เวนิส 26 เม.ย.- เวนิส เมืองท่องเที่ยวชื่อดังในอิตาลี กลายเป็นเมืองแรกของโลกที่เริ่มเก็บค่าธรรมเนียมจากนักท่องเที่ยว หวังจำกัดจำนวนนักท่องเที่ยว และป้องกันไม่ให้เมืองมรดกโลกแห่งนี้ได้รับความเสียหายจากนักท่องเที่ยวที่แห่แหนกันมามากเกินไป
เมื่อวานนี้ (25 เม.ย.) เป็นวันหยุดนักขัตฤกษ์ในอิตาลี และเป็นวันแรกที่นักท่องเที่ยวที่มาเยือนเวนิสแบบไปเช้าเย็นกลับต้องชำระค่าธรรมเนียมเข้าเมืองราคาคนละ 5 ยูโร (ประมาณ 200 บาท) มีจุดจำหน่ายและสแกนค่าธรรมเนียมด้านนอกสถานีรถไฟของเมืองและตามสะพานต่างๆ เกือบทุกแห่ง โดยมีเจ้าหน้าที่ตรวจตั๋วในจุดท่องเที่ยวสำคัญ ๆ รอบเมือง ผู้ที่ไม่มีตั๋วอาจเสี่ยงต่อการถูกปรับตั้งแต่ 50 ถึง 300 ยูโร (ราว 1,975-11,850 บาท)
เมื่อวานนี้ยังถือเป็นวันแรกจากทั้งหมด 29 วัน ที่นักท่องเที่ยวต้องซื้อตั๋วเข้าเมืองเวนิส หากต้องการไปท่องเที่ยวแบบเช้าไปเย็นกลับ ระหว่างเวลา 08.30 น.-16.30 น. ทั้ง 29 วันดังกล่าว ส่วนใหญ่เป็นวันหยุดสุดสัปดาห์ระหว่างเดือน พฤษภาคมถึงกรกฎาคมปีนี้ เพื่อจูงใจให้นักท่องเที่ยวหลีกเลี่ยงการเดินทางเข้าไปท่องเที่ยวเมืองเวนิสช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ ที่มักจะมีผู้คนแห่ไปท่องเที่ยวพร้อมกันจำนวนมาก และให้ไปเที่ยวในช่วงวันเวลาอื่นแทน
เวนิสเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวชั้นนำของโลก มีนักท่องเที่ยวพักค้างคืนในเมืองมากถึง 3.2 ล้านคน ในปี 2565 แม้จำนวนประชากรที่อาศัยอยู่ในเมืองจะมีเพียง 50,000 คนเท่านั้น โดยในช่วงกลางวัน ผู้คนนับหมื่นที่ส่วนมากเดินทางด้วยเรือสำราญ หลั่งไหลเข้ามาในถนนแคบ ๆ เพื่อเยี่ยมชมสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ เช่น จัตุรัสเซนต์มาร์ก และสะพานริอัลโต อย่างไรก็ดี จำนวนนักท่องเที่ยวที่มากเกินไป แม้จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจท้องถิ่น แต่ก็ต้องแลกมากกับความวุ่นวายชุมชน ระบบนิเวศและสถานที่ทางประวัติศาสตร์ในเมืองที่เสี่ยงต่อการเสียหาย.-815(814).-สำนักข่าวไทย