พปชร.เตรียมปราศรัย ขอคะแนนชาวนา จ.ชัยนาท 21 ก.พ.นี้

พรรคพลังประชารัฐ 20 ก.พ.-พปชร.เตรียมปราศรัยใหญ่ จ.ชัยนาท ในวันพรุ่งนี้ (21 ก.พ.) อ้อนหาเสียงพี่น้องชาวนา ยันนโยบายไม่ขายฝัน ทำได้จริง


นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เปิดเผยว่า บ่ายวันพรุ่งนี้ (21 ก.พ.) พรรคพลังประชารัฐ โดยแกนนำพรรค จะเดินทางไป จ.ชัยนาท นำโดย นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรค นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รองหัวหน้าพรรค นายอนุชา นาคาศัย กรรมการบริหารพรรคและประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้งภาคกลาง น.ส.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ นายอิทธิพล คุณปลื้ม นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ กรรมการบริหารพรรค และตน พร้อมด้วย นายสมศักดิ์ เทพสุทิน ประธานคณะทำงานเฉพาะกิจรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้งภาคอีสาน นางจุรีพร สินธุไพร ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ เพื่อไปพบปะชาวนาในพื้นที่ภาคกลาง อาทิ ชัยนาท นครสวรรค์ พิจิตร พิษณุโลก กำแพงเพชร และสุโขทัย เพื่อแลกเปลี่ยนความเห็นเรื่องนโยบายพืชผลทางการเกษตร โดยเฉพาะราคาข้าว

“พรรคจะจัดเวทีแลกเปลี่ยนเรื่องข้าวได้ราคา ชาวนาได้เงินเพิ่ม เพื่อรับฟังปัญหาจากชาวนาอย่างถึงแก่น และพรรคจะนำนโยบาย 777 ผ่าน 3 พันธกิจไปนำเสนอต่อพี่น้องชาวนาภาคกลาง ซึ่งเป็นแกนสำคัญของประเทศ ไม่ว่าจะเป็นโครงการพักหนี้กองทุนหมู่บ้าน 3 ปี , ดูแลราคาสินค้าเกษตรที่ตกต่ำ เช่น เพิ่มค่าชดเชยเกี่ยวข้าว จากเดิม 12 ไร่เป็น 20 ไร่ และเพิ่มค่าชะลอการขายข้าว จากไร่ละ 1,500 บาทเป็น 2,000 บาท , เปลี่ยนที่ดิน ส.ป.ก.4-01 เป็น ส.ป.ก. 4.0 ให้โอนสิทธิ์เข้ามาทำประโยชน์ที่สร้างมูลค่าให้กับประเทศแทนเจ้าของสิทธิเดิมได้” นายสนธิรัตน์ กล่าว


นายสนธิรัตน์ กล่าวอีกว่า วันนี้ราคาข้าวเปลือกเจ้า ตันละ 18,000 บาท ส่วนข้าวหอม มีราคาสูงขึ้น เป็นผลมาจาการทำงานหนักของพวกตน  4 อดีตรัฐมนตรีที่อยู่ในรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นเครื่องยืนยันว่านโยบายของพรรค ไม่ใช่เรื่องเพ้อฝัน แต่เป็นนโยบายที่กินได้ มีผลงาน และทำได้จริง ช่วยให้เกษตรกรทุกคนปากท้องอิ่ม ลืมตาอ้าปากได้ และมีรายได้อย่างยั่งยืน

นายสนธิรัตน์ กล่าวด้วยว่า จากนั้นในช่วงเย็นวันที่  21 กุมภาพันธ์ พรรคจะเปิดปราศรัยใหญ่ ณ สนามกีฬาเขาพลอง จ.ชัยนาท โดยนายอุตตม และขุนพลชุดใหญ่ของพรรค และเปิดตัวผู้สมัคร ส.ส.ชัยนาท ทั้ง 2 เขต คือ นายอนุชา นาคาศัย เขต 1 และนายมณเฑียร สงฆ์ประชา เขต 2 ขอเชิญชวนชาวชัยนาทและใกล้เคียงมาร่วมฟังการปราศรัยของพรรคเพื่อร่วมกันสานพลังประชาราษฎร์ ร่วมสร้างชาติให้ยั่งยืนไปด้วยกัน.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เพลิงไหม้ห้องพักคอนโดฯ หรูกลางเมืองพัทยา

เพลิงไหม้คอนโดมิเนียมหรูกลางเมืองพัทยา จ.ชลบุรี เจ้าหน้าที่ระดมรถน้ำควบคุมเพลิงได้ทัน ทำให้ไฟไม่ลุกลามห้องข้างเคียง

จับ “ใบเฟิร์น” อินฟลูฯสาวชื่อดัง โพสต์ชวนเล่นพนันออนไลน์

ตำรวจไซเบอร์ รวบ “ใบเฟิร์น กุลธาดา” อินฟลูฯ สาวแนวเซ็กซี่ ผู้ติดตามหลักล้าน แปะลิงก์เว็บพนันออนไลน์ เจ้าตัวยอมรับ ทำมาแล้ว 2-3 เดือน

ลิงลพบุรีแหกกรง กว่า 200 ตัว จ่าฝูงนำทีมบุกโรงพัก

ลิงลพบุรีกรงแตก เพ่นพ่านกว่า 200 ตัว จ่าฝูงนำทีมบุกโรงพักท่าหิน ตำรวจปิดประตูหน้าต่างวุ่น ล่าสุดกลับมากินอาหารในกรงแล้วกว่า 100 ตัว กรมอุทยานฯ เร่งลุยจับ คาดใช้เวลา 2-3 วัน

ข่าวแนะนำ

คุมตัวสาวใหญ่โหดฆ่าตัดนิ้วชิงทรัพย์ทำแผนฯ

ตร. คุมตัวสาวใหญ่โหด ลวงเพื่อนฆ่าตัดนิ้วชิงทรัพย์ ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ เจ้าตัวสำนึกผิด ฝากขอโทษญาติผู้เสียชีวิต ยอมรับทำเพราะติดหนี้พนันออนไลน์

Drone video captures severe flooding caused by super typhoon Man-Yi in the Philippines

ฟิลิปปินส์น้ำท่วมหนัก หลังไต้ฝุ่น “หม่านหยี่” ถล่ม

มะนิลา 18 พ.ย. – ฟิลิปปินส์เกิดน้ำท่วมรุนแรงในหลายพื้นที่ หลังจากซูเปอร์ไต้ฝุ่นหม่านหยี่ (Man-yi) พัดถล่มเกาะลูซอน ช่วงสุดสัปดาห์ เป็นไต้ฝุ่นลูกที่ 6 ในรอบ 1 เดือน ไต้ฝุ่นขึ้นฝั่งด้วยความเร็วลมสูงสุด 240 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทำให้เกิดคลื่นสูง 7 เมตรบริเวณริมชายฝั่ง ส่งผลกระทบประชากรกว่า 760,000 คน และทำให้เกิดน้ำท่วมรุนแรงในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะที่จังหวัดนูเอวาเอซีฮา ทางตอนกลางของเกาะลูซอน ที่มีน้ำท่วมสูงเฉลี่ยเกือบ 1 เมตร นอกจากนี้ยังทำให้เกิดดินถล่มและสาธารณูปโภคพังเสียหายมากมาย ประชาชนมากกว่า 1 ล้านคนต้องอพยพไปอาศัยอยู่ในศูนย์พักพิงชั่วคราว ขณะนี้ยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ พายุหม่านหยี่เป็นพายุไต้ฝุ่นลูกที่ 6 ที่พัดถล่มฟิลิปปินส์ในช่วง 1 เดือน ทั่วทั้งประเทศต้องตื่นตัวเพื่อรับมือภัยพิบัติด้วยมาตรการต่าง ๆ.-812(814).-สำนักข่าวไทย

ฆ่าตัดนิ้ว

เปิดปากสารภาพฆ่าตัดนิ้วแม่ยายอัยการ ชิงทรัพย์ล้างหนี้พนัน

หญิงวัย 56 ปี เปิดปากสารภาพฆ่าตัดนิ้วชิงทรัพย์แม่ยายอัยการ ก่อนนำทรัพย์สินไปขายใช้หนี้พนัน ตำรวจคุมตัวไปตามหาทรัพย์สินของกลาง อ้างลงมือก่อเหตุคนเดียว