น่าน 29 ส.ค.- สสจ.น่านย้ำเตือนบริโภคเมนูพิสดารไม่ปลอดภัย ล่าสุดกินไข่คางคกปิ้งหามส่งโรงพยาบาล 5 ราย เสียชีวิตแล้ว 2 ชี้พิษมีฤทธิ์ต่อระบบประสาท แม้ปรุงสุกก็ไม่ปลอดภัย ความร้อนไม่ทำลายพิษ ขนาดนำเนื้อสัตว์อื่นย่างบนตะแกรงเดียวกันก็เสี่ยง
นายแพทย์นิพนธ์ พัฒนกิจเรือง นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดน่าน เปิดเผยกรณีผู้ป่วยจาก อ.ทุ่งช้าง ถูกนำส่งโรงพยาบาลทุ่งช้างด้วยอาการแน่นหายใจติดขัด อาเจียนและหมดสติ หลังกินเนื้อ-ไข่คางคกปิ้งกับสุราว่า มีผู้ป่วยเข้ามารักษา 5 ราย มีทั้งผู้ใหญ่และเด็ก ในจำนวนนี้เสียชีวิต 2 ราย เป็นชายอายุ 70 ปี ล่าสุด (29 ส.ค.) เจ้าหน้าที่สาธารณสุขอำเภอทุ่งช้างได้ลงพื้นที่เกิดเหตุหมู่บ้านประดู่ เพื่อเก็บตัวอย่างคางคกปิ้งไปตรวจพิสูจน์ สำหรับสารพิษที่พบในคางคก คือ บูฟากิน บูโฟท็อกซิน และบูโฟเทนนิน สามารถพบในผิวหนัง เลือด เครื่องใน และไข่ ซึ่งมีฤทธิ์ต่อระบบประสาท มีผลต่อระบบทางเดินอาหาร ทำให้เกิดภาวะหัวใจล้มเหลวจนเสียชีวิตได้ทันที และความร้อนไม่สามารถทำลายพิษได้ ดังนั้น จึงขอเตือนประชาชนหรือผู้ชอบรับประทานเมนูเปิบพิสดารห้ามนำคางคกหรือไข่คางคกมาบริโภคเด็ดขาด หากรับพิษจากการกินคางคกหรือไข่คางคกเข้าไปควรรีบทำให้อาเจียนโดยเร็วที่สุด และส่งโรงพยาบาลทันที
นางยอด เสียงกอง ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านประดู่ กล่าวว่า ผู้สูงอายุ 70 ปี จับคางคกตัวใหญ่ขณะฝนตกมาได้ 1 ตัว และลองทำเมนูคางคกปิ้ง โดยในตัวคางคกมีไข่อยู่ด้วย และยังชักชวนเพื่อนบ้านมาร่วมวงกินกันพร้อมสุรา หลังจากกินไปไม่ถึงชั่วโมงก็เริ่มมีอาการแน่นท้อง ท้องเสีย หายใจไม่สะดวก ญาติจึงรีบส่งโรงพยาบาล ส่วนเด็ก อายุ 6-7ขวบ นำเนื้อไก่ไปปิ้งบนตะแกรงที่ปิ้งคางคกก็มีอาการเช่นเดียวกัน.-สำนักข่าวไทย