“สมคิด” มั่นใจ “พล.อ.ประยุทธ์” กลับมาเป็นนายกฯ

เมืองทองธานี 4 มี.ค. – รัฐบาลยืนยันต่อหน้านักลงทุน  2 พันคน เร่งพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานอย่างต่อเนื่อง หลังจากมีผลงานชัดเจน 5 ปี ขณะที่ “สมคิด” ยืนยัน 24 มี.ค.ไทยจะมีเลือกตั้ง และมั่นใจ “พล.อ.ประยุทธ์” กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีจากผลงานที่ทำไว้ 5 ปีที่ผ่านมา


พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดสัมมนา “Thailand investment Year What’s New” จัดโดยสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) กล่าวกับนักลงทุนที่มาร่วมงานกว่า 2,000 คน ยืนยันว่า 5 ปีที่ผ่านมารัฐบาลมุ่งสร้างความสามารถการแข่งขันของประเทศตามกรอบยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ภายใต้แนวคิด 3 ประการ คือ 1.ต่อยอดอดีต จากทรัพยากรประเทศที่มีให้สอดคล้องกับเศรษฐกิจสมัยใหม่  2.การปรับปัจจุบันให้มีความทันสมัยด้วยการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศทุกด้าน ทั้งระบบขนส่ง คมนาคม วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และสุดท้ายสร้างคุณค่าใหม่ในอนาคตด้วยการสร้างผู้ประกอบการรุ่นใหม่ และปรับโมเดลธุรกิจให้สอดคล้องตลาด ขณะที่มิติด้านการลงทุน ยืนยันว่ายังเป็นตัวจักรสำคัญในการขับเคลื่อนประเทศ  ที่ผ่านมาการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของรัฐบาลรองรับการลงทุนที่จะเกิดขึ้นมากมายในอนาคต  โดยย้ำว่ารัฐบาลให้ความสำคัญกับสิ่งที่ขาดไม่ได้ คือ พัฒนาศักยภาพเกษตรกรให้มีความเข้มแข็ง เพื่อก้าวสู่เป็นสมาร์ทฟาร์มเมอร์ควบคู่ภาคอุตสาหกรรมและการพัฒนาการลงทุนในพื้นที่พิเศษ เช่น เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี)

นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีเศรษฐกิจ ปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “ปีแห่งการลงทุนเปลี่ยนความท้าทายให้เป็นโอกาส”  โดยระบุว่าการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในพื้นที่อีอีซี ซึ่งหลายประเทศให้ความสนใจลงทุนสะท้อนความตั้งใจของรัฐบาลที่จะเร่งให้ภาคการลงทุนขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยในช่วงเศรษฐกิจโลกอาจจะไม่ดี โดยโครงการลงทุนสำคัญในพื้นที่อีอีซีที่รัฐบาลผลักดันไม่ว่าโครงการรถไฟเชื่อม 3 สนามบิน โครงการท่าเรือมาบตาพุดเฟส 3 โครงการขยายสนามบินอู่ตะเภา และท่าเรือแหลมฉบับ ซึ่งโครงการเหล่านี้จะสามารถประมูลหาผู้ลงทุนได้ครบภายในเดือนพฤษภาคม-มิถุนายนนี้ นอกจากนี้ รัฐบาลยังผลักดันลงทุนรถไฟฟ้าในเมืองเส้นทางต่าง ๆ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถของประเทศ รวมทั้งการสร้างเครือข่ายอินเทอร์เน็ตหมู่บ้านทั่วไทย และการเตรียมเข้าสู่ 5 G ปีหน้า ทำให้ไทยมีความพร้อมเชื่อมโยงกับโลกเป็นเสมือนเกตเวย์การค้าในภูมิภาค 


ทั้งนี้ นายสมคิด ยืนยันว่ารัฐบาลมั่นใจผลงานรอบ 5 ปีที่ผ่านมา และวันที่ 24 มีนาคมนี้ยืนยันว่าไทยจะมีการเลือกตั้งเป็นไปตามโรดแมพ และสัญญาที่เคยให้กับประชาชน รวมทั้งเป็นการนำไทยกลับสู่ประชาคมโลกในฐานะที่มีประชาธิปไตย  ส่วนข้อกังวลของนักลงทุนว่าเมื่อเลือกตั้งแล้วจะมีการเปลี่ยนแปลงนโยบายเศรษฐกิจที่กระทบกับการลทุนหรือไม่ ยืนยันว่ารัฐบาลขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ ทำให้เกิดการต่อเนื่องของการลงทุน เช่น การลงทุนพื้นที่อีอีซี ได้มีการออกกฎหมายรองรับ อย่างไรก็ตาม มั่นใจว่าหลังการเลือกตั้ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะกลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง จากผลงานโดดเด่น 5 ปี ซึ่งเชื่อว่าคนไทยจะสามารถตัดสินใจเลือกตั้งครั้งนี้ได้.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

