คนไทยใช้จ่าย “วาเลนไทน์” มากกว่า “มาฆบูชา”

กทม. 6 ก.พ.- หลังจากผ่านช่วงเทศกาลตรุษจีนไปแล้วในเดือนนี้ยังมีเทศกาลที่สำคัญอีก 2 เทศกาล คือ วันที่ 14 วันวาเลนไทน์และ วันที่ 19 วันมาฆบูชา เรียกได้ว่า เดือนนี้ ดอกไม้ขายดี ใช้ได้ทั้งสองเทศกาลเลยทีเดียวเป็นผลดีต่อเกษตรกร


วันนี้ทางศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ได้แถลงผลสำรวจการใช้จ่ายทั้ง 2 เทศกาลนี้ โดยไปสำรวจทั่วประเทศ 1,200 ตัวอย่าง ระหว่างวันที่ 28 มกราคม ถึง 3 กุมภาพันธ์ ลองไปดูจากผลสำรวจแล้วคุณผู้ชมลองคิดว่า ตรงกับความเห็นของท่านหรือไม่ ผลสำรวจ ส่วนใหญ่จะใช้จ่ายในเทศกาลวาเลนไทน์มากกว่า มาฆบูชา ถึงเกือบร้อยละ 54 มีเพียงร้อยละ 23.8 ที่พบว่าจะใช้จ่ายช่วงมาฆบูชามากกว่า วาเลนไทน์  คาดว่ามูลค่าเงินสะพัดช่วงมาฆบูชาจะอยู่ที่ 2,667 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 3.12 ค่าใช้จ่ายเฉลี่ยต่อคน 1,642 บาท ส่วนเงินสะพัดหมุนเวียนวาเลนไทน์จะอยู่ที่ประมาณ 3,700  ล้านบาท ลดลงร้อยละ 3.17 ต่ำสุดในรอบ 3 ปี มีค่าใช้จ่ายเฉลี่ยต่อคน 2,318 บาท ซึ่งการใข้จ่ายที่ลดลงก็เนื่องจากผู้ให้ความคิดเห็นมองว่า เศรษฐกิจไม่ดี สินค้ามีราคาสูงขึ้น ทำให้ระวังการจับจ่ายใช้สอย นอกจากนี้จากสังคมปรับเข้าสู่ยุคดิจิทัล ทำให้มีการแสดงความรักผ่านช่องทางออนไลน์มากขึ้น การใช้จ่ายช่วงวาเลนไทน์ที่ลดลง ก็อาจจะมีจากผลสำรวจมีความคาดหวังจากคู่รักวาเลนไทน์ว่า ไม่ต้องทำอะไรแค่บอกรักก็พอแล้ว มีสัดส่วนถึงร้อยละ 41 อยากได้ขอขวัญแต่ร้อยละ 25 และอยากได้ดอกไม้ ร้อยละ 18 เท่านั้น อย่างไรก็ตาม ดอกไม้ที่ยังนิยมมอบให้กันในวันวาเลนไทน์ ส่วนใหญ่ยังเป็นดอกกุหลาบร้อยละ 70 ตามมาด้วยดอกทิวลิป ดอกลิลลี่ คาร์เนชั่น แต่ที่น่าแปลกใจดอกรักก็ติดอยู่ในดอกไม้ที่นิยมด้วย แต่มีสัดส่วนร้อยละ 0.7  


มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ยังสำรวจเรืองปัญหาฝุ่นพิษหากลากยาว 3 เดือน ทำให้เกิดความสูญเสียทางเศรษฐกิจสูงถึง 40,000 ล้านบาท ส่วนดัชนีเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนมกราคม นับว่าดีขึ้นครั้งแรกในรอบ 5 เดือน หลังรัฐบาลประกาศวันเลือกตั้งชัดเจน สงครามการค้าจีนกับสหรัฐมีสัญญาณดีขึ้น และคาดไตรมาสแรกเศรษฐกิจไทยโตร้อยละ 3.5 – 4

วันนี้ คณะกรรมการนโยบายการเงิน หรือ กนง. ประชุมนัดแรกของปี และมีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายตามคาด ที่ร้อยละ 1.75 ด้วยมติ 4 ต่อ 2 โดยเสียงส่วนน้อย ขอให้ขึ้นดอกเบี้ยร้อยละ 0.25 ส่วนอีก 1 คนลาประชุม , กนง.เป็นห่วงภาวะเศรษฐกิจในอนาคต โดยเฉพาะหนี้ครัวเรือนต่อจีดีพีที่ปรับตัวสูงขึ้น โดยปีที่แล้วไตรมาส 2 อยู่ที่ร้อยละ 77.7 ก็เพิ่มเป็นร้อยละ 77.8 ในไตรมาส 3 ส่วนใหญ่มาจากการเร่งตัวขึ้นของสินเชื่อรถยนต์ ส่วนค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น ล่าสุด วันนี้อยู่ที่ประมาณ 31.25 บาท/ดอลลาร์สหรัฐนั้น กนง.ได้ติดตามอย่างใกล้ชิด สาเหตุหลักมาจากเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลง เงินบาทไทยตั้งแต่สิ้นปีที่แล้ว จนถึงปัจจุบัน แข็งค่าร้อยละ 4.1 ซึ่งอยู่ในระดับกลางๆ ไม่ได้เป็นเงินสกุลที่แข็งค่าที่สุดในโลก  โดยแข็งค่าน้อยกว่าอินโดนีเซียที่ร้อยละ 4.3 ซึ่งหากผันผวนพบความผิดปกติจะเข้าไปดูแล เพราะค่าเงินบาทมีผลกระทบต่อเงินเฟ้อและภาพรวมเศรษฐกิจเช่นกัน


