กรุงเทพฯ 17 ธ.ค. – ผู้ถือบัตรสวัสดิการฯเพิ่มพ้นขีดยากจนรายได้ 3 บาท บาทต่อปี กว่าร้อยละ 50 ย้ำแม้รายได้สูงขึ้นไม่ได้ตัดสิทธิ์ทันที
รายงานข่าวจากกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ประชุมร่วมกับหลายหน่วยงานทั้งสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) กรมบัญชีกลาง ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ธนาคารออมสิน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อสรุปผลการดำเนินมาตรการพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เฟส 2 หลังได้ฝึกอบรมสร้างอาชีพ ให้มีงานมีรายได้เพิ่มหลุดพ้นจากความยากจน ตั้งแต่ต้นปี 2561 พบว่ามีผู้แจ้งความประสงค์เข้าโครงการฝึกอาชีพกับธนาคารออมสินและ ธ.ก.ส. ประมาณ 4 ล้านคน ในจำนวนนี้เข้ารับการฝึกอาชีพเสร็จแล้ว 1.7 – 1.8 ล้านคน ผลลัพธ์พบว่าผู้เข้าฝึกอบรมประสบความสำเร็จดี มีรายได้เฉลี่ยสูงขึ้นจนพ้นเส้นความยากจน 30,000 บาทต่อปี สัดส่วนเกินกว่าร้อยละ 50 สูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ อีกทั้งยังพบว่ามีมากถึงร้อยละ 3 ที่มีรายได้เฉลี่ยเพิ่มขึ้นจนเกิน 1 แสนบาทต่อปีด้วย รัฐบาล ได้ใช้มาตรการให้เงินสนับสนุนและพัฒนาอาชีพควบคู่กันไป ไม่ได้แจกเงินเพียงอย่างเดียว ยอมรับการพัฒนาอาชีพอาจจำเป็นต้องใช้เวลา เพื่อทำให้รายย่อยมีรายได้เพิ่ม
ส่วนกรณีการปรับเกณฑ์การลงทะเบียนผู้รับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐในปีหน้า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังมอบหมายให้ สศค.ไปเตรียมหลักเกณฑ์ไว้ล่วงหน้า เพื่อนำรายได้ภาคครัวเรือนมาเป็นตัวชี้วัดแทนรายได้ของบุคคล ป้องกันคนไม่จนจริงเข้ามาลงชื่อใช้บัตรสวัสดิการฯ แต่อย่างไรก็ตามการเปิดลงทะเบียนบัตรสวัสดิการใหม่ หรือไม่ หรือกำหนดคุณสมบัติอย่างไร ต้องรอรัฐบาลชุดใหม่หลังการเลือกตั้งเป็นผู้ตัดสินใจ
อย่างไรก็ตามกระทรวงการคลังยืนยันว่าผู้ที่เข้ารับการฝึกอาชีพจะไม่โดนตัดสิทธิออกจากผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และยังได้รับการสวัสดิการเหมือนเดิม แม้จะมีรายได้สูงเกินเกณฑ์กำหนด เพราะถือว่าเป็นกลุ่มคนที่รัฐยังต้องดูแล ให้มีรายได้อย่างมั่นคงเพื่อลดพ้นจากความยากจนอย่างถาวร ดังนั้นไม่ต้องกังวลว่าเมื่อฝึกอาชีพแล้วจะถูกลดความช่วยเหลือ แต่ในทางกลับกัน ได้คุมเข้มตรวจสอบรายชื่อผู้รับบัตรโกงข้อมูล เช่น ไม่ได้ยากจนจริง หรือมีสินทรัพย์เกินกำหนด และแจ้งเข้ามารับสวัสดิการจากรัฐ เพื่อตัดสิทธิอย่างเด็ดขาด
นายชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน กล่าวว่า ธนาคารออมสินได้มีการดำเนินมาตรการพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้มีรายได้น้อยอย่างครบวงจร ทั้งการฝึกอบรมสร้างอาชีพ รวมถึงสนับสนุนการเงินในการสร้างธุรกิจตัวเอง โดยพบว่ากลุ่มคนเหล่านี้มีรายได้เพิ่มขึ้นเกินกว่าเกณฑ์ที่กำหนด สูงกว่าเป้าหมายที่รัฐบาลตั้งไว้ ซึ่งถือว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี
นายอภิรมย์ สุขประเสริฐ ผู้จัดการ ธ.ก.ส. กล่าวว่า ที่ผ่านมาธ.ก.ส.ได้มีการพัฒนาอาชีพผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จนมีรายได้พ้นเส้นความยากจนสูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ โดยมีการพัฒนาทั้งอาชีพเดิม อาชีพเสริม และการปรับเปลี่ยนอาชีพใหม่ นอกจากนี้ ธ.ก.ส. ยังได้เชื่อมโยงกับผู้ประกอบการด้านการเกษตร และองค์กรของเกษตรกร เช่น สหกรณ์การเกษตร วิสาหกิจชุมชนในพื้นที่ ทำหน้าที่เป็นหัวขบวนในการรับซื้อผลผลิต การแปรรูปสร้างมูลค่าเพิ่ม เพื่อเป็นทางเลือกในการสร้างอาชีพและรายได้ให้ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐในทุกจังหวัดอีกด้วย โดยปัจจุบันมีสหกรณ์เข้าร่วมโครงการ 359 แห่ง และเอสเอ็มอีเข้าร่วมพัฒนารายได้แล้วจำนวนมาก . – สำนักข่าวไทย