กองทัพบก 14 มี.ค.-คสช.ขอบคุณทุกภาคส่วนแก้ปัญหาฝุ่นละออง-ไฟป่า เตรียมรับภัยแล้งต่อ กำชับส่งต่องานจัดระเบียบสังคมให้ต่อเนื่อง รณรงค์ประชาชนไปใช้สิทธิเลือกตั้ง แนะศึกษานโยบายพรรคการเมืองให้ครบทุกมิติ
พ.อ.หญิงศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) เปิดเผยผลการประชุมสำนักเลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติ วันนี้(14 มี.ค.) ที่มีพล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รองเลขาธิการคสช.เป็นประธาน ว่า ที่ประชุมหารือเรื่องการแก้ไขปัญหาฝุ่นละออง ไฟป่าและหมอกควัน ที่ขณะนี้คลี่คลายไปในทิศทางที่ดีขึ้น จากการบูรณาการร่วมของทุกส่วน โดยเฉพาะกระทรวงมหาดไทย กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย(กกล.รส.) กองทัพภาคที่ 1 และกองทัพภาคที่ 3 รวมทั้งการเตรียมรับปัญหาภัยแล้งที่กำลังจะเกิดขึ้น
“ส่วนปัญหาภัยแล้ง นายกรัฐมนตรีมีความห่วงใยต่อสถานการณ์น้ำในช่วงฤดูแล้ง จำเป็นที่ทุกส่วนงานจะต้องเตรียมการดูแลประชาชนอย่างทั่วถึง โดยเฉพาะการใช้กลไกของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัด(กอ.รมน.จังหวัด) บูรณาการแก้ไขปัญหาภัยแล้ง โดยมีมณฑลทหารบกซึ่งเป็นหน่วยทหารประจำพื้นที่ให้การสนับสนุน ภารกิจช่วยประชาชนตามอัตราโครงสร้างใหม่ของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร(กอ.รมน.)” รองโฆษกคสช. กล่าว
พ.อ.หญิงศิริจันทร์ กล่าวว่า รองเลขาธิการคสช.กำชับเรื่องงานจัดระเบียบสังคมที่คสช.ช่วยแก้ไขปัญหาหลายด้านและวางรากฐานมาตลอด 5 ปี ทั้งนี้ ในช่วงเปลี่ยนผ่าน ขอให้คงสภาพงานตามระบบที่วางไว้ รวมถึงการส่งต่อภารกิจให้กับหน่วยงานที่รับผิดชอบโดยตรง เพื่อคงความต่อเนื่องในการดูแลประชาชน ดูแลพื้นที่สาธารณะ และการบังคับใช้กฎหมายให้เกิดผลสัมฤทธิ์เป็นรูปธรรมต่อไป เช่น การปราบปรามผู้มีอิทธิพล การจัดระเบียบรถบริการสาธารณะ เด็กแว้น การสกัดกั้นยาเสพติด จัดระเบียบแหล่งท่องเที่ยว หาบเร่แผงรอยบนทางเท้า การรุกล้ำลำคลองและพื้นที่สาธารณะ
“รองเลขาธิการคสช.ได้ตั้งข้อสังเกตว่าช่วงโค้งสุดท้ายก่อนการเลือกตั้ง มีการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารหลากหลาย รวมถึงยังคงบิดเบือนข้อเท็จจริง จึงจำเป็นที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องรีบชี้แจงโดยทันที เพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลที่เป็นความจริง อย่างไรก็ตาม นอกจากการรณรงค์เชิญชวนให้ประชาชนออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งแล้ว สิ่งจำเป็นในขณะนี้คือการประชาสัมพันธ์ให้ผู้ที่จะไปใช้สิทธิ์ได้มีความรู้ความเข้าใจ ศึกษานโยบายพรรคการเมืองว่าจะสามารถสร้างประโยชน์ให้ประเทศได้จริง มองให้ครบในทุกมิติ เป็นนโยบายที่แก้ไขปัญหาและพัฒนาประเทศ สอดคล้องกับกฎหมาย และสภาพสังคมไทย ซึ่งความรู้ความเข้าใจเบื้องต้นในเรื่องดังกล่าวจะเป็นประโยชน์ต่อการตัดสินใจของประชาชน เพื่อร่วมกันกำหนดทิศทางของประเทศผ่านการเลือกตั้งในครั้งนี้” รองโฆษกคสช. กล่าว.-สำนักข่าวไทย