กรุงเทพฯ 31 ส.ค. – อุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทรายประเมินการจัดเก็บภาษีค่าความหวาน 16 ก.ย. เชื่อส่งผลกระทบต่อภาพรวมปริมาณความต้องการใช้ในภาคอุตสาหกรรมเครื่องดื่มไม่มาก แนะรัฐเพิ่มความเข้มข้นให้ความรู้ด้านการบริโภคช่วยแก้ปัญหาระยะยาว
นายสิริวุทธิ์ เสียมภักดี ประธานคณะทำงานด้านประชาสัมพันธ์และสันทนาการ 3 สมาคมโรงงานน้ำตาลทราย เปิดเผยว่า หลังจากหน่วยงานภาครัฐจะเริ่มบังคับใช้กฎหมายจัดเก็บภาษีค่าความหวานของเครื่องดื่มตั้งแต่วันที่ 16 กันยายนนี้ โดยให้เวลาภาคเอกชนในอุตสาหกรรมเครื่องดื่มปรับตัวเป็นระยะเวลา 2 ปี ก่อนจะเริ่มเก็บจริงในวันที่ 1 ตุลาคม 2562
ทั้งนี้ อุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทรายประเมินว่าจากการจัดเก็บภาษีค่าความหวานดังกล่าวจะมีผลกระทบต่อปริมาณความต้องการใช้น้ำตาลทรายในภาคการผลิตของกลุ่มอุตสาหกรรมเครื่องดื่มไม่มาก อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการโรงงานน้ำตาลทรายมีความกังวลว่าการจัดเก็บภาษีค่าความหวานในกลุ่มเครื่องดื่มครั้งนี้อาจส่งผลต่อความเข้าใจในการบริโภคที่คลาดเคลื่อน โดยกังวลว่าการบริโภคเครื่องดื่มที่มีส่วนประกอบของน้ำตาลทรายจะเป็นพิษต่อร่างกายและเป็นต้นเหตุทำให้เกิดโรคต่าง ๆ ส่งผลต่อพฤติกรรมการบริโภคน้ำตาลทรายลดลง ซึ่งอาจทำให้การบริโภคอาหารไม่สมดุลกับความต้องการของร่างกาย เนื่องจากแต่ละวันร่างกายก็มีความต้องการสารอาหารเพื่อเปลี่ยนเป็นพลังงานที่ใช้ในดำเนินกิจกรรมในแต่ละวันเช่นกัน
ดังนั้น ในช่วงเวลาที่เปิดโอกาสให้เอกชนปรับตัว 2 ปี ก่อนดำเนินการจัดเก็บภาษีจริงนั้น ภาครัฐและเอกชนต้องเร่งสื่อสารสร้างความเข้าใจในการบริโภคน้ำตาลที่เหมาะสมต่อร่างกายของแต่ละคน เพื่อเป็นข้อมูลให้แก่ผู้บริโภคได้ตัดสินใจในการเลือกบริโภคน้ำตาลที่เพียงพอต่อร่างกายควบคู่ไปกับการรณรงค์ให้ออกกำลังกาย ซึ่งจะได้ผลที่ดีและสร้างความยั่งยืนในการแก้ไขปัญหาด้านสุขภาพของผู้บริโภคได้ดีกว่า ซึ่งล่าสุดกลุ่มอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทรายอยู่ระหว่างการจัดทำโครงการ ‘หวานพอดี ชีวีมีสุข’ เพื่อรณรงค์สร้างความเข้าใจเกี่ยวกับการบริโภคน้ำตาลทรายที่สมดุล และเป็นประโยชน์ต่อร่างกาย คาดว่าจะสามารถเริ่มดำเนินโครงการได้ในเร็ว ๆ นี้.-สำนักข่าวไทย