นร.หญิง ม.1 จมทะเลดับ หลังโรงเรียนพาไปทัศนศึกษาที่ระยอง

โรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่งใน จ.นครราชสีมา พานักเรียนไปทัศนศึกษาที่ จ.ระยอง นักเรียนหญิง ม.1 ถูกคลื่นดูดลงทะเลขณะเล่นน้ำ เสียชีวิต พ่อแม่สุดเศร้าสูญเสียลูกสาวคนเดียวของครอบครัว

น้ำท่วมเชียงใหม่

เชียงใหม่จมบาดาล น้ำท่วมครั้งประวัติศาสตร์

น้ำท่วมในตัวเมืองเชียงใหม่ ยังวิกฤติ หลังน้ำในลำน้ำปิงขึ้นสูงสุดทรงตัวสูงกว่า 5.30 เมตร ซึ่งสูงที่สุดตั้งแต่มีการวัดระดับน้ำปิง

น้ำท่วมขนส่งเชียงใหม่กระทบผู้โดยสาร เปิดจุดจอดรับ-ส่งชั่วคราว

น้ำขยายวงกว้างเข้าท่วมสถานีขนส่งเชียงใหม่แห่งที่ 2 และ 3 เต็มพื้นที่ ระดับน้ำสูงเกือบ 50 ซม. ผู้ประกอบการขนส่งต้องนำรถทัวร์โดยสารออกมาจอดรับ-ส่งบนถนนซุปเปอร์ไฮเวย์ ยืนยันผู้ประกอบการยังให้บริการตามปกติ

ระทึก! แท็กซี่พลิกคว่ำเกิดเพลิงไหม้ 5 ชีวิตรอดหวุดหวิด

รถแท็กซี่พลิกคว่ำและเกิดเพลิงลุกไหม้กลางถนนพระราม 9 ผู้โดยสารหญิงสติดีถีบประตูช่วยตัวเองและคนอื่นออกมาจากตัวรถรวม 5 ชีวิตได้ทัน แต่ในจำนวนนี้บาดเจ็บสาหัส 1 คน เป็นคนขับแท็กซี่ ตำรวจเร่งสอบสวนหาสาเหตุ

ข่าวแนะนำ

กต.ย้ำมีแผนพร้อมอพยพคนไทยในอิสราเอล-เลบานอน

กต.ประชุมประเมินสถานการณ์อิสราเอล-ฮิซบอลเลาะห์ในเลบานอน ย้ำมีแผนอพยพพร้อม เผย 5 แรงงานไทยเตรียมเดินทางกลับ แนะประชาชนตัดสินใจก่อนน่านฟ้าปิด

เตรียมตั้ง 7 เตาไฟฟ้า พิธีพระราชทานเพลิงศพ นร.-ครู 23 คน

เตรียมพื้นที่ตั้ง 7 เตาไฟฟ้า กลางสนามโรงเรียนวัดเขาพระยาสังฆาราม จ.อุทัยธานี ในพิธีพระราชทานเพลิงศพ นักเรียน-ครู 23 คน เหยื่อไฟไหม้รถบัสทัศนศึกษา วันที่ 8 ต.ค.นี้

เชียงใหม่ยังอ่วม เจอน้ำท่วมครั้งประวัติศาสตร์

แม้ระดับน้ำปิงที่ทะลักท่วมตัวเมืองเชียงใหม่เริ่มลดลง จากที่เคยขึ้นสูงสุดถึง 5.30 เมตร ซึ่งถือว่าสูงที่สุดเท่าที่เคยวัดระดับมา จนทำให้เชียงใหม่เผชิญกับน้ำท่วมครั้งใหญ่สุดเป็นประวัติการณ์ บ้านเรือนหลายพันหลังและย่านการค้ายังจมน้ำ บางจุดยังท่วมสูงกว่า 2 เมตร ยังต้องเร่งอพยพผู้คนออกจากพื้นที่น้ำท่วม หลายคนต้องใช้ชีวิตอยู่ในรถที่จอดบนสะพาน

ภาคกลางเริ่มกระทบ น้ำเจ้าพระยาเอ่อท่วมบ้านประชาชน

น้ำเจ้าพระยาล้นข้ามถนนเข้าท่วมบ้านกว่า 30 หลังคาเรือน ต.ชีน้ำร้าย อ.อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี ส่วนชุมชุนริมท่าน้ำปากเกร็ด เริ่มกระทบ