พรรคพลังประชารัฐ 15 พ.ย.-“เอกราช-นพ.วิชัย-สรชาติ” ตบเท้าสมัครเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ มั่นใจกวาด ส.ส.อีสานเหนือหมดทุกเขต เชื่อประชาชนมั่นใจการทำงานของ “พล.อ.ประยุทธ์”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศที่พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) วันนี้ (15 พ.ย.) ซึ่งเปิดรับสมัครสมาชิกเป็นวันที่ 3 คึกคักตั้งแต่ช่วงเช้า มีประชาชนจากหลายอาชีพเดินทางมาสมัครเป็นสมาชิกจำนวนมาก รวมถึงนายเอกราช ช่างเหลา ผู้จัดการสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่นและอดีตสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ที่พานายวัฒนา ช่างเหลา รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่นและประธานสโมสรขอนแก่นยูไนเต็ด บุตรชาย ซึ่งเตรียมลงสมัคร ส.ส.ขอนแก่น เขต 2 ในนามพรรคพลังประชารัฐ รวมถึงอดีต ส.ส.นักการเมืองท้องถิ่น จาก 8 จังหวัดภาคอีสานตอนบน คือ ขอนแก่น มหาสารคาม ร้อยเอ็ด กาฬสินธุ์ อุดรธานี หนองคาย หนองบัวลำภู และบึงกาฬ เช่น นพ.วิชัย ชัยจิตวณิชกุล อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ สมัยรัฐบาล พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ นายเวียง วรเชษฐ์ อดีต ส.ส.ร้อยเอ็ด พรรคเพื่อไทย นายสรชาติ สุวรรณพรหม อดีต ส.ส.หนองบัวลำภู พรรคความหวังใหม่ นายสมศักดิ์ คุณเงิน อดีต ส.ส.ขอนแกน พรรคเสรีธรรม นายนิพนธ์ ศรีธเรศ อดีต ส.ส.กาฬสินธุ์ พรรคเพื่อไทย และ นายฉลอง เรี่ยวแรง อดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย จ.นนทบุรี เข้าสมัครสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ
นายเอกราช กล่าวว่า สาเหตุที่มาสมัครเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ เพราะมีความศรัทธาในนโยบายการทำงานของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่สามารถตอบโจทย์ประชาชนรากหญ้าและชนชั้นกลางได้เป็นอย่างดี เห็นได้จากราคาข้าวที่ปรับตัวสูงขึ้น และไม่รู้สึกกังวลในการสู้ศึกเลือกตั้งครั้งนี้ที่ต้องต่อสู้กับพรรคการเมืองที่มีฐานเสียงในพื้นที่เดิม เพราะที่ผ่านมา ลงพื้นที่ใกล้ชิดประชาชนอย่างต่อเนื่องและได้รับการตอบรับที่ดี ซึ่งประชาชนได้เรียนรู้การเปลี่ยนแปลงทางการเมืองและแยกตัวเองออกจากการเมือง เพื่อไม่ต้องการเกิดความขัดแย้งในสีเสื้อ
“ดังนั้นจึงมั่นใจว่าประชาชนส่วนใหญ่เชื่อมั่นและศรัทธาใน พล.อ.ประยุทธ์ เพราะตลอดระยะเวลา 4 ปี นโยบายการทำงานล้วนให้ประโยชน์ต่อประชาชน จึงมั่นใจว่าจะได้เสียงตอบรับจากประชาชน ยอมรับว่าขณะนี้บัญชีรายชื่อผู้สมัคร ส.ส.ในพื้นที่ลงตัวแล้ว และเตรียมเปิดตัวในวันที่ 18 พฤศจิกายนนี้ ครบทุกคน และมั่นใจว่าจะได้รับชัยชนะอย่างท่วมท้นแบบยกจังหวัดในพื้นที่ จ.ขอนแก่น หนองบัวลำภู บึงกาฬ หนองคาย ส่วนที่เหลือ คาดว่าจะชนะร้อยละ 50” นายเอกราช กล่าว
