อาคารไทยซัมมิททาวเวอร์ 8 ก.พ.-พรรคอนาคตใหม่แถลงการณ์ เรียกร้อง นายกรัฐมนตรี ลาออกจากตำแหน่ง เหตุมีผลประโยชน์ทับซ้อน
นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ และนายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรค พร้อมด้วยแกนนำพรรค ร่วมแถลงจุดยืนของพรรคอนาคตใหม่ จากกรณีแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคพลังประชารัฐและพรรคไทยรักษาชาติ ณ ที่ทำการพรรคอนาคตใหม่ ชั้น 7 อาคารไทยซัมมิททาวเวอร์
นายธนาธร กล่าวว่า พรรคได้ประชุมกันเพื่อหาทางเลือกในการแถลงจุดยืนที่ดีที่สุดแล้วในวันนี้ ด้านนายปิยบุตร อ่านแถลงการณ์ว่า เรียกร้องให้พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ลาออกจากตำแหน่ง ด้วยเหตุผลการดำรงตำแหน่งทั้งสองตำแหน่งไม่สามารถเทียบได้กับบรรทัดฐานสากล เนื่องจากรัฐธรรมนูญฉบับ คสช. ยังคงให้มีอำนาจเต็ม และใช้ ม.44 ไม่ใช่รัฐบาลเฉพาะกาลที่มีอำนาจจำกัด นอกจากนี้หัวหน้า คสช. ยังมีอำนาจต่อรัฐสภา แต่งตั้ง ส.ว. ที่ส่งผลต่อการลงคะแนนเลือกนายกรัฐมนตรี ในรัฐสภาหลังการเลือกตั้ง จึงมองว่า พลเอกประยุทธ์ มีผลประโยชน์ทับซ้อน ทำให้การเลือกตั้งไม่สามารถดำเนินไปได้อย่างเสรีและเป็นธรรม
2. พรรคอนาคตใหม่ ยืนยันเสนอชื่อ นายธนาธร หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ เป็นบัญชีรายชื่ออันดับที่ 1 ของพรรคเพื่อเป็นนายกรัฐมนตรี เพื่อหยุดการสืบทอดอำนาจ คสช., แก้รัฐธรรมนูญปี 2560, ลบล้างผลพวงจากอำนาจรัฐประหาร และพรรคอนาคตใหม่เชื่อว่าการเปลี่ยนผ่านไปสู่ระบอบประชาธิปไตย และบรรลุข้อเสนอทั้ง 3 ข้อ จะเป็นไปได้โดยแนวทางที่มั่นคงในหลักการประชาธิปไตยที่ประชาชนต้องถูกรวมเข้าไปในกระบวนการตัดสินใจทางการเมือง, ผลประโยชน์ของประชาชนจะต้องไม่ถูกลืมและสิทธิเสรีภาพของประชาชนต้องได้รับการค้ำประกัน ซึ่งจากประสบการณ์ที่ผ่านมา พิสูจน์แล้วว่าการตกลงรอมชอมกันเองระหว่างชนชั้นนำ ไม่สามารถแก้ไขปัญหาทางการเมืองได้
3. ผลพวงของการทำรัฐประหารเป็นการ ปูทางไปสู่การ สืบทอดอำนาจของคณะของคณะรัฐประหารผ่านรัฐธรรมนูญปี 2560 ที่เปิดช่องให้พรรคการเมือง สามารถเสนอชื่อบุคคลที่ไม่ได้เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นนายกรัฐมนตรีได้ พรรคอนาคตใหม่เห็นว่าพรรคการเมืองที่ยืนหยัดกับหลักการประชาธิปไตยจะต้องยึดถือหลักการนายกรัฐมนตรีต้องเป็น ส.ส.
