กรุงเทพฯ 21 พ.ย.- สตม.นำร่องการดำเนินการพัฒนาคุณภาพการให้บริการโครงการคัดกรองและตรวจสอบเอกสารล่วงหน้า ทางอิเล็กทรอนิกส์สำหรับผู้ยื่นขอรับการตรวจลงตรา VISA ON ARRIVAL (E-VOA)”
พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รรท.ผบช.สตม., พ.ต.กมล วงศ์สมบุญ รองผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมพิธีเปิด “โครงการคัดกรองและตรวจสอบเอกสารล่วงหน้าทางอิเล็กทรอนิกส์สำหรับผู้ยื่นขอรับการตรวจลงตรา VISA ON ARRIVAL (E-VOA)” ซึ่งเป็นอีกหนึ่งทางเลือกให้กับนักท่องเที่ยวในยุคดิจิตอล ภายใต้แนวคิด “Fast & Convenient for Entering to Thailand ทางเลือกที่สะดวก รวดเร็ว ในการผ่านเข้าประเทศไทย คือ สะดวก ง่าย รวดเร็ว ปลอดภัย และอุ่นใจ โดยโครงการนี้จะมีประโยชน์ในการลดความแออัดในการรอคิวของนักท่องเที่ยว, ช่วยลดการใช้เอกสาร, สะดวก ในการจัดเก็บค่าธรรมเนียมออนไลน์ และในทางอ้อมจะเป็นการสร้างความประทับใจกับนักท่องเที่ยวตั้งแต่ ด่านแรกที่เข้าประเทศไทยวิธีหนึ่งด้วย และเพื่อให้การบริการสะดวกครอบคลุม สตม.ได้จัดเคาน์เตอร์ เพื่อให้บริการนักท่องเที่ยวที่ใช้บริการ E-VOA จำนวน 5 แห่ง ตั้งแต่ 15 พ.ย.2561 นำร่องที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิและดอนเมือง ตามด้วยภูเก็ต เชียงใหม่ โดยให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง และในช่วงระหว่างวันที่ 15 พ.ย.2561 – 13 ม.ค.2562 รัฐบาลยกเว้นค่าธรรมเนียมการขอวีซ่าเป็นระยะเวลา 60 วัน
การยื่นขอ VOA ผ่านระบบออนไลน์ หรือ E-VOA นั้น นักท่องเที่ยวเพียงแค่กรอกข้อมูลส่วนตัวเบื้องต้นและข้อมูลการเดินทาง พร้อม UPLOAD เอกสาร ตั๋วเครื่องบิน พาสปอร์ต พร้อมชำระค่าธรรมเนียม จำนวน 2,000 บาท และค่าบริการออนไลน์ โดย นักท่องเที่ยวเสียค่าใช้จ่ายเฉพาะค่าบริการออนไลน์ จากนั้นจะได้รับการยืนยันเอกสารผ่านทางอีเมลล์ ภายใน 24 ชั่วโมง และเมื่อเดินทางมาถึงประเทศไทยก็นำสำเนาใบยืนยันที่ได้รับทางอีเมลล์ยื่นที่ช่องตรวจคนเข้าเมืองได้ทันที และมีช่องทางพิเศษสำหรับนักท่องเที่ยวที่ทำ E-VOA โดยเฉพาะ ซึ่งจะยิ่งทำให้การเดินทางสะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น รวมถึงยังประโยชน์ให้กับด่านตรวจคนเข้าเมือง ด้วย.-สำนักข่าวไทย