กรุงเทพฯ 11 พ.ย.- สวนดุสิตโพลชี้ พรรคที่โดนใจประชาชน ต้อง ไม่ใส่ร้าย โจมตี หาเรื่องทะเลาะเบาะแว้งกับพรรคคู่แข่ง และทำเพื่อส่วนรวมอย่างแท้จริง ไม่มีผลประโยชน์แอบแฝง
การเลือกตั้ง ส.ส. ที่กำลังจะมีขึ้นในช่วงต้นปี 2562 ส่งผลให้พรรคการเมืองต่าง ๆ ทั้งพรรคการเมืองเก่าและพรรคการเมืองใหม่ออกมาเคลื่อนไหว แข่งขันกันลงพื้นที่เดินสายหาเสียงกับประชาชนมากขึ้น ในขณะที่ประชาชนต่างก็มีความคาดหวังต่อพรรคการเมือง ซึ่งมีส่วนสำคัญต่อการเลือกตั้งเช่นเดียวกัน เพื่อสะท้อนความคิดเห็นของประชาชนที่สนใจติดตามข่าวการเมือง “สวนดุสิตโพล” มหาวิทยาลัยสวนดุสิต ได้ดำเนินการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนทั่วประเทศ เรื่อง พรรคการเมืองควรทำอย่างไร จึงจะโดนใจประชาชน จำนวนทั้งสิ้น 1,176 คน ระหว่างวันที่ 7-10 พฤศจิกายน 2561 สรุปได้ ดังนี้
1. ประชาชนคิดอย่างไร? กับ “พรรคการเมือง” ที่เป็นข่าวอยู่ในขณะนี้
พลังประชารัฐ
อันดับ 1 เป็นพรรคที่สนับสนุนรัฐบาลอย่างชัดเจน มีรัฐมนตรีร่วมบริหารพรรค 46.67%
อันดับ 2 ถูกจับตามอง มีกลุ่มสามมิตร ดึงนักการเมืองดัง ๆเข้าร่วม 32.38%
อันดับ 3 มีความได้เปรียบ มีเวลาเตรียมพร้อมมากกว่าพรรคอื่น ๆ 20.95%
เพื่อไทย
อันดับ 1 ประสบปัญหาทั้งภายในและภายนอก รอดูว่าจะแก้ปัญหาอย่างไร 50.34%
อันดับ 2 มีกระแสข่าวการยุบพรรค และเตรียมจัดตั้งพรรคใหม่ 34.16%
อันดับ 3 เป็นพรรคที่คนส่วนใหญ่ยังสนใจติดตามข่าว โดยเฉพาะข่าวอดีตนายกฯ ทักษิณ 15.50%
ประชาธิปัตย์
อันดับ 1 การชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรค เป็นประเด็นทางการเมืองที่น่าสนใจ 37.53%
อันดับ 2 ควรปรับเปลี่ยนอะไรใหม่ๆ เพื่อขยายฐานเสียงให้มากขึ้น 32.65%
อันดับ 3 ควรจัดการเรื่องภายในพรรคให้เรียบร้อย เพื่อเตรียมสู้ศึกเลือกตั้ง 29.82%
อนาคตใหม่
อันดับ 1 เป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ มีนโยบาย แนวคิดทันสมัย น่าสนใจ 38.60%
อันดับ 2 ยังไม่เป็นที่รู้จักในวงกว้าง ไม่มีผลงานทางการเมืองให้เห็น 35.67%
อันดับ 3 มีการลงพื้นที่หาเสียง พบเห็นตามสื่อต่างๆมากขึ้น 25.73%
รวมพลังประชาชาติไทย
อันดับ 1 นายสุเทพ เป็นผู้ที่มีบทบาทสำคัญในการหาเสียงของพรรค 50.95%
อันดับ 2 จากการลงพื้นที่ที่ผ่านมา มีกระแสต่อต้านมากกว่าตอบรับ 31.56%
อันดับ 3 สมาชิกพรรคคนอื่นๆ ยังไม่เป็นที่รู้จักมากนัก 17.49%
2. พรรคการเมืองควรทำอย่างไร? จึงจะโดนใจประชาชน
อันดับ 1 ไม่ใส่ร้าย โจมตี หาเรื่องทะเลาะเบาะแว้งกับพรรคคู่แข่ง 38.76%
อันดับ 2 ต้องทำเพื่อส่วนรวมอย่างแท้จริง ไม่มีผลประโยชน์แอบแฝง 34.86%
อันดับ 3 มีความสามัคคี ทำงานเป็นทีม คัดเลือกผู้สมัครที่ดี เหมาะสม 33.90%
อันดับ 4 ชูนโยบายที่ทำได้จริง เน้นแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ชีวิตความเป็นอยู่ 30.48%
อันดับ 5 มีจุดยืน เดินหน้าหาเสียงอย่างบริสุทธิ์ ยุติธรรม 15.52%
3. เหตุผลในการเปลี่ยนใจและไม่เปลี่ยนใจในการเลือกพรรคการเมืองของประชาชน ณ วันนี้ (เปรียบเทียบกับการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา)
อันดับ 1 ไม่เปลี่ยนใจ 45