4. การเลือกตั้งครั้งนี้จะต้องดำเนินไปอย่างเสรี เป็นธรรมและแข่งขันกันอย่างเสมอภาคเท่าเทียม ทั้งบุคคล สื่อมวลชน ผู้สมัครการเลือกตั้งและพรรคการเมืองทุกพรรค ต้องมีเสรีภาพในการแสดงออก ซึ่งความคิดเห็นอย่างเต็มที่ โดยไม่ต้องเผชิญกับอุปสรรคขัดขวางในทางกฎหมายและในทางประเพณี ค่านิยม เพื่อให้การเลือกตั้งครั้งนี้ เป็นกระบวนการสำคัญในการเปลี่ยนผ่านไปสู่ประชาธิปไตย
5. พรรคอนาคตใหม่ มีความพร้อมกับการเลือกตั้งวันที่ 24 มีนาคม 2562 ทั้งในด้านบุคคลที่เหมาะสมเป็นนายกรัฐมนตรี, บุคคลที่เหมาะสมเป็นรัฐมนตรีผู้สมัคร ส.ส. ตลอดจนนโยบายของพรรค ที่มุ่งแก้ปัญหาโครงสร้างทั้งระบบ เรายืนยันว่า หากพรรคอนาคตใหม่ได้เสียงข้างมากเพียงพอ พร้อมจะเป็นรัฐบาล และนายธนาธร ก็พร้อมเป็นนายกรัฐมนตรี แต่หากเกิดกรณีจัดตั้งรัฐบาลแห่งชาติที่รวบรวมทุกพรรคการเมืองเข้าด้วยกันพรรคอนาคตใหม่ก็พร้อมเป็นฝ่ายค้านไม่ใช่เพียงเพราะว่ารัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา 106 บังคับให้ต้องมีผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎรเท่านั้น แต่ประชาธิปไตยในระบบรัฐสภา จำเป็นต้องมีฝ่ายค้านที่คอยตรวจสอบการใช้อำนาจของรัฐบาลด้วย
จากนั้นเป็นช่วงตอบคำถามของสื่อมวลชน เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีหากเสียงทั้งสองฝ่ายสูสีกัน พรรคอนาคตใหม่ต้องเลือกระหว่างพรรคไทยรักษาชาติ และพรรคพลังประชารัฐ จะร่วมงานกับพรรคใด นายปิยบุตร กล่าวว่า พรรคขอยืนยันในจุดยืนทั้ง 3 ข้อ ที่จะเป็นปัจจัยหลักในการจะร่วมรัฐบาลกับพรรคใดในอนาคต
“หลักการคือยุติการสืบทอดอำนาจ คสช.และการแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ ลบล้างผลพวงรัฐประหาร หลักการนี้อยู่ในแถลงการณ์จะเป็นการตัดสินใจในอนาคต โดยยึดหลัก จาก 3 ข้อนี้ และเรายังมั่นใจว่าเราจะได้เสียงในสภามากเพียงพอ” นายปิยบุตร กล่าว
เมื่อถามถึงการเสนอชื่อแคนดิเดตของพรรคไทยรักษาชาติ จะแสดงถึงมีความไม่เสมอภาคในการแข่งขันหรือไม่ นายปิยบุตร กล่าวย้ำว่า ได้ยืนยันในแถลงการณ์ไปแล้วว่าการแข่งขันต้องเท่าเทียม เสรีและเสมอภาค บุคคลที่เข้าสู่แวดวงทางการเมือง ก็จะถูกอภิปราย มีการโต้เถียงโต้แย้งและถกเถียงกันได้ในสภาตามระบอบประชาธิปไตย ซึ่งถือเป็นเรื่องที่น่ายินดี ที่ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนฯ เขียนในไอจี ว่า ไม่นิยมชมชอบระบบอภิสิทธิ์ ซึ่งถือว่าเป็นการแสดงให้เห็นว่าจะเป็นการแข่งขันที่เสรีและเป็นธรรม ทุกคนต้องถูกวิพากษ์วิจารณ์ เมื่อเข้าสู่การแข่งขันที่เป็นระบอบประชาธิปไตย เมื่อถามว่าสามารถร่วมงานกับพรรคประชาธิปัตย์หรือไม่ นายปิยบุตร กล่าวอย่ากังวลในส่วนของพรรค แต่มองว่าพรรคประชาธิปัตย์จะสามารถร่วมงานกับพรรคอนาคตใหม่ได้หรือไม่
เมื่อถามว่าจะสามารถร่วมงานกับพรรคที่มีการเสนอคนนอกมาเป็นนายกรัฐมนตรีได้หรือไม่ นายปิยบุตร กล่าวว่า พรรคอนาคตใหม่ จะยืนอยู่บนหลักทั้ง 3 ข้อ มั่นใจจะได้เสียงในสภา และเสนอหัวหน้าพรรคเป็นนายกรัฐมนตรี พร้อมยืนยันว่านายกรัฐมนตรีจะต้องเป็นส.ส.
