fbpx

BIG STORY : ลำดับเหตุการณ์ระเบิดรูปปั้นนางเงือกทอง หาดสมิหลา

สงขลา 27 ธ.ค.- ภารกิจการเก็บกู้ระเบิดบริเวณรูปปั้นประติมากรรมเงือกทอง และรูปปั้นหนูกับแมว สัญลักษณ์ของหาดสมิหลา ที่ จ.สงขลา ได้เสร็จสิ้นลงแล้ว ย้อนไปดูลำดับเหตุการณ์นับตั้งแต่เกิดเหตุ


เวลา 22.00 น. วันที่ 26 ธันวาคม เกิดเสียงระเบิดดังขึ้น 2 ครั้ง ในเวลาไล่เลี่ยกันที่ชายหาดแหลมสมิหลา จ.สงขลา จุดระเบิดอยู่บริเวณรูปปั้นประติมากรรมเงือกทอง และรูปปั้นหนูกับแมว สัญลักษณ์ของหาดสมิหลา ซึ่งอยู่ห่างกันประมาณ 200 เมตร เจ้าหน้าที่ปิดกั้นพื้นที่รอชุดอีโอดีเข้าตรวจสอบ


เวลา 07.15 น. เจ้าหน้าที่ชุดอีโอดีเข้าตรวจสอบพบวัตถุต้องสงสัยในถังขยะ 1 ลูก ดำเนินการเก็บกู้ทำลาย

เวลา 08.00 น. เจ้าหน้าที่เก็บกู้เกิดเสียงดังคล้ายระเบิดขึ้นอีก 2 ครั้ง ห่างจากรูปปั้นประติมากรรมเงือกทอง มาทางโรงแรมบีพี สมิหลา ประมาณ 30 เมตร รวมตลอดคืนที่ผ่านมา เกิดเหตุระเบิดแล้ว 3 ครั้ง และยิงทำลายวัตถุต้องสงสัย 3 ครั้ง เบื้องต้นพบว่าเป็นระเบิดแสวงเครื่อง และไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ


เวลา 10.30 น. เจ้าหน้าที่ยิงทำลายวัตถุต้องสงสัยคล้ายระเบิด ที่พบในรัศมีใกล้เคียงกันบริเวณหาดสมิหลาอีก 1 ลูก

เวลา 11.10 น., 11.35 น., 13.30 น. และ 17.00 น. เจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบวัตถุคล้ายระเบิดตามช่วงเวลาดังกล่าว ซึ่งอยู่ในรัศมี 500 เมตร ในบริเวณหาดสมิหลา พร้อมทั้งเก็บกู้ และยิงทำลายได้เพิ่มอีก 4 ลูก จากการตรวจสอบของชุดอีโอดีพบเป็นระเบิดแสวงเครื่อง มีหลักฐานเป็นชุดควบคุมการจุดระเบิดเป็นนาฬิกาข้อมือ และพบภาชนะบรรจุดินระเบิดหลัก เป็นกล่องเหล็กกว้าง 4 นิ้ว ยาว 5 นิ้ว หนา 2 นิ้ว รวมถึงพบชิ้นส่วนสายไฟ, ปลั๊กไฟตัวผู้, แบตเตอรี่ขนาด AA จำนวน 3 ก้อน และฝากล่องพลาสติก

เวลา 17.40 น. คาดว่าจบภารกิจในการเก็บกู้วัตถุต้องสงสัยคล้ายระเบิดแล้ว เนื่องจากมีการเปิดพื้นที่ตามปกติแล้ว

ด้าน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม เปิดเผยข้อมูลสำคัญว่า ระเบิดที่เกิดขึ้นเชื่อมโยงการเมือง และทราบตัวผู้ก่อเหตุแล้ว แต่ไม่เกี่ยวข้องกับกรณีที่ตนเองเดินทางลงพื้นที่สงขลาแต่อย่างใด เบื้องต้นเชื่อว่าไม่เกี่ยวกับสถานการณ์จังหวัดชายแดนภาคใต้ แต่อาจใช้กลุ่มคนร้ายมาทำงาน.-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบศพโบลท์หญิงวัย 47 ในป่าหญ้าริมทาง คาดถูกฆ่าชิงรถ

โบลท์หญิงวัย 47 ปี หายตัวจากบ้านพักย่านดินแดง 9 วัน ล่าสุดพบเป็นศพในป่าหญ้าริมถนนสายนครชัยศรี-ห้วยพลู อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ส่วนรถยนต์โผล่ที่ จ.ภูเก็ต คาดถูกคนร้ายฆ่าชิงรถ

pagers on display

ทำไมยังมีการใช้ “เพจเจอร์” ในยุคสมาร์ทโฟน

ลอนดอน 19 ก.ย.- เพจเจอร์ หรือวิทยุติดตามตัวเป็นอุปกรณ์การสื่อสารยอดนิยมในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1990 ที่ต้องหลีกทางให้แก่โทรศัพท์เคลื่อนที่ เนื่องจากเป็นการสื่อสารทางเดียว แต่ยังคงมีการใช้งานในบางกลุ่ม รวมถึงกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ที่เพจเจอร์ระเบิดพร้อมกันหลายพันเครื่องทั่วเลบานอนเมื่อวันที่ 17 กันยายน แหล่งข่าวเผยว่า ฮิซบอลเลาะห์ใช้เพจเจอร์ เนื่องจากเป็นช่องทางสื่อสารเทคโนโลยีต่ำ ส่งข้อความผ่านสัญญาณวิทยุ จึงตรวจจับสัญญาณและตำแหน่งได้ยากกว่าโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ส่งสัญญาณไปยังเสาส่งที่อยู่ใกล้ที่สุด อีกทั้งไม่มีเทคโนโลยีระบุพิกัดบนพื้นโลกอย่างจีพีเอสด้วย อดีตเจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนกลางหรือเอฟบีไอ (FBI) ของสหรัฐเผยว่า ในอดีตแก๊งอาชญากรรมโดยเฉพาะแก๊งค้ายาเสพติดในสหรัฐเคยนิยมใช้เพจเจอร์ แต่ขณะนี้หันมาใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่แบบเติมเงินราคาถูกที่สามารถเปลี่ยนเครื่องและหมายเลขได้อย่างง่ายดาย ทำให้เจ้าหน้าที่ติดตามแกะรอยได้ยาก อย่างไรก็ดี  ศัลยแพทย์โรงพยาบาลใหญ่แห่งหนึ่งในสหราชอาณาจักรเผยว่า เพจเจอร์เป็นอุปกรณ์ที่แพทย์และพยาบาลสังกัดสำนักงานบริการสุขภาพแห่งชาติหรือเอ็นเอชเอส (NHS) ต้องพกติดตัวอยู่เสมอ เพื่อรับแจ้งข่าวในการปฏิบัติหน้าที่ เป็นช่องทางที่ถูกที่สุดและมีประสิทธิภาพมากที่สุดในการแจ้งข่าวทางเดียวกับคนจำนวนมาก เพจเจอร์หลายรุ่นสามารถส่งเสียงไซเรนและมีข้อความเสียงแจ้งให้ทีมแพทย์ไปรวมตัวที่ห้องฉุกเฉินได้ทันที ข้อมูลล่าสุดในปี 2562 ระบุว่า เอ็นเอชเอสใช้เพจเจอร์ประมาณ 130,000 เครื่อง คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 1 ใน 10 ของที่ใช้ทั่วโลก คอกนิทีฟมาร์เก็ตรีเสิร์ช  (Cognitive Market Research) ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยคาดการณ์ว่า ตลาดเพจเจอร์จะเติบโตร้อยละ 5.9 ต่อปี จากปี 2566 ถึงปี 2573 […]

ข่าวแนะนำ

ฆ่ารัดคอขับโบลท์

รวบ “ไอ้แม็ก” ฆ่ารัดคอหญิงขับโบลท์ พบเคยถูกจับคดีโหด

จับแล้ว “ไอ้แม็ก” เดนคุก ฆ่ารัดคอหญิงขับโบลท์ ทิ้งร่างอำพราง ริมถนนห้วยพลู จ.นครปฐม ก่อนเอารถไปขาย สอบประวัติ พบเพิ่งพ้นโทษ คดีล่ามโซ่ล่วงละเมิดเด็กวัย 13 ปี นาน 1 สัปดาห์ เมื่อปี 2553

พายุโซนร้อนซูลิก

ฤทธิ์พายุโซนร้อนซูลิก ทำฝนเริ่มตกหนักในพื้นที่นครพนม

ฤทธิ์พายุโซนร้อน “ซูลิก” ทำฝนเริ่มตกหนักในพื้นที่ จ.นครพนม เจ้าหน้าที่ต้องเร่งเดินเครื่องสูบน้ำลงน้ำโขง

อุตุฯ เตือนพายุ “ซูลิก” ฉบับที่ 12 ฝนถล่มหลายจังหวัด

กรมอุตุฯ ออกประกาศเตือนพายุ “ซูลิก” ฉบับที่ 12 ภาคเหนือ อีสาน กลาง รวมทั้งกรุงเทพฯ-ปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากกับมีลมแรง