ไครสต์เชิร์ช 18 มี.ค.- เฟซบุ๊กเผยว่า สามารถลบคลิปที่คนร้ายถ่ายทอดสดขณะก่อเหตุที่มัสยิดในเมืองไครสต์เชิร์ชของนิวซีแลนด์แล้ว 1.5 ล้านคลิปทั่วโลกภายในเวลา 24 ชั่วโมงแรก ขณะที่โลกออนไลน์ยังคงตำหนิเฟซบุ๊กว่าดำเนินการล่าช้าจนมีการแชร์คลิปไปอย่างกว้างขวาง
คนร้ายใช้กล้องที่ติดไว้บนตัว ถ่ายทอดสดผ่านเฟซบุ๊กขณะไล่ยิงคนในมัสยิดอัลนูร์อย่างไม่เลือกหน้าเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา เฟซบุ๊กเผยว่า ได้รีบลบคลิปทันที รวมทั้งบัญชีเฟซบุ๊กและอินสตาแกรมของคนร้าย นอกจากนี้ยังลบคลิปที่ส่งต่อทั่วโลกได้ 1.5 ล้านครั้งในช่วง 24 ชั่วโมงแรก โดยเป็นการบล็อกการอัพโหลดถึง 1.2 ล้านครั้ง โฆษกเฟซบุ๊กนิวซีแลนด์แถลงว่า บริษัททำงานตลอด 24 ชั่วโมงโดยใช้ทั้งกำลังคนและเทคโนโลยีลบเนื้อหาละเมิด
ทางการนิวซีแลนด์ทั้งขอและขู่ไม่ให้ดูหรือส่งต่อคลิป แต่ผู้เชี่ยวชาญเผยว่า มีคนกู้คลิปความยาว 17 นาทีนี้ได้อย่างง่ายดายหลังเหตุการณ์ผ่านไปแล้วหลายชั่วโมง ข้อมูลของเฟซบุ๊กเองระบุว่า มีการอัพโหลดอย่างน้อย 300,000 ครั้งที่บล็อกไม่ทัน และไม่มีตัวเลขอย่างเป็นทางการว่าคลิปเหล่านี้ถูกดูหรือส่งต่อไปแล้วกี่ครั้ง นายกรัฐมนตรีจาซินดา อาร์เดิร์นของนิวซีแลนด์ชี้ว่า เป็นความรับผิดชอบของสื่อสังคมออนไลน์ต่าง ๆ ที่เข้าถึงคนอย่างกว้างขวาง เพราะเกินความสามารถของนิวซีแลนด์ รัฐบาลจะหยิบยกเรื่องนี้ขึ้นหารือกับเฟซบุ๊กต่อไป หนังสือพิมพ์นิวซีแลนด์เฮรัลด์รายงานว่า บริษัทใหญ่บางแห่งกำลังพิจารณาถอดโฆษณาออกจากเฟซบุ๊ก
ครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่เฟซบุ๊กถูกใช้เป็นช่องทางเผยแพร่ความป่าเถื่อน นายสตีฟ สตีเฟนส์ ชายชาวเมืองคลีฟแลนด์ในสหรัฐโพสต์คลิปยิงชายชราที่กำลังเดินกลับบ้านในปี 2560 ทั้งที่ไม่รู้จักกัน แต่ทำไปเพราะเพิ่งทะเลาะกับแฟน ครั้งนั้นเฟซบุ๊กและทวิตเตอร์แจ้งว่า ได้ลงทุนด้านเทคโนโลยีและทรัพยากรบุคคลเพื่อแก้ปัญหานี้ นายกรัฐมนตรีสกอตต์ มอร์ริสันของออสเตรเลียชี้ว่า สื่อสังคมออนไลน์แสดงท่าทีว่าเต็มใจแก้ปัญหา แต่กลับไม่เห็นการดำเนินการอย่างจริงจัง ขณะที่มีหลายเสียงวิจารณ์สื่อหลักหลายแห่งที่นำคลิปนี้มาออกอากาศ ทางการออสเตรเลียได้เปิดการสอบสวนอย่างเป็นทางการว่ามีสื่อใดทำผิดกฎหมายหรือไม่ หลังจากสกายนิวส์ออสเตรเลียออกอากาศคลิปของคนร้าย.- สำนักข่าวไทย