด้วยอย่างเต็มใจ

“คะน้า” แจ้งความเอาผิดไฮโซเก๊ หลอกจ่ายค่าแชมเปญ

“คะน้า” ดาราสาว แจ้งความตำรวจไซเบอร์ ดำเนินคดีกับอดีตแฟนหนุ่ม ข้อหาฉ้อโกง หลังหลอกให้จ่ายค่าแชมเปญ 98,000 บาท เพื่อเป็นของขวัญ

ตึกสตง.ถล่ม

เข้าสู่วันที่ 12 นำออกได้อีก 4 ร่าง ภารกิจค้นหาผู้สูญหายตึก สตง.ถล่ม

หลังดีเอสไอรับคดีตึก สตง.ถล่ม เป็นคดีพิเศษ วันนี้ (8 เม.ย.) กรรมการคดีพิเศษได้ลงพื้นที่สังเกตการณ์และหารือแรงงานที่เกี่ยวข้องกับพยานหลักฐาน เพื่อใช้ในคดีกับผู้ที่เข้าข่ายกระทำความผิด ขณะที่ กทม. ยืนยันใช้แผนเดิมในการรื้อถอนอาคาร โดยวันนี้จะพยายามตัดยอดส่วนบนให้ได้ 5 เมตร เพื่อหาร่างผู้ติดอยู่ในโซน B และ C