10 ชาติอาเซียนมุ่งพัฒนาสู่ยุค 4.0

กรุงเทพฯ 22 ม.ค. – ภาคการเงินอาเซียนมุ่งพัฒนา 4  ด้าน พร้อมส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีดิจิทัล  ย้ำ 1 ก.พ.นี้ แบงก์ไม่รับเช็คแก้ไขข้อความ เชื่อไม่กระทบ เพราะมีส่วนน้อยเพียงร้อยละ 3


ในการสัมมนาสภาที่ปรึกษาธุรกิจอาเซียนประเทศไทย “Empowering ASEN 4.0” ที่คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ร่วมกันจัดขึ้น นายปรีดี ดาวฉาย ประธานสมาคมธนาคารไทย กล่าวว่า การจัดสัมมนาครั้งนี้  เพื่อส่งเสริมให้ประเทศสมาชิกอาเซียน 10 ประเทศ ให้ความสำคัญร่วมมือดำเนินการ 4 ด้าน ประกอบด้วย การส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีดิจิทัล ทุนมนุษย์ (Human Capital)  การส่งเสริมสนับสนุนเอสเอ็มอี และการเชื่อมโยงที่ไร้รอยต่อ (Seamless Connectivity)  และต้องสอดคล้องกับนโยบายไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง 

สำหรับภาพรวมเศรษฐกิจไทยปีนี้ คาดว่าจะโตร้อยละ 4 ถือว่าเป็นอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศที่ไม่ต่ำ แต่จะต้องติดตามว่าจะเป็นไปตามคาดการณ์หรือไม่ ซึ่งจากปัจจัยนี้ทางธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) มีการตั้งสำรองหนี้สูญลดลงเมื่อเทียบกับ 2 ปีที่ผ่านมา เนื่องจากคาดการณ์เศรษฐกิจโลกโตลดลงกว่าปีที่ผ่านมา แต่เศรฐษกิจไทยน่าจะโตได้ตามเป้าหมายร้อยละ 4 ถือว่าดีระดับหนึ่ง ส่วนธนาคารอื่นอาจตั้งสำรองหนี้สงสัยสูญแตกต่างกันไปตามความเหมาะสม ด้านสินเชื่อธนาคารกสิกรไทยเน้น รายใหญ่ เอสเอ็มอีและกลุ่มค้าปลีก คาดว่าสินเชื่อยังเติบโตได้ในระดับร้อยละ 5-7 ด้านสถานการณ์กลุ่มลูกค้าเอสเอ็มอี ขณะนี้ภาพรวมดีขึ้น และยังเชื่อว่าหากเศรษฐกิจดีขึ้นต่อเนื่องเม็ดเงินที่กระจายลงไปสู่ระบบเศรษฐกิจจะทำให้ผู้ประกอบการภาพรวมมีสภาพคล่องเพิ่มขึ้น ชำระหนี้ได้ตามปกติ 


ส่วนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) นั้น ทางธนาคารพาณิชย์ได้ปรับขึ้นดอกเบี้ยเงินฝากไปแล้ว แต่ยังไม่ปรับขึ้นดอกเบี้ยเงินกู้ ส่วนการจะปรับขึ้นดอกเบี้ยเงินกู้หรือไม่จะพิจารณาตามสภาพเศรษฐกิจของประเทศและสถานการณ์ต่าง ๆ ต่อไป   

ด้านผลประกอบการของธนาคารพาณิชย์บางแห่งไม่เป็นไปตามเป้าหมายนั้น ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการลดค่าธรรมเนียมและรายได้จากการขายประกันภัยที่ลดลง เนื่องจากมีการปรับปรุงกระบวนการและมีการให้ความรู้ประชาชน ทำให้รายได้ส่วนนี้ชะลอตัวลง  

นายปรีดี ยังกล่าวถึงการใช้เช็คที่มีการแก้ไขว่า ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์นี้เป็นต้นไป  ทางธนาคารจะไม่รับเรียกเก็บเงินให้อีกต่อไป เนื่องจากระบบไม่สามารถตรวจสอบได้และเรื่องนี้ผ่านการหารือกับ ธปท.มาแล้วและได้มีการประชาสัมพันธ์ไปแล้วก่อนหน้านี้ ยืนยันว่าทางผู้ประกอบการธุรกิจส่วนใหญ่จะไม่ได้รับผลกระทบ เพราะเช็คที่มีการแก้ไขมีสัดส่วนน้อยเพียงร้อยละ 3 เท่านั้น ยอมรับว่าปัญหาเช็คปลอมมีบ้าง แต่ทางเจ้าหน้าที่จะระมัดระวังเต็มที่ 


ส่วนการที่ธนาคารพาณิชย์ต่างเพิ่มทางเลือกการโอนเงินผ่านระบบดิจิทัลมาให้เลือกใช้นั้น ภาพรวมผู้ใช้ยังคุ้นเคยการใช้เช็คเงินสด แต่การใช้เช็คมีต้นทุนสูงและใช้เวลาดำเนินการมาก จึงเชื่อว่าในที่สุดระบบที่มีประสิทธิภาพกว่าถูกกว่า รวดเร็วกว่าผิดพลาดน้อยลงจะเข้ามาแทนที่  ซึ่งขณะนี้บางประเทศเลิกใช้เช็คไปแล้ว สำหรับประเทศไทยยังไม่สามารถตอบได้ว่าการโอนเงินผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ทั้งหมดจะใช้เวลานานเท่าใด ปัจจุบันไทยมีการโอนเงินผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ระดับหนึ่ง มีการลงทะเบียนพร้อมเพย์หลักแสนราย ซึ่งทางสมาคมธนาคารไทยไม่ได้ตั้งเป้าหมายเอาไว้ว่าจะต้องเพิ่มขึ้นเป็นเท่าใด แต่ทุกธนาคารร่วมมือกันส่งเสริมการใช้การโอนเงินผ่านระบบอิเล็กทรอนิสก์อย่างต่อเนื่อง เพราะต้องการให้ลูกค้าย้ายเข้ามาใช้ระบบนี้มากขึ้น ภาคประชาชนก็เป็นสังคมไร้เงินสด ซึ่งภาครัฐขณะนี้กรมบัญชีกลางรับและจ่ายเงินกับภาคเอกชนก็เป็นระบบอิเล็กทรอนิกส์แล้ว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เพลิงไหม้โรงอบลำไย อ.แม่สรวย จ.เชียงราย

เพลิงไหม้โรงงานอบลำไย อ.แม่สรวย จ.เชียงราย เจ้าหน้าที่เร่งนำรถดับเพลิงเข้าระงับเหตุ เพื่อควบคุมเพลิงไม่ให้ลุกลามไปยังพื้นที่ใกล้เคียง เบื้องต้นยังไม่สามารถประเมินความเสียหายได้

พุ่งไม่หยุดราคาทองคำโลกนิวไฮอีก คาดไปต่อถึง 3 พันดอลลาร์/ออนซ์

ราคาทองคำตลาดโลกพุ่งแตะ 2,800 ดอลลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ นักวิเคราะห์คาดมีโอกาสพุ่งต่อถึง 3,000 ดอลลาร์/ออนซ์ ส่งผลราคาทองไทยวันนี้ขึ้นต่อจากราคาปิดวานนี้ และทำนิวไฮเท่าวานนี้

ข่าวแนะนำ

ศึกชิงทำเนียบขาว 2024 : คอมมาลา แฮร์ริส

รายงานศึกชิงทำเนียบขาว 2024 พาไปรู้จักกับนางคอมมาลา แฮร์ริส ที่เพิ่งได้เป็นตัวแทนพรรคเดโมแครต ไม่กี่เดือนก่อนเลือกตั้ง เปรียบเหมือนการเปลี่ยนม้าใหม่กลางศึก หากชนะได้เธอจะกลายเป็นประธานาธิบดีหญิงคนแรกของสหรัฐด้วย

เปิดโครงการ “เดิน วิ่ง ปั่น ป้องกันอัมพาต” ครั้งที่ 10

นายกฯ ควง “คุณหญิงพจมาน-ครอบครัว” นำ ครม.-ประชาชน ร่วมโครงการเดิน วิ่ง ปั่น ป้องกันอัมพาต ครั้งที่ 10 เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

สาว อบต.ตกใจ ตำรวจตามรอยเงิน 39 ล้านบาท ที่แท้ชื่อซ้ำกัน

สาว อบต. ตกใจ ตำรวจมาถึงที่ทำงาน ถามถึงเงิน 39 ล้านบาท ที่แท้ชื่อซ้ำกัน ยันไม่เคยรู้จัก “มาดามอ้อย-ทนายตั้ม” มาก่อน