ขึ้นภาษีความหวาน ช่วยปรับพฤติกรรมคนไทยบริโภคน้ำตาล

สธ.18 ก.พ.-อธิบดีกรมอนามัยชี้ภาษีความหวานมีส่วนช่วยปรับพฤติกรรมบริโภคน้ำตาลในคนไทย โดยแต่ละวันไม่ควรเกิน 50 กรัม แต่ห่วงพฤติกรรมบริโภคคนไทยเปลี่ยน ติด กาแฟ ชา มากขึ้น 


พญ.พรรณพิมล วิปุลากร อธิบดีกรมอนามัย  กล่าวถึงมติคณะรัฐมนตรี(ครม.)เก็บภาษีความหวานเพิ่ม ว่า แนวคิดการเก็บภาษีน้ำตาล มีมานานเกือบ 8 ปี แต่เพิ่งสำเร็จเมื่อปีที่แล้ว โดยการเก็บภาษีความหวานนี้ มุ่งในผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มแบบบรรจุขวดและเครื่องดื่มแบบพร้อมดื่ม แบบทรีอินวัน หากมีปริมาณน้ำตาลสูงเกินก็จะเก็บปริมาณภาษีเพิ่มขึ้น  ปัจจุบันคนไทย บริโภคน้ำตาลอยู่ที่ 100 กรัม ต่อวัน แต่ปริมาณน้ำตาลที่เหมาะสม ควรเแก่การบริโภคไม่ควรเกิน  50 กรัม     


พญ.พรรณพิมล กล่าวต่อไปว่า การบริโภคน้ำตาลในปริมาณมาก ทำให้ระบบเผาผลาญหรือขจัดน้ำตาลในร่างกายเสียสมดุล และเกิดโรค เบาหวาน ปัจจุบันมีผู้เบาหวานโรคเบาหวานแล้ว 5 ล้านคน ขณะเดียวกันความชุกโรคก็มากขึ้น ร้อยละ 8.9 ดังนั้นหากมีระดับน้ำตาลเกินร้อยละ 10 ต้องมีการปรับเพิ่มความภาษีเพื่อควบคุม  โดยเป้าหมายของการควบคุมน้ำตาล มุ่งหวังต่อไปต้องไม่เกินร้อยละ 6  เพื่อไม่เกิดอันตรายกับสุขภาพ 


พญ.พรรณพิมล กล่าวด้วยว่า การบริโภคน้ำตาลที่เหมาะสมในคนไทยควรไม่เกินวันละ 25 กรัมต่อวัน เพราะในแต่ละวันคนเราสามารถได้รับน้ำตาลจากอาหารและผลไม้อยู่แล้ว การบริโภคหวานของคนไทย จะแก้ไขได้ด้วยการปรับเปลี่ยนตั้งแต่ต้นทางและพยายามควบคุมตัวเอง พยายามรับประทานความหวานให้น้อย เพียงแค่ 3เดือน การติดรสชาติหวานก็จะค่อยๆลดลง และชินรสไม่ติดรสหวานอีก 

พญ.พรรณพิมล กล่าวอีกว่า สิ่งที่น่าเป็นห่วงขณะนี้คือพฤติกรรมการรับ ประทานหวานของคนไทยเปลี่ยนไป จากเดิมเครื่องดื่มบรรจุขวดเป็นการ บริโภคน้ำชง เพียงไม่กี่ปี พบคนไทยติดน้ำตาล จากชาและกาแฟกันมาก  ความหวานจากเครื่องดื่มนี้แก้ได้ ด้วยการฝึกปฏิเสธความหวาน เปลี่ยนให้เป็นเครื่องดื่มชงใหม่ พูดให้ชินว่า หวานน้อย แค่ร้อยละ 10 ก็พอ 

 

พญ.พรรณพิมล กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง  4 อันดับในปี 2558 ได้แก่ 1.หลอดเลือด 40 ต่อแสนประชาชน ,2 หัวใจขาดเลือด 27 ต่อแสนประชากร 3.เบาหวาน 17 ต่อแสนประชากร และ  4.ทางเดินหายใจอุดกั้น 4.5 ต่อแสนประชากร  .-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง