เรืองไกรยื่นข้อมูลสอบพล.อ.ประยุทธ์เป็นเจ้าหน้าที่รัฐเพิ่ม

สำนักงาน กกต. 18 มี.ค.- “เรืองไกร” ยื่นข้อมูลสอบ “พล.อ.ประยุทธ์” เป็นเจ้าหน้าที่รัฐเพิ่ม  หวังให้ชัดเจนก่อนประชาชนไปใช้สิทธิ   ไม่เช่นนั้นกระทบต่อการโหวตนายกรัฐมนตรีในสภาฯ  จี้สอบเปิดคลิป “พล.อ.ประยุทธ์”  บนเวทีปราศรัย -กำหนดนโยบาย พปชร. เข้าข่ายครอบงำ ชี้นำผิดพ.ร.ป.พรรคการเมืองมาตรา 28 


นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีตผู้สมัครส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคไทยรักษาชาติ เดินทางมายื่นเอกสารเพิ่มเติมคำร้องที่ให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) พิจารณาว่าพล.อ.ประยุทธ์ จันทรโอชา นายกรัฐมนตรีในฐานะหัวหน้า คสช. เป็นเจ้าหน้าที่อื่นของรัฐ ขาดคุณสมบัติ เป็นผู้ได้รับการเสนอชื่อเป็นแคนดิเนตนายกรัฐมนตรีของพรรคพลังประชารัฐ โดยในวันนี้ได้นำคำสั่งศาลฎีภาแผนกคดีเลือกตั้งเมื่อปี 2550  ที่กกต.ได้ถอนชื่อผู้สมัครส.ส.นราธิวาส ซึ่งเป็นลูกจ้างชั่วคราวในรร.ทางภาคใต้ ซึ่งผู้สมัครเป็นเพียงแค่วิทยากร แต่กกต.ก็ร้องค้านว่าเข้าข่ายลักษณะเจ้าหน้าที่อื่นของรัฐ และไม่ประกาศรับรองให้เป็นผู้สมัคร และผู้สมัครคนดังกล่าวก็คัดค้านแต่ศาลก็วินิจฉัยว่าบุคคลดังกล่าวซึ่งเป็นเพียงลูกจ้างชั่วคราวมีชั่วโมงการทำงานถือเป็นเจ้าหน้าที่อื่นของรัฐ จึงไม่ประกาศคืนสิทธิ และอีกประเด็นคือการให้สัมภาษณ์ของนายกอบศักดิ์ ภูตระกูล โฆษกพรรคพลังประชารัฐ ในฐานะโฆษกพรรคที่ให้สัมภาษณ์ยอมรับว่าพล.อ.ประยุทธ์เข้ามาดูแลนโยบายของพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งถือเป็นการสารภาพว่าพรรคพลังประชารัฐมีพล.อ.ประยุทธ์เข้ามาชี้นำ จึงขอให้ กกต. ไปเรียกพยานที่เกี่ยวข้องมาดำเนินการสอบสวน

นายเรืองไกร ยังกล่าวด้วยว่า กรณีการเปิดคลิปปราศรัยของพล.อ.ประยุทธ์ บนเวทีปราศรัยของพรรคพลังประชารัฐที่  จ.สุโขทัย ที่พล.อ.ประยุทธ์ ปราศรัยโดยมีเนื้อความตอนหนึ่งว่า ” ไม่ได้ทำเพื่อตัวเอง แต่ทำเพื่อประเทศชาติและพรรคพลังประชารัฐ ” ซึ่งการนำคลิปดังกล่าวมาเปิดบนเวทีปราศรัย ถือว่าผิด พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมืองมาตรา 28  ที่ห้ามมิให้พรรคการเมืองยินยอมให้บุคคลอื่นที่ไม่ใช่สมาชิกพรรคควบคุม ครอบงำ ชี้นำ การดำเนินกกิจกรรมของพรรคการเมือง ซึ่งในกรณีนี้กกต.จะอ้างว่าความยังไม่ปรากฎ คงไม่ได้ เพราะทุกคนก็ได้รับทราบจากข่าว


นายเรืองไกร กล่าวว่า นอกจากนี้ตนยังได้นำคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญ กรณีนายรังสิมันต์ โรม นายจาตุรนต์ ฉายแสง  และน.ส.ณัฎฐา มหัทธนา ซึ่งเป็นพวกที่ถูกจับกุมเนื่องจากชุมนุมเกิน 5  คน ที่ศาลรัฐธรรมนูญได้วินิจฉัยและจำหน่ายคดี โดยระบุว่า ต้องไปร้องต่อศาลยุติธรรม ซึ่งจะเห็นได้ว่าพล.อ.ประยุทธ์ ไม่ใช่รัฎฐาธิปัตย์   และสามารถถูกตรวจสอบได้ นอกจากนี้ยังมีคดีที่ผู้สมัครไปร้องในกรณีที่ กกต. ไม่รับรองให้เป็นผู้สมัครในการสมัครรับเลือกตั้งเมื่อวันที่  4 มี.ค. ซึ่งได้พูดถึงคำสั่ง คสช.ว่าเป็นคำสั่งทางการเมือง เมื่อศาลวินิจฉัยอย่างนี้กกต.จะยังเชื่อผู้ตรวจการแผ่นดินอยู่หรือไม่ ซึ่งผลไม่ใช่จะเกิดในตอนนี้ แต่จะมีผลต่อการโหวตนายกรัฐมนตรีในสภา ดังนั้นจึงเห็นว่ากกต.จึงควรส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยเพื่อไม่ให้เรื่องคาราคาซัง เพราะจะมีการเลือกตั้งในสัปดาห์นี้แล้ว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

“โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 เข้าพบนายกฯ

“โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 เข้าพบ “แพทองธาร” นายกฯ ชื่นชมเป็นคนเก่ง-มองโลกบวก เป็นหน้าตาของประเทศ นำเสนอวัฒนธรรม-ซอฟต์พาวเวอร์ ผ่านการประกวด พร้อมชวนร่วมงานรัฐบาล สร้างแรงบันดาลใจเด็กๆ ขณะที่ นายกฯ เขินถูกชมว่าตัวจริงสวย

ล้มล้างการปกครอง

ศาล รธน.มีมติเสียงข้างมากไม่รับคำร้อง “ทักษิณ-พท.” ล้มล้างการปกครอง

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเสียงข้างมากไม่รับคำร้องของนายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ขอให้ศาลวินิจฉัยว่า “ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย” ล้มล้างการปกครอง

คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญถกคำร้อง “ทักษิณ-เพื่อไทย” ล้มล้างฯ

จับตา ศาลรัฐธรรมนูญ “รับ/ไม่รับ” คำร้องปม “ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย” ใช้สิทธิเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองหรือไม่