“อภิสิทธิ์” ประกาศตัวเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล

ประชาธิปัตย์ 11 มี.ค. – “อภิสิทธิ์”  ปัดแทงกั๊ก ย้ำจุดยืนชัดไม่หนุน “พล.อ.ประยุทธ์” – ไม่เอาเพื่อไทย  ประกาศตัวเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล  แม้จะไม่ได้ ส.ส.อันดับหนึ่ง จี้ ส.ว.เคารพเสียงประชาชน เผย หว่งเส้นทางนายกฯ ของ “พล.อ.ประยุทธ์” ต้องพึ่งพาพรรคการเมือง ที่ไม่อาจคุมได้  

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมแกนนำพรรค แถลงย้ำจุดยืนไม่ร่วมรัฐบาลทุจริต และพรรคการเมืองที่สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี เพราะถือเป็นการสืบทอดอำนาจ พร้อมประกาศตัวเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลรวบรวมเสียงข้างมาก โดยไม่ผูกมัดว่าจะพรรคจะต้องได้ ส.ส.อันดับหนึ่ง เพราะตามกติกาพรรคใดรวบรวมเสียงได้ก็ตั้งรัฐบาลได้

“ดังนั้น หากพรรคพลังประชารัฐจะร่วมรัฐบาลกับพรรคประชาธิปัตย์ ก็ต้องไม่มี พล.อ.ประยุทธ์ เพราะเงื่อนไขที่จะทำให้เกิดความขัดแย้งมากที่สุดคือการสืบทอดอำนาจ ฉะนั้น พล.อ.ประยุทธ์ จึงกลายเป็นศูนย์กลางของเงื่อนไขความขัดแย้งมากที่สุดหลังเลือกตั้ง” นายอภิสิทธิ์ กล่าว

ส่วนที่หลายฝ่ายมองว่า พล.อ.ประยุทธ์จะช่วยดูแลบ้านเมืองไม่ให้เกิดความขัดแย้งได้นั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า หลังการเลือกตั้งจะไม่มีมาตรา 44 เป็นเครื่องมือเหมือนช่วง 5 ปีที่ผ่านมา  ส่วนตัวมั่นใจว่า ฝ่ายความมั่นคงพร้อมที่จะดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยให้ลุล่วงไปด้วยดี อีกทั้ง คนไทยทั่วประเทศผ่านเหตุการณ์ความวุ่นวายช่วง 10 ปี ที่ผ่านมา และส่วนใหญ่ไม่ต้องการให้เกิดเหตุการณ์เหมือนอดีต 

“จากประสบการณ์การทำงานของผมในอดีต ทำให้เรียนรู้ว่า จะต้องเปลี่ยนแปลงแนวทางในการจัดการปัญหาความวุ่นวายอย่างไร และประกาศชัดว่าผมไม่เกรงใจ ดังนั้น หากผมเป็นนายกรัฐมนตรี ก็จะบริหารจัดการไม่ให้เกิดความขัดแย้ง  หากไม่สามารถรวบรวมเสียงข้างมากได้ พรรคประชาธิปัตย์ก็ต้องเป็นฝ่ายค้าน” นายอภิสิทธิ์ กล่าว

นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า สิ่งที่น่ากังวลงใจขณะนี้คือ เส้นทางการเป็นนายกรัฐมนตรีของ พล.อ.ประยุทธ์ จะต้องพึ่งพาพรรคการเมืองที่สนับสนุน ซึ่งเห็นแล้วว่าขณะนี้ไม่สามารถควบคุมได้ ทั้งนโยบายเรื่อง สปก.  และนโยบายข้าว ที่ขัดกับจุดยืนของ พล.อ.ประยุทธ์ 

“จุดยืนที่ประกาศไปของผมมีความชัดเจน ตรงกับอุดมการณ์ของพรรค ที่ยืนหยัดมา 70 กว่าปี ไม่ใช่การแทงกั๊ก หากไม่ตรงกับ 2 แนวทางนี้ คือไม่ร่วมกับรัฐบาลที่ทุจริต และสืบทอดอำนาจ” นายอภิสิทธิ์ กล่าว

นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ส่วนกรณีของพรรคเพื่อไทยก็แสดงให้เห็นว่า ไม่น่าจะมีอะไรที่เปลี่ยนแปลง เพราะจากปรากฎการณ์หลายอย่างในช่วง 1  เดือนกว่าๆ ที่ผ่านมา ยังน่าจะยืนยันว่ามีคนที่สามารถครอบงำได้อยู่ในมุมมองของเรา ขณะที่ พรรคพลังประชารัฐนั้น  ยังนึกไม่ออกว่า เมื่อไม่มี พล.อ.ประยุทธ์แล้วจะเป็นอย่างไร เพราะผู้บริหารเขาทั้งหมด ไม่มีใครเป็น ส.ส.เลย 

“ยืนยันว่า การประกาศจุดยืนในครั้งนี้ เพื่อประกาศตัวเป็นแกนนำตั้งรัฐบาล ไม่ได้ประกาศตัวเป็นฝ่ายค้าน เพราะการเป็นรัฐบาลจะต้องมีเสียงข้างมากในการบริหารประเทศ ดังนั้น จึงย้ำว่า ส.ว. 250 คน ควรเคารพการตัดสินใจของประชาชน  ซึ่งขณะนี้ทุกพรรคการเมืองก็เห็นด้วยตามแนวทางนี้  ยกเว้นพรรคพลังประชารัฐ” นายอภิสิทธิ์ กล่าว  .- สำนักข่าวไทย