สั่งแก้ปัญหาฝุ่น ดูแลบ้านเมือง สร้างความเข้าใจเลือกตั้ง

กองทัพบก 4 ก.พ.-ประชุมคสช.สั่งหนุนแก้ปัญหาฝุ่น ทำความเข้าใจประชาชนเรื่องเลือกตั้ง ดูแลบ้านเมืองให้สงบเรียบร้อย       


พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) เปิดเผยผลการประชุมสำนักเลขาธิการคสช. ที่มีพล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รองเลขาธิการคสช.เป็นประธานการประชุม ว่า ที่ประชุมกล่าวถึงข้อห่วงใยของพล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบกและเลขาธิการคสช. เรื่องปัญหาฝุ่นละอองเกินมาตรฐาน ซึ่งเกิดจากการเผาไหม้ที่ไม่สมบูรณ์ของเครื่องยนต์ดีเซล การเผาไหม้จากภาคการเกษตร และในภาคอุตสาหกรรม โดยฝากขอบคุณทุกส่วนราชการที่ร่วมกันแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองในอากาศจนสถานการณ์เริ่มบรรเทาไปในทางที่ดีขึ้น 

“ขอให้ตรวจสอบสภาพยานพาหนะของหน่วยในสังกัด โดยให้ดูแลตรวจสอบเครื่องยนต์ไม่ให้เกิดปัญหาควันดำ และขอให้กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย(กกล.รส.) และกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัด(กอ.รมน.จังหวัด) ร่วมสนับสนุนการตรวจสอบโรงงานอุตสาหกรรมที่อาจส่งผลให้มีมลพิษเกินมาตรฐาน รวมถึงสถานที่ก่อสร้างต่าง ๆ ที่อาจต้องขอความร่วมมือจากผู้ประกอบการ ให้ช่วยลดผลกระทบที่ทำให้เกิดมลภาวะทางอากาศ รวมทั้งขอความร่วมมือจากเกษตรกรให้ช่วยกันลดการเผาเศษวัชพืชในห้วงเวลานี้ ที่สภาพอากาศอาจยังคงปกคลุมด้วยฝุ่นละออง” รองโฆษกคสช. กล่าว


 พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ กล่าวว่า รองเลขาธิการคสช.กล่าวถึงเรื่องการฉีดพ่นน้ำล้างทำความสะอาดถนน การฉีดพ่นละอองน้ำบริเวณต้นไม้หรือที่สูงเพื่อช่วยบรรเทาปัญหาฝุ่นละออง โดยขอให้มุ่งเน้นเขตที่มีค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5  เกินมาตรฐานเป็นสำคัญ จึงย้ำหน่วยทหารและส่วนราชการควรปฏิบัติภารกิจในเวลาที่ไม่ส่งผลกระทบต่อการสัญจรของประชาชน เช่น ในห้วงเวลา 20.00 – 22.00 น. และ 04.00 – 06.00 น. ขณะเดียวกันสั่งการให้ส่วนงานที่เกี่ยวข้องเฝ้าระวังและตรวจสอบกรณีข่าวลวงการใช้แอพลิเคชั่นวัดค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 เกินมาตรฐาน ที่อาจนำเสนอไม่ตรงกับความเป็นจริง ซึ่งจะสร้างความตื่นตระหนกให้แก่ประชาชน

รองโฆษกคสช. กล่าวว่า สำหรับความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ รองเลขาธิการคสช. ให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานทุกฝ่าย พร้อมย้ำให้ปฏิบัติงานด้วยความระมัดระวัง เพราะปัจจุบันรูปแบบของสถานการณ์ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้มีความซับซ้อนมากขึ้น โดยขอให้กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค  4 ส่วนหน้า(กอ.รมน. ภาค 4 ส.น.) ปฏิบัติงานอย่างรอบคอบ รัดกุม เพื่อสร้างความปลอดภัยในพื้นที่ 


