กรุงเทพฯ 28 ม.ค. – คลังเตรียมเป็นเจ้าภาพประชุมรัฐมนตรีคลังอาเซียน ครั้งที่ 23 ภายใต้แนวคิด “ร่วมมือ ร่วมใจ ก้าวไกล ยั่งยืน”
นายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ปี 2562 ซึ่งประเทศไทยดำรงตำแหน่งประธานอาเซียน กระทรวงการคลังร่วมกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมรัฐมนตรีในส่วนของความร่วมมือด้านการเงิน (Financial Cooperation) โดยมีกำหนดการจัดประชุม 2 ช่วงเวลา คือ ช่วงแรก จะเป็นการจัดการประชุมคณะทำงานเจ้าหน้าที่อาวุโสกระทรวงการคลังและธนาคารกลางอาเซียน และการประชุมคณะทำงานต่าง ๆ ภายใต้กรอบอาเซียน ระหว่างวันที่ 11-16 กุมภาพันธ์ 2562 ที่กรุงเทพมหานคร และช่วงหลังจะเป็นการจัดการประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังอาเซียน (AFMM) ครั้งที่ 23 และการประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังและผู้ว่าการธนาคารกลางอาเซียน ( AFMGM) ครั้งที่ 5 ระหว่างวันที่ 3-5 เมษายน 2562 จังหวัดเชียงราย
นายลวรณ กล่าวว่า ประเทศไทยกำหนดแนวคิดหลักของการดำรงตำแหน่งประธานอาเซียนของไทยปี 2562 คือ “Advancing Partnership for Sustainability” หรือ “ร่วมมือ ร่วมใจ ก้าวไกล ยั่งยืน” มาจากนโยบายของนายกรัฐมนตรีที่ว่าประเทศสมาชิกอาเซียนทั้ง 10 ประเทศ จะต้องก้าวไปข้างหน้าด้วยกัน เพื่อสร้างประชาคมอาเซียนที่มีความยั่งยืน มีประชาชนเป็นศูนย์กลาง ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง และก้าวไปสู่อนาคตอย่างมั่นคง โดยมีความสมดุลทั้ง 3 เสาความร่วมมือ ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคมและการเมือง และความมั่นคง เพื่อให้การดำเนินการด้านความร่วมมือทางการเงินสอดคล้องกับแนวคิดของการเป็นประธานอาเซียนของไทย
ทั้งนี้ กระทรวงการคลังและ ธปท.ร่วมกันกำหนดประเด็นหลักที่เป็นกรอบการดำเนินการด้านสารัตถะของไทย 3 หมวดหลัก คือ ความเชื่อมโยง ความยั่งยืน และการสร้างภูมิคุ้มกัน แต่ละหมวดมีผลงานที่คาดว่าจะบรรลุ คือ ความเชื่อมโยง จะเน้นการพัฒนาความเชื่อมโยงระบบการชำระเงินและบริการ และการสนับสนุนการค้าและการลงทุนในภูมิภาคอาเซียน เพื่อการสร้างอาเซียนที่ไร้รอยต่อ เช่น การส่งเสริมการใช้สกุลเงินท้องถิ่นในการชำระค่าสินค้าและบริการและการลงทุน การส่งเสริมการโอนเงินอิเล็กทรอนิกส์ข้ามประเทศ การเร่งรัดการเชื่อมโยงข้อมูลใบรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าอาเซียนแบบอิเล็กทรอนิกส์ระหว่างกันอย่างสมบูรณ์ภายใต้ระบบ ASEAN Single Window (ASW) เป็นต้น ความยั่งยืน จะส่งเสริมให้ภาคการเงินมีแนวปฏิบัติเพื่อให้สามารถตอบสนองเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน และสนับสนุนเรื่องการเข้าถึงบริการทางการเงิน ซึ่งจะช่วยยกระดับให้ภูมิภาคอาเซียนมีการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมอย่างยั่งยืน มีการจัดทำแนวทางการพัฒนาตลาดทุนอาเซียนที่ยั่งยืน และจัดทำกรอบการพัฒนาผลิตภัณฑ์ประกันภัยรายย่อยของอาเซียน การสร้างภูมิคุ้มกัน จะเป็นการสร้างกรอบความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ และความร่วมมือด้านการกำกับดูแลสินทรัพย์ดิจิทัล เพื่อมุ่งสู่เป้าหมายยุทธศาสตร์สำคัญ คือ ดิจิทัลอาเซียน โดยสนับสนุนการพัฒนาความรู้ด้านความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์แก่บุคลากรด้านการเงินของประเทศสมาชิก และผลักดันให้เกิดเครือข่ายกลไกการแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างหน่วยงานกำกับดูแลตลาดทุนพร้อมกับเผยแพร่ข้อมูลให้กับประชาชนในภูมิภาคเพื่อป้องกันการหลอกลวง รวมทั้งการให้ความรู้ด้านพัฒนาการของสินทรัพย์ดิจิทัล
ผู้อำนวยการ สศค. กล่าวว่า การดำเนินการเพื่อให้บรรลุตามผลงานข้างต้นจะส่งผลให้เศรษฐกิจของอาเซียนมีความเชื่อมโยงกันในทุกมิติ มีโครงสร้างพื้นฐานที่พร้อมต่อการพัฒนาในระยะยาว และมีกระบวนการด้านภาษีศุลกากรและสรรพากรระหว่างประเทศสมาชิกอาเซียนเป็นมาตรฐานและมีความคล่องตัวเพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้ การพัฒนาเศรษฐกิจของประชาคมอาเซียนจะเป็นไปอย่างยั่งยืนและทั่วถึง สามารถรับมือกับความผันผวนของเศรษฐกิจโลกได้ และที่สำคัญ เศรษฐกิจของประชาคมอาเซียนจะมีความทันสมัย มีความพร้อมในการนำเทคโนโลยีมาใช้พัฒนาเศรษฐกิจได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ มีมาตรการพร้อมรับมือภัยคุกคามของโลกไซเบอร์ และมีกฎเกณฑ์รองรับนวัตกรรมทางการเงินรูปแบบใหม่ เพื่อส่งเสริมให้ภูมิภาคอาเซียนก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจของโลกต่อไป.-สำนักข่าวไทย