นอกจากนี้ กนง.ยังยืนว่าการขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเมื่อเดือนธันวาคมร้อยละ 0.25 ที่ขึ้น เป็นร้อยละ 1.75 ไม่ได้เป็นผลให้เงินทุนไหลเข้าไทย ตัวเลขเงินทุนเคลื่อนย้ายถึงวันที่ 5 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา พบว่า เงินทุนไหลออกจากตลาดพันธบัตร 12,000 ล้านบาท แต่ซื้อสุทธิหุ้นไทย 6,400 ล้านบาท รวมสุทธิมีเงินไหลออก 5,600 ล้านบาท

ด้านดัชนีหุ้นไทย วันนี้ปิดตลาดบวก 5.62 จุด ปิดที่ 1,658.71 จุดมูลค่า 38,519.92 ล้านบาท ดีดตัวขึ้นตามตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชีย โดยได้รับทิศทางเป็นบวกจากการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีน ธนาคารกลางสหรัฐชะลอปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย และมีมุมมองค่อนข้างดีต่อการแถลงนโยบายประจำปีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ 

ส่วนที่ประชุมคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน หรือ กกร.แสดงความเป็นห่วงเรื่องค่าเงินบาทที่ยังมีแนวโน้มแข็งค่า จะกระทบการส่งออกของไทยปี 2562 ซึ่ง นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ออกมาเรียกร้องให้แบงก์ชาติ หยุดการขึ้นดอกเบี้ยนโยบายตลอดปีนี้ เพราะหากขึ้นดอกเบี้ยจะทำให้เงินบาทแข็งค่ามากยิ่งขึ้น โดยหากแข็งค่าทะลุ 31 บาทต่อดอลลาร์ ขณะที่ค่าเงินประเทศอื่นยังทรงตัว ภาคเอกชนจะขอเข้าพบ แบงก์ชาติ เพื่อขอความช่วยเหลือต่อไป  โดย กกร.คาดเศรษฐกิจไทยปีนี้ขยายตัวร้อยละ 4.0-4.3 แต่ก็หวั่นสงครามการค้าจีน-สหรัฐกระทบเศรษฐกิจโลกและการส่งออกของไทย ซึ่งอาจะทำให้การส่งออกชะลอลง จากที่ ประมาณการว่าจะขยายตัวที่ร้อยละ 5-7 ส่วนเงินเฟ้อคาดขยายตัวร้อยละ 0.8-1.2.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้นบ้านสามารถ

ดีเอสไอเข้าค้นบ้าน “สามารถ” คดีฟอกเงินดิไอคอน

ดีเอสไอเข้าค้นบ้าน “สามารถ เจนชัยจิตรวนิช” คดีฟอกเงินดิไอคอน หลังพบเงิน “บอสดิไอคอน” โอนเข้าบัญชีแม่ของนายสามารถ

หมอบุญ

THG แจงบริษัทไม่เกี่ยวข้องคดีต่างๆ ที่เกิดจาก “หมอบุญ”

THG แจงตลาดหลักทรัพย์ฯ ปัจจุบัน “หมอบุญ” ไม่ได้ดำรงตำแหน่งกรรมการและผู้บริหารใน THG คดีฉ้อโกงใดๆ ที่เกิดขึ้น บริษัทไม่เกี่ยวข้อง

คะแนนไม่เป็นทางการ เลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ

ลุ้นผลคะแนนเลือกตั้งนายก อบจ.นครศรีธรรมราช นับเสร็จแล้วบางหน่วย ล่าสุด ณ เวลา 19.40 น. “วาริน ชิณวงศ์” เบอร์ 2 จากทีมนครเข้มแข็ง ชนะคู่แข่งขาดลอยในหลายหน่วย คะแนนทิ้งห่างแชมป์เก่า “กนกพร เดชเดโช” เบอร์ 1 จากพรรค ปชป.

“ทนายสายหยุด” จ่อถอนตัวคดีตั้ม หวั่นติดร่างแห

“ทนายสายหยุด” เตรียมถอนตัวเป็นทนายให้ “ตั้ม” เผยในมือมีแต่พยานเท็จ ปิดบังข้อเท็จจริง เสี่ยงเป็นผู้ร่วมกระทำผิด

ข่าวแนะนำ

วิเคราะห์การเมืองสนามใหญ่ หลังศึกเลือกตั้งนายก อบจ.

วิเคราะห์ผลการเลือกตั้งนายก อบจ. 4 สนามใหญ่ โดยเฉพาะอุดรธานี ที่สะท้อนถึงความนิยมในตัวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี

“บิ๊กเต่า” ลั่นเตรียมมอบกุญแจมือเป็นของขวัญปีใหม่ให้คนดัง ส่งนอนห้องขัง

“บิ๊กเต่า” ลั่นเตรียมมอบ “กุญแจมือ” เป็นของขวัญปีใหม่ให้อินฟลูฯ นักร้อง คนดัง ส่งนอนห้องขังวีไอพี เผยปม “ฟิล์ม รัฐภูมิ” คาดมีความชัดเจนภายในสัปดาห์นี้

หมอบุญ

THG แจงบริษัทไม่เกี่ยวข้องคดีต่างๆ ที่เกิดจาก “หมอบุญ”

THG แจงตลาดหลักทรัพย์ฯ ปัจจุบัน “หมอบุญ” ไม่ได้ดำรงตำแหน่งกรรมการและผู้บริหารใน THG คดีฉ้อโกงใดๆ ที่เกิดขึ้น บริษัทไม่เกี่ยวข้อง