“ขอให้ทุกส่วนร่วมกันดูแลภาพรวมของประเทศให้มีความเรียบร้อย  ซึ่งขณะนี้อยู่ในห้วงรับสมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร(ส.ส.) และช่วงของการหาเสียง จึงขอเน้นย้ำให้เสริมสร้างความเข้าใจประชาชนเรื่องไทม์ไลน์การเลือกตั้ง ศึกษานโยบายผู้สมัครรับเลือกตั้งให้สอดคล้องกับประโยชน์ของประเทศชาติ และระมัดระวังข่าวสารทางการเมืองที่อาจมีข้อมูลไม่ตรงกับความเป็นจริง รวมทั้งย้ำให้ทุกส่วนราชการเร่งทำงานที่คั่งค้างให้สำเร็จตามโครงการต่างๆ ที่ทางภาครัฐได้มีแผนงานไว้แล้ว เพื่อให้ประชาชนได้รับประโยชน์สูงสุดในภาพรวม” รองโฆษกคสช. กล่าว.-สำนักข่าวไทย      

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สุดโหด! ไล่แทงหนุ่มดับปมขัดแย้งยาเสพติด

วงจรปิดจับภาพชัด คนร้ายวิ่งข้ามถนนไล่แทงหนุ่มเสียชีวิต ชาวบ้านแตกตื่น ขณะที่ตำรวจรวบตัวทันควัน คาดปมขัดแย้งยาเสพติด

กยศ.เปิดทางปรับลดยอดหักเงินเดือน พ.ค.-มิ.ย.68

กยศ. เปิดทางปรับลดยอดหักเงินเดือน ช่วยเหลือชั่วคราว พ.ค.-มิ.ย.68 ให้นายจ้างลดยอดการหักเงินเดือน ทำสัญญาปรับโครงสร้างหนี้ เพื่อเริ่มผ่อนชำระใหม่เป็นรายเดือนในอัตราลดลง

“อ.แจ็คพันศพ” ถูกเปลวไฟพุ่งใส่ขณะเผาศพ

“อาจารย์แจ็คพันศพ” สัปเหร่อและหมอผีชื่อดัง จ.บุรีรัมย์ ถูกเปลวไฟพุ่งใส่ขณะวางดอกไม้จันทน์เผาศพ ไฟลวกทั่วร่างกาย ต้องหามส่งโรงพยาบาล  เจ้าตัวงง! เผาศพมาเป็นพัน ไม่เคยเกิดเหตุการณ์แบบนี้

ข่าวแนะนำ

ตำรวจเร่งกวาดล้างแก๊งไทใหญ่ 999

กรณีแก๊งไทใหญ่ 999 ไล่ฟันหนุ่มกะเหรี่ยง ย่านห้วยขวาง ตำรวจยอมรับมีกลุ่มต่างด้าวกระทบกระทั่งกันในพื้นที่ เร่งพิสูจน์รวมแก๊งลักษณะอั้งยี่-ซ่องโจร หรือไม่ พร้อมลั่นดำเนินคดีไม่ละเว้น

ผู้การอยุธยา สั่งสอบ ตร. เก็บส่วยร้านอาหาร

แฉคลิปเสียงชายอ้างเป็นตำรวจ เรียกเก็บเงินรายเดือนจากร้านอาหาร พอปฏิเสธถูกลงตรวจถี่ยิบ ล่าสุด ผู้การฯ อยุธยา สั่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงด่วน

ปิด “จุดชมวิวภูชี้ฟ้า” ชั่วคราว เหตุเสียงปืนดังข้ามแดน-กระสุนตกใส่หลังคาบ้าน

อุทยานแห่งชาติภูชี้ฟ้า (เตรียมการ) ประกาศปิดแหล่งท่องเที่ยวจุดชมวิวภูชี้ฟ้า ชายแดนไทย-สปป ลาว อำเภอเวียงแก่น และอำเภอเทิง จังหวัดเชียงราย เป็นการชั่วคราว ตั้งแต่วันที่ 5 พฤษภาคม 2568 เป็นต้นไป เพื่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว หลังเกิดเสียงปืนดังข้ามแดน และพบกระสุนตกใส่บ้านเรือนประชาชน

กทม.พาสื่อดูซากตึก สตง. คาดอีก 2-3 วัน ภารกิจเสร็จสิ้น

กทม.พาสื่อลงพื้นที่ดูซากตึก สตง. ขณะนี้เคลียร์ถึงชั้นใต้ดินซึ่งเป็นจุดสุดท้าย คาดภารกิจการค้นหาผู้สูญหายและรื้อซากจะเสร็จสิ้นในอีก 2-3 วัน