กรุงเทพฯ 8 ก.พ. – คณะอนุกรรมการกลั่นกรองนำเรือประมงออกนอกระบบมีมติเร่งจ่ายเรือประมงขาว-แดง กลุ่มแรก 305 ลำ ไม่เกินร้อยละ 50 ของมูลค่าเรือ
นายอดิศร พร้อมเทพ อธิบดีกรมประมง เลขานุการคณะอนุกรรมการกลั่นกรองนำเรือประมงออกนอกระบบ แถลงภายหลังประชุม ว่า ที่ประชุมมีมติจ่ายชดเชยชาวประมงที่ได้รับผลกระทบจากภาครัฐ หรือกลุ่มเรือขาว-แดง 305 ลำ ซึ่งกรมประมงจะเร่งทำเอกสารต่าง ๆ สรุปนำเสนอคณะกรรมการขับเคลื่อนและปฏิรูปการบริหารราชการแผ่นดิน คณะที่ 5 เพื่อให้ ครม.พิจารณาอนุมัติงบประมาณต่อไป โดยการจ่ายค่าชดเชยคณะทำงานตรวจสอบทั้งรายละเอียดด้านกฎหมาย โดยเป็นทั้งเจ้าของเรือและเรือไม่เคยต้องคดีใด ๆ และมีคณะทำงานประเมินมูลค่าเรือ ซึ่งกำหนดจะจ่ายไม่เกินร้อยละ 50 ของมูลค่าเรือ ซึ่งจะใช้ภาพถ่ายปี 2558 เป็นหลักฐานในการประเมินมูลค่าตามสภาพ โดยกรมประมงจะเร่งกำหนดขั้นตอนและระยะเวลาที่ต้องทำจากนี้ไป ได้แก่ การให้เจ้าของเรือมาทำสัญญารับค่าชดเชย จากนั้นจะโอนเงินงวดแรกร้อยละ 30 เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับการทำลายเรือ ซึ่งทั้งเครื่องยนต์และไม้ที่เป็นโครงเรือนั้นเป็นสิทธิ์ของเจ้าของเรือ เมื่อทำลายเรือทิ้งแล้ว จึงจะได้รับค่าชดเชยส่วนที่เหลือร้อยละ 70
นายอดิศร กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับเรือกลุ่มขาว-แดงที่เป็นเรือเหล็ก ซึ่งชุดแรกมี 22 ลำ และชุดที่ 2 มี 64 ลำ คณะทำงานฯ จะเร่งกำหนดอัตราชดเชยที่เป็นธรรมแก่เจ้าของเรือ ซึ่งสาเหตุที่ล่าช้า พราะการทำลายเรือเหล็กยุ่งยากกว่าเรือไม้มาก เช่น ขั้นตอนการนำเครื่องยนต์ออกต้องตัดออก ค่าใช้จ่ายในการทำลายสูง จึงต้องทบทวนให้รอบคอบ
ส่วนเรือกลุ่มที่ยังมีใบอนุญาตทำประมง แต่ประสงค์จะเลิกประกอบอาชีพประมง แล้วแจ้งความจำนงมายังคณะอนุกรรมการฯ เพื่อขอรับค่าชดเชยด้วยนั้น มี 2,312 ลำ ซึ่งจะต้องแบ่งกลุ่มตามรายละเอียดทางกฏหมายเป็นขาว เทา และดำเช่นเดียวกับเรือกลุ่มแรก แล้วจึงนำมาจัดลำดับความเร่งด่วนในการช่วยเหลือเป็นระยะ ๆ ไป
ทางด้านนายสุรเดช นิลอุบล นายกสมาคมประมงสงขลา กล่าวว่า ในฐานะผู้แทนของชาวประมงกลุ่มเรือขาว-แดงพึงพอใจในมติของคณะอนุกรรมการฯ ที่เร่งดำเนินการจ่ายค่าชดเชย เพื่อช่วยเหลือ หลังจากไม่สามารถประกอบอาชีพได้มานาน ยอมรับเงื่อนไขการจ่ายค่าชดเชยในอัตราไม่เกินร้อยละ 50 ได้ นอกจากนี้สมาคมประมงท้องถิ่นใน 22 จังหวัดชายทะเลยังพร้อมร่วมมือกับภาครัฐในการประสานงานกับชาวประมงเพื่อให้กระบวนการต่าง ๆ เร็วขึ้น ได้แก่ เมื่อรับค่าชดเชยงวดแรกแล้ว หากชาวประมงทำลายเรือโดยเร็ว จะเข้าไปร่วมตรวจสอบเพื่อยืนยันต่อภาครัฐว่าได้ทำตามสัญญาแล้ว ซึ่งเชื่อว่าจะทำให้ได้รับค่าชดเชยงวดที่ 2 เร็วขึ้น ทั้งนี้ หากกระบวนการจากนี้ไปเป็นไปตามที่คณะอนุกรรมการฯ มีมติชาวประมงกลุ่มขาว-แดงก็จะไม่เคลื่อนไหวกดดันภาครัฐและพร้อมร่วมมือทุกด้าน.-สำนักข่าวไทย