สำนักงาน กกต. 13 ธ.ค.- กกต.เรียกประชุม ผอ.กกต.จว. เตรียมการจัดการเลือกตั้ง เผยจำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้งประมาณ 51 ล้านคน หน่วยเลือกตั้ง 9.6 หมื่นหน่วย กำหนดหน่วยเลือกตั้งว่าจะอยู่ในตำแหน่งใด ซึ่งแต่ละหน่วยจะต้องรองรับผู้มีสิทธิเลือกตั้งประมาณ 1 พันราย ระบุหากเลือกตั้ง 24 ก.พ.ปีหน้า เหลือเวลาจัดเลือกตั้ง 70 วัน
นายเลิศวิโรจน์ โกวัฒนะ กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เป็นประธานการประชุมเตรียมการจัดการเลือกตั้ง ส.ส. มีผู้อำนวยการเลือกตั้งประจำจังหวัดจากทั่วประเทศเข้าร่วมการประชุม
พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการ กกต. เปิดเผยว่า การจัดประชุมครั้งนี้เพื่อเตรียมการให้ ผอ.กกต.จังหวัดมีความพร้อมในการจัดการเลือกตั้ง ขณะนี้จำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้งประมาณ 51 ล้านคน มีหน่วยเลือกตั้งประมาณ 96,000 หน่วย ภารกิจแรกที่แต่ละจังหวัดต้องจัดเตรียม คือ ในจังหวัดจะมีหน่วยเลือกตั้งกี่หน่วย ที่ตั้งของหน่วยเลือกตั้งจะอยู่ในตำแหน่งใดบ้าง แต่ละหน่วยจะรองรับผู้มีสิทธิประมาณ 1,000 ราย
เลขาธิการ กกต. กล่าวว่า นอกจากนี้ยังต้องเตรียมจัดทำป้ายไวนิลแนะนำตัวผู้สมัคร แผ่นป้ายขนาดใหญ่ที่จะให้ผู้สมัครแต่ละคนนำป้ายขนาด A3 มาติดประกาศแนะนำตัว ซึ่ง ผอ.กกต.จังหวัด ต้องกำหนดสถานที่ให้ชัดเจน เช่น หน้าที่ว่าการอำเภอ หน้าศาลากลางจังหวัด รวมถึงนับจำนวนแผ่นป้ายของผู้สมัคร นอกจากนี้ยังต้องจัดพิมพ์เอกสารแนะนำตัวผู้สมัครในเขตเลือกตั้ง นโยบายพรรค และพรรคเสนอชื่อบุคคลใดเป็นนายกรัฐมนตรี นำมาเย็บเล่มเพื่อส่งให้ถึงทุกครัวเรือนที่มีสิทธิเลือกตั้ง ผอ.กกต.จังหวัดต้องเตรียมความพร้อม เพราะหาก กกต.ประกาศให้มีการเลือกตั้งในวันที่ 24 ก.พ. 62 ก็จะเหลือเวลาอีก 70 วัน
พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ยังกล่าวถึงการพิจารณารูปแบบบัตรเลือกตั้ง ว่า ขั้นตอนยังอยู่ระหว่างการพิจารณาของสำนักงาน คาดว่าจะเสนอให้ กกต.พิจารณาได้ในสัปดาห์หน้า ไม่ว่ากกต.จะมีมติเลือกใช้รูปแบบใด สำนักงานก็ต้องบริหารจัดการให้ได้ อาจจะให้โรงพิมพ์ที่มีศักยภาพหลายแห่งเข้ามาพูดคุยถึงศักยภาพในการพิมพ์บัตร และการรักษาความปลอดภัยของบัตรเลือกตั้ง โดยจะให้ความสำคัญสูงสุดกับประเด็นความปลอดภัยของบัตร ส่วนกรณีที่พรรคการเมืองเรียกร้องให้ใช้พรรคเดียวเบอร์เดียวนั้น หากต้องการให้แก้กฎหมายคงต้องใช้เวลา ในส่วนของ กกต.ต้องทำให้ดีที่สุดตามกฎหมายที่มีอยู่ ส่วนข้อเสนอที่ให้ใช้ ม.44 แก้กฎหมาย ไม่ใช่อำนาจของ กกต.จึงเป็นประเด็นที่ไกลเกินไปที่จะคิด
เมื่อถามว่าพรรคการเมืองและประชาชนกังวลต่อการทำงานของ กกต. พ.ต.อ.จรุงวิทย์ กล่าวว่า กกต.ไม่มีการทุจริต ซึ่งเลือกตั้งเสร็จก็นับคะแนนที่หน่วยไม่เหมือนอดีตที่จะมีการยกหีบบัตรลงคะแนนไปนับในสถานที่นับคะแนน มีผู้สังเกตการณ์จากทุกพรรคการเมือง และประชาชนก็สามารถตรวจสอบได้ที่หน่วยเลือกตั้ง และมีการรายงานผลจากหน่วยมายังส่วนกลางเลย จึงไม่ต้องกังวลเรื่องการเปลี่ยนแปลงผลคะแนน
ส่วนการสังเกตการณ์ของผู้สังเกตการณ์จากต่างประเทศ เลขาธิกการ กกต. กล่าวว่า กกต.มีโครงการไว้อยู่แล้ว ตามที่ประธาน กกต.เคยให้สัมภาษณ์ แต่ขณะนี้ยังไม่มีการขอมา แต่คิดว่าจะมีการเชิญต่างประเทศเข้ามาร่วมสังเกตการณ์อย่างแน่นอน ซึ่งปกติเวลากกต.ได้รับเชิญให้ไปสังเกตการณ์การเลือกตั้งในประเทศอื่น ๆ เราก็จะไปดูว่ามีการลงคะแนน และการหาเสียงอย่างไร จะไม่เข้าไปแทรกแซงกิจการภายในประเทศของเขา ซึ่งนี่คือกรอบของเราในการสังเกตการณ์ที่เราไปดู.-สำนักข่าวไทย