เมื่อถามว่ากรณีแคนดิเดตไทยรักษาชาติ เสนอนายกรัฐมนตรีคนนอก จะสามารถร่วมงานกันได้หรือไม่ นายปิยบุตร กล่าวว่าคำตอบของคำถามนี้ง่ายมาก คือเลือกพรรคอนาคตใหม่
เมื่อถามว่ามองอย่างไรที่ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนฯ ตอบรับการเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรี ถือเป็นประวัติศาสตร์หน้าใหม่หรือไม่ นายธนาธร กล่าวว่า สิ่งที่เกิดขึ้นในเช้าวันนี้ คือการเซตซีโร่ และการแบ่งสีเสื้อในอดีต ไม่สามารถอธิบายถึงความขัดแย้งได้อีกต่อไปแล้ว
การเซตซีโร่ คือ การเปิดโอกาสให้ประชาชนได้เลือกการเมืองใหม่ๆ ส่วนการเซตซีโร่จะนำไปสู่การปรองดองได้หรือไม่นั้น ตนไม่เชื่อว่า ประชาธิปไตย จะสามารถสร้างได้โดยการพูดคุยเจรจาต่อรองกันระหว่างชนชั้นนำ แต่เชื่อว่าประชาธิปไตยที่เข้มแข็งและยังยืนต้องมีประชาชนเข้ามามีส่วนร่วม ร่วมกันออกแบบ จะสามารถหาทางออกให้กับประเทศไทยได้
นายธนาธร ยังกล่าวยืนยันว่า ตนไม่ทราบว่า จณะนี้มีการต่อรองเรื่องผลประโยชน์กันระหว่างกลุ่มคนชั้นนำหรือไม่ แต่พรรคยืนยันว่าไม่เคยมีการเจรจาต่อรองใดๆ กับพลเอกประยุทธ์ นายทักษิณ คุณหญิงสุดารัตน์ และนายสุริยะ แต่อย่างใด ส่วนคนอื่นตนไม่สามารถรู้ได้ว่ามีการหารือกันหรือไม่ เมื่อถามถึงการหาเสียงหลังจากนี้ นายปิยะบุตร กล่าวเสริมว่า พรรคได้แถลงจุดยืนไปแล้ว มองว่า แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ควรเสมอภาคกัน ทั้งต่อหน้ากฎหมาย ควรเสมอภาคกันต่อประชาชน และขอให้มองแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ให้เป็นเรื่องปกติ ที่ทุกคนต้องอยู่ภายใต้กฎกติกาเดียวกันในการเลือกตั้ง ซึ่งเชื่อว่าการเลือกตั้งครั้งนี้จะทำให้ประเทศเข้าสู่ระบอบประชาธิปไตย ในสภาวะปกติ
ทั้งนี้มองว่าทุกคนไม่ควรพูดถึงเรื่องการจัดตั้งรัฐบาลในตอนนี้ เพราะจะเป็นการดูถูกประชาชน ขอให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสินใจ และในส่วนของพรรคมั่นใจว่าจะได้เสียงสามารถจัดตั้งรัฐบาลได้.-สำนักข่าวไทย