ด้านนายวัฒนา กล่าวว่า ครั้งนี้เป็นครั้งแรกในสนามการเมืองระดับชาติ มั่นใจว่าตลอดการลงพื้นที่พบปะประชาชน ในฐานะรองนายก อบจ.มาตลอด 6 ปี มีความใกล้ชิด รับรู้ปัญหา และมีฐานเสียงพอสมควร ประกอบกับแฟนฟุตบอลทีมขอนแก่นยูไนเต็ด ที่ตนเป็นประธานสโมสร ก็มีแฟนบอลเป็นจำนวนมาก จึงเชื่อว่าจะมีเสียงสนับสนุนให้ได้เป็น ส.ส.เขต 2 จ.ขอนแก่น อย่างแน่นอน ซึ่งในครั้งนี้คุณพ่อจะเปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่เข้ามาทำหน้าที่ โดยคุณพ่อจะไม่ลง ส.ส.เขต
ด้าน นพ.วิชัย ยอมรับว่า ในพื้นที่ภาคอีสานตอนบน ยังมีกระแสความนิยมพรรคการเมืองเดิมอยู่บ้าง แต่เปลี่ยนแปลงไปมาก เพราะสามารถจับต้องนโยบายของรัฐบาลชุดนี้ได้เป็นอย่างดี เชื่อว่านโยบายพรรคจะตอบโจทย์ความต้องการของประชาชน และทำให้ความคาดหวังเรื่องความเป็นอยู่ดีขึ้น และยิ่งพรรคการเมืองเก่า เดินเกมลักษณะแยกย่อย ก็คงไม่สามารถฮั้วกันทางการเมืองในการลง ส.ส.เขตได้ ยืนยันความพร้อมของพลังประชารัฐที่จะใช้ความรู้ความสามารถในทางการเมืองในการแข่งขัน อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าในพื้นที่ จ.อุดรธานี ซึ่งมี 8 เขตเลือกตั้ง พรรคพลังประชารัฐอาจได้เพียง 4 เขต เนื่องจากในพื้นที่ที่เหลือเป็นเครือข่ายของกลุ่มการเมืองเก่าที่เหนียวแน่น
ขณะที่นายฉลอง กล่าวถึงสาเหตุการตัดสินใตลงร่วมอุดมการณ์กับพรรคพลังประชารัฐ เนื่องจากชื่นชอบในหลายนโยบายกานรทำงานของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมา ทั้งเรื่องการดูแลเบี้ยคนพิการคนชรา การเดินสายไฟลงดิน และอื่น ๆ รวมถึงชอบสไตล์การคิดการพูด การกระทำของ พล.อ.ประยุทธ์ ที่มีนิสัยคล้านตน คือ ปากร้ายใจดี พูดตรง ไม่มีสคริป ไม่สร้างภาพ
นายฉลอง กล่าวอีกว่า ที่มาของปัญหาการรัฐประหารทั้งหมด เริ่มต้นจากนายวรชัย เหมมะ อดีต ส.ส.สมุทปราการ พรรคเพื่อไทย ที่ไปเสนอ พ.ร.บ.นิรโทษกรรม แบบสุดซอย ทำให้เกิดความขัดแย้งทางการเมืองนำไปสู่การชุมนุมกลุ่ม กปปส. ยอมรับว่าความขัดแย้งที่เกิดขึ้นทำให้นักการเมือง ส.ส.ที่เพิ่งจะเข้ามาทำงานเสียโอกาสทางการเมืองอย่างมาก ขณะเดียวกัน ตนก็ถือว่าเป็นผู้ที่อาวุโสคนหนึ่งในพรรคเพื่อไทย แต่เมื่อไม่สามารถเข้าไปมีส่วนร่วมในการตัดสินใจใดใดได้ จึงตัดสินใจมาร่วมอุดมการณ์กับพรรคพลังประชารัฐ ไม่ขอวิจารณ์และก้าวก่ายพรรคการเมืองอื่น ครั้งนี้จะลง ส.ส.เขตใน อ.เมือง แม้ว่าแต่ละเขตต้องต่อสู่กันหนักในช่วงนี้ แต่มั่นใจว่า 4 เขตนนทบุรีที่ตนรับผิดชอบ ประกอบด้วย. อ.เมือง ,ปากเกร็ด, บางกรวย,บางใหญ่ จะได้จำนวน ส.ส.ตามเป้าแน่นอน.-สำนักข่าวไทย