ครอบครัว 4 อส.ผู้สละชีวิต เด็ก 7 คน ต้องกำพร้าพ่อ

ปัตตานี 11 ม.ค. – เหตุการณ์คนร้ายยิงถล่มเจ้าหน้าที่อาสารักษาดินแดน 4 นาย เสียชีวิตภายในโรงเรียนบ้านบูโกะ จ.ปัตตานี เมื่อวานนี้ นับเป็นเหตุสะเทือนขวัญ สร้างความสูญเสียให้กับครอบครัวของผู้เสียชีวิตอย่างมาก โดยเฉพาะเด็กน้อยถึง 7 คน ต้องกลายเป็นเด็กกำพร้า ไม่มีโอกาสได้ไปเที่ยวเล่นในวันเด็กกับพ่อเหมือนทุกปีที่ผ่านมา  



เหตุการณ์คนร้ายแต่งกายเลียนแบบเจ้าหน้าที่ กระหน่ำยิง อส.4 นาย เสียชีวิต ขณะปฏิบัติหน้าที่ดูแลความปลอดภัยให้กับนักเรียน ครู และชาวบ้านที่นี่เมื่อวานนี้ นอกจาก 4 ชีวิตที่ต้องสูญเสียไป คมกระสุนจากน้ำมือคนร้าย ยังสร้างรอยซ้ำและบาดแผลลึกในจิตใจให้กับครอบครัวของพวกเขาอีกด้วย


ใบหน้าที่เปื้อนน้ำตาและความเศร้าของซัยนูน บินมะแซ ภรรยาของ อส.สุไลมาน แวอุเซ็ง 1 ใน 4 ผู้เสียชีวิต ที่วันนี้เหลือเพียงลูกน้อยวัย 5 ขวบ และ 6 ขวบอยู่เคียงข้าง สะท้อนสภาพจิตใจที่ย่ำแย่ จากการต้องสูญเสียสามีอันเป็นที่รักไปอย่างไม่มีวันกลับ เธอบอกว่าแม้ที่ผ่านมาจะพยายามทำใจและเข้าใจความเสี่ยงในอาชีพของสามี แต่ก็ไม่คาดคิดว่าจะเกิดขึ้นกับครอบครัวของตนเอง

ซัยนูน บอกว่า สามีเป็นคนรักครอบครัว รักลูก เขาอยากทำหน้าที่อาสาช่วยดูแลชาวบ้านในพื้นที่ จึงสมัครเป็น อส. แม้จะมีเสียงคัดค้านจากที่บ้าน เขาก็ยอมเสี่ยงชีวิต เสียสละตนเอง เก็บออมรายได้จากเงินเดือน อส.ทีละน้อย ทยอยสร้างบ้าน หวังให้ครอบครัวอยู่สบาย และให้ลูกได้เรียนหนังสือ วันพรุ่งนี้ เธอและสามีเตรียมจะพาลูกไปเที่ยววันเด็ก และได้ใช้เวลาพักของสามีอยู่ร่วมกัน แต่วันนั้นไม่มีอีกแล้ว 


ไม่ต่างจากอีก 3 ครอบครัว หลังจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เด็กน้อยถึง 7 คน ต้องกลายเป็นเด็กกำพร้า พ่อและแม่ของ อส.ผู้เสียชีวิต ต้องขาดคนดูแล เพราะทั้งหมดเป็นกำลังสำคัญ เป็นเสาหลักของครอบครัว 

นายอับดุลการีม ยีดำ นายอำเภอยะรัง ลงพื้นที่ให้กำลังใจครอบครัวของ อส. พร้อมเปิดเผยว่า อส.ทั้ง 4 นาย ได้ปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มกำลังความสามารถ แม้อยู่ในระยะประชิดตัว แต่สามารถยิงต่อสู้คนร้ายได้รับบาดเจ็บ นำไปสู่การขยายผลจับกุม การสูญเสีย อส.ทั้ง 4 นายในครั้งนี้ ทางราชการจะให้ความช่วยเหลือดูแลครอบครัวอย่างเต็มที่

กว่า 15 ปีของเหตุรุนแรงในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ สร้างความเสียหายให้กับชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนในพื้นที่อย่างมาก มีผู้เสียชีวิตกว่า 6,900 คน บาดเจ็บกว่า 13,000 คน ในจำนวนนี้ยังมีเด็กและเยาวชนผู้บริสุทธิ์ที่ต้องกลายเป็นเด็กกำพร้ากว่า 6,500 คน ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุความรุนแรง และทิ้งร่องรอยร้าวลึกในจิตใจที่ยากจะเยียวยา. – สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

จำคุกสมรักษ์คำสิงห์

ศาลสั่งคุก 2 ปี 13 เดือน 10 วัน “สมรักษ์” พยายามข่มขืนสาววัย 17

ศาลจังหวัดขอนแก่น พิพากษาจำคุก “สมรักษ์ คำสิงห์” อดีตนักมวยฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิก เป็นเวลา 2 ปี 13 เดือน 10 วัน พร้อมชดใช้ค่าสินไหมทดแทนรวม 170,000 บาท คดีพยายามข่มขืนเด็กสาววัย 17 ปี

Chinese foreign ministry in January 2025

ถอดบทเรียนจากจีน แก้ปัญหาฝุ่นพิษ PM 2.5 จริงจัง

ปักกิ่ง 23 ม.ค. – สถานการณ์ฝุ่นพิษ PM 2.5 ที่กำลังเป็นปัญหาใหญ่และเร่งด่วนในไทยอยู่ในขณะนี้ หลายฝ่ายกำลังหาทางแก้ไขด้วยการมุ่งไปที่ต้นตอที่ทำให้เกิดฝุ่น จากข้อมูลขององค์การอนามัยโลกระบุว่า ในปี พ.ศ. 2542 ประชากรโลกมากถึง 92% ได้รับฝุ่น PM2.5 ในระดับความเข้มข้นสูงกว่าที่องค์การอนามัยโลกกำหนด และถ้ารัฐบาลทุกประเทศไม่เร่งแก้ปัญหาอย่างเอาจริงเอาจัง ภายในอีก 7 ปีข้างหน้า หรือ พ.ศ. 2573 คุณภาพชีวิตคนทั่วโลกจะยิ่งเลวร้ายสุดขีด เพราะปริมาณ PM2.5 จะเพิ่มขึ้นจากเดิม 50% และประเทศที่สามารถพิสูจน์ให้เห็นเป็นตัวอย่างว่า หากรัฐบาลตั้งใจจริงจัง ทุ่มสรรพกำลังความพยายาม จะสามารถกำจัดปัญหาฝุ่นควันพิษได้อย่างแน่นอนนั่นก็คือ จีน   จีนเคยมีคนเสียชีวิตเพราะมลพิษในอากาศปีละหลายล้านคน แต่ทุกวันนี้แม้แต่ธนาคารโลกยังยกย่องจีนว่า เป็นแบบอย่างของความพยายาม สามารถพลิกฟ้าหม่นเพราะฝุ่น PM2.5 ให้กลับเป็นฟ้าใสได้สำเร็จ ความพยายามของเหมา เจ๋อตุง ผู้นำจีนที่มุ่งเปลี่ยนสังคมเกษตรกรรมเป็นสังคมอุตสาหกรรม ทำให้จำนวนโรงงานในจีนเพิ่มขึ้นทวีคูณภายใน พ.ศ. 2502 แน่นอนว่า นโยบายเศรษฐกิจของผู้นำจีนช่วยให้คนจีนหลายล้านหลุดพ้นจากขีดความยากจน แต่ก็ต้องแลกกับชีวิตและสุขภาพ เพราะควันพิษจากโรงงานทำให้ฝุ่น PM2.5 พุ่งในระดับเกินกว่าจะรับไหว กว่ารัฐบาลจะรู้ตัวว่าปัญหามาถึงขั้นวิกฤต […]

คึกคัก คู่รักจูงมือกันไปจดทะเบียนวันแรกกฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผล

วันนี้กฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ หลายคู่รักควงแขนไปจดทะเบียนสมรสกันชื่นมื่น ที่สยามพารากอน มีคู่รักที่ลงทะเบียนมาจดทะเบียนสมรสที่นี่กว่า 300 คู่

ผู้ป่วยเสียชีวิต

รพ.สิรินธร ยืนยันไม่มีผู้ป่วยช็อก-เสียชีวิต จากเหตุชายผิวสีคลุ้มคลั่ง

ผอ.รพ.สิรินธร ยืนยันไม่มีผู้ป่วยช็อก หรือเสียชีวิต จากเหตุต่างชาติผิวสีคลุ้มคลั่ง มีเพียงเจ้าหน้าที่ รพ.บาดเจ็บจากการถูกต่อยเล็กน้อย

ข่าวแนะนำ

ตร.ทางหลวงไล่ล่ากระบะขนแรงงานต่างด้าวลักลอบเข้าไทย

ระทึก! ตำรวจทางหลวงขับรถไล่ล่ากระบะขนแรงงานต่างด้าว 2 คัน สุดท้ายไม่รอด จนมุมบริเวณ ต.หาดท่าเสา อ.เมือง จ.ชัยนาท ตรวจสอบพบแรงงานต่างด้าวจำนวนมาก จึงนำตัวทั้งหมด พร้อมกับคนขับรถทั้ง 2 คัน ส่งดำเนินคดีที่ สภ.เมืองชัยนาท

คุมพ่อชาวรัสเซียฝากขัง จับลูกชายวัย 13 โยนลงทะเลเสียชีวิต

ตำรวจคุมตัว “หนุ่มรัสเซีย” ฝากขัง หลังก่อเหตุโยนลูกวัย 13 ปี ออกจากเรือ บริเวณหมู่เกาะสุรินทร์ จ.พังงา จนถูกใบพัดเรือบาดเจ็บสาหัส ก่อนเสียชีวิตในเวลาต่อมา อ้างเสียความทรงจำ ไม่รู้ทำอะไรลงไป

ดีเอสไอจ่อล่องเรือใช้เลเซอร์สแกนจำลอง 3 มิติ สืบคดี “แตงโม”

ดีเอสไอ นำผู้เชี่ยวชาญหลายด้านเปิดประชุมนัดแรก ลุยสืบสวน “คดีแตงโม” จ่อล่องเรือใช้เลเซอร์สแกนจำลอง 3 มิติ หาพยานหลักฐานใหม่ และบินเก็บข้อมูลระบบ Cloud ในมือถือทุกคนบนเรือ-นอกเรือ

แก้ปัญหาฝุ่น

นายกฯ สั่งการด่วนคมนาคมออกมาตรการหยุด PM 2.5

นายกฯ สั่งการคมนาคมออกมาตรการเร่งด่วน หยุด PM 2.5 ให้ประชาชนนั่งรถไฟฟ้าทุกสาย-ขสมก.ฟรี 7 วัน 25-31 ม.ค.นี้ เตรียมใช้งบกลางกว่า 140 ล้านบาท ชดเชยผู้ประกอบการ เข้มตั้งจุดตรวจควันดำ 8 จุด รอบ กทม.-ปริมณฑล