กทม. 10 มี.ค. – ผู้ต้องหาคดีลักทรัพย์วัย 56 ปี ชาวสระบุรี ใช้ผ้าผูกคอดับคาห้องขัง สน.ดอนเมือง สั่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนสิบเวรที่ดูแลห้องขัง
เมื่อคืนนี้ (9 มี.ค.) เวลา 20.30 น. มีผู้ต้องหาผูกคอเสียชีวิตภายในห้องขัง สน.ดอนเมือง เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน แพทย์นิติเวช รพ.ภูมิพล และเจ้าหน้าที่อาสามูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง เข้าตรวจสอบ พบว่าที่เกิดเหตุอยู่ภายในห้องขังชั้น 2 สน.ดอนเมือง ส่วนผู้เสียชีวิต คือ นายสัญญา คล้ายนิลห้าว อายุ 56 ปี ชาวสระบุรี เสียชีวิตในสภาพสวมเสื้อสีเหลือง กางเกงขายาวสีดำ ใช้ผ้าขาวม้าผูกคอกับลูกกรงห้องขัง ในท่ายืน เจ้าหน้าที่ใช้มีดตัดผ้าเพื่อนำศพลงมา
พ.ต.ท.รังสรรค์ สอนสิงห์ รองผู้กำกับการสอบสวน สน.ดอนเมือง สอบสวนสิบเวรหน้าห้องขัง ทราบว่า ผู้เสียชีวิตถูกเจ้าหน้าที่การท่าคุมตัวมาส่งที่ สน.ดอนเมือง ช่วงค่ำวันที่ 8 มีนาคม ในข้อหาลักทรัพย์ ภายในสนามบินดอนเมือง แต่ผู้ต้องหาให้การภาคเสธ จากการตรวจสอบประวัตินายสัญญา พบมีหมายจับศาลจังหวัดอุดรธานี ในคดีฉ้อโกง เมื่อปี 2552 จึงควบคุมตัวไว้
ก่อนเกิดเหตุ ผู้ต้องหาได้ล้างหน้าและขอผ้าเช็ดหน้ากับสิบเวรหน้าห้องขัง สิบเวรจึงให้ผ้าขาวม้าไปเพื่อเช็ดหน้า แต่ไม่คิดว่าผู้ต้องหาจะนำไปผูกคอกับลูกกรง
เบื้องต้นสันนิษฐานว่า ผู้ต้องหาน่าจะเกิดความเครียดจากการถูกจับ ทำให้คิดฆ่าตัวตาย ซึ่งตำรวจได้ส่งศพให้นิติเวช รพ.ภูมิพล ชันสูตร และประสานใหญาติมารับศพเพื่อนำไปบำเพ็ญกุศลต่อไป
ล่าสุด พล.ต.ต.เอกชัย บุญวิสุทธิ์ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 2 เปิดเผยว่า เบื้องต้นได้สั่งการให้ผู้กำกับการ สน.ดอนเมือง ตั้งคณะกรรมการสอบสวนสิบเวรที่ดูแลห้องขัง รวมถึงตำรวจนายอื่นๆ ที่เข้าเวรในช่วงเวลาดังกล่าวว่า เหตุใดจึงเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นได้ และหาที่มาของผ้าผืนดังกล่าว เพราะจากการสอบถามล่าสุดทราบว่า ผ้าที่ผู้ต้องหาใช้ผูกคอเสียชีวิตไม่ใช่ผ้าขาวม้าอย่างที่เป็นข่าวไปก่อนหน้านี้ แต่เป็นลักษณะคล้ายกับผ้าขนหนูแบบยาว ซึ่งเป็นลายตารางมีลักษณะคล้ายกับผ้าพันคอ จึงทำให้อาจเข้าใจผิดว่าผ้าผืนดังกล่าวเป็นผ้าขาวม้า
ส่วนที่มาของผ้าผืนดังกล่าว เป็นของตำรวจมอบให้หรือผู้ต้องหาแอบลักลอบนำเข้าไป ยังสรุปไม่ได้ ต้องรอให้ผลการสอบสวนเสร็จสิ้นก่อน จึงสั่งการให้สอบสวนเรื่องนี้ให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน และส่งกลับมาให้ตรวจสอบ หากพบว่ามีใครที่ทำผิดตามระเบียบข้อบังคับก็จะดำเนินการลงโทษทางวินัยหรือทางอาญาทันที
ส่วนด้านคดีความขณะนี้อยู่ระหว่างการรอให้ญาติผู้ต้องหาเข้ามาแจ้งความดำเนินคดีตามขั้นตอน ก่อนจะรวบรวมพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุของกองพิสูจน์หลักฐานพร้อมหลักฐานการชันสูตรของแพทย์ ความเห็นของอัยการ รวมทั้งผลตรวจสอบทางนิติวิทยาศาสตร์ ซึ่งต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่งมาประกอบในสำนวนคดี
เบื้องต้นคาดว่าผู้ต้องหาน่าจะผูกคอตนเองเสียชีวิต เนื่องจากเครียดจากคดีเดิมที่ปรากฏตามหมายจับในข้อหาฉ้อโกงแรงงาน และคดีใหม่ที่ถูกแจ้งความดำเนินคดีก่อนจะถูกนำมาควบคุมตัวที่ สน.ดอนเมือง ย้ำจะดำเนินการอย่างตรงไปตรงมา หากตำรวจบกพร่องต่อหน้าที่หรือประมาทเลินเล่อ จะดำเนินการโดยไม่ละเว้น. – สำนักข่าวไทย