สุราษฎร์ธานี 20 ธ.ค.- สมาคมเกษตรกรชาวสวนยาง 16 จังหวัดภาคใต้ เสนอรัฐเร่งออกมาตราการสร้างถนนพาราซอยซีเมนต์ดันราคายาง หวั่นพ้นฤดูฝนทำราคาตกต่อเนื่องอีกครั้ง
นายเด่นเดช เดชมณี เลขาธิการสมาคมเกษตรกรชาวสวนยาง 16 จังหวัดภาคใต้ และกรรมการบริหารสหกรณ์ปฎิรูปที่ดินท่าแซะ จำกัด เปิดเผยถึงราคายางพาราเริ่มขยับขึ้นในขณะนี้ว่า ปัจจัยที่ทำให้ราคาซื้อยางพาราในตลาดท้องถิ่นปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องมาจาก 2 สาเหตุ คือ ช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา พื้นที่ภาคใต้อยู่ในช่วงมรสุม เกิดฝนตกหนักและน้ำท่วมหลายพื้นที่ ทำให้ปริมาณยางออกสู่ตลาดน้อยกว่าปกติ ประกอบกับการประกาศนโยบายใช้ยางในประเทศของรัฐบาลด้วยการนำน้ำยางสดไปสร้างถนนพาราซอยซีเมนต์ ทำให้พ่อค้าคนกลางต้องเร่งกวาดซื้อยางเข้าสตอก เพราะเกรงว่าหากโครงการดังกล่าวประสบความสำเร็จจะทำให้ยางขาดตลาด
“หากสามารถทำให้โครงการถนนพาราซอยซีเมนต์เกิดขึ้นได้เร็วเท่าไรจะเป็นผลดีต่อเกษตรกร โดยเฉพาะการก่อสร้าง 1 หมู่บ้าน 1 กม.จะทำให้ปริมาณน้ำยางหายไปจากตลาดทันที 1 ล้านตัน นั่นหมายถึงจากเดิมที่ยางล้นสต๊อกอยู่ 500,000 ตัน จะกลายเป็นยางขาดสต๊อกทันที 500,000 ตัน ซึ่งจะสามารถดึงราคาน้ำยางสดให้ถึงราคา กก.ละ 65 บาท และนี่เป็นความหวังสุดท้ายของชาวสวนยาง”
นายเด่นเดช ยังเรียกร้องให้รัฐบาลและการยางแห่งประเทศไทยเร่งทำความเข้าใจกับหน่วยงานปกครองส่วนท้องถิ่น เกี่ยวกับระเบียบพัสดุการก่อสร้างถนนพาราซอยซีเมนต์ เนื่องจากขณะนี้พบว่าผู้บริหาร อบต. ยังไม่มีความรู้ และเกรงเรื่องการตรวจสอบของสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน ซึ่งส่าลุดการประชุมร่วมกับผู้บริหาร อบต.ในพื้นที่ จ.สุราษฎร์ธานี พบว่ามีเงินสะสมที่สามารถเบิกจ่ายเพื่อก่อสร้างถนนรวมกันถึง 2,000 ล้านบาท หากรัฐไม่เร่งดำเนินการให้ความรู้และแนวทางการจัดการก่อสร้างให้กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในระยะเวลาอันใกล้นี้ เชื่อว่า หลังมกราคม 2562 ราคายางพาราจะดิ่งลงอีกครั้ง เนื่องจากภาคใต้จะมีปริมาณน้ำยางออกสู่ตลาดมากที่สุดในช่วงเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ เป็นช่วงรอยต่ออากาศหนาว ต้นยางให้น้ำยางมากกว่าปกติ.-สำนักข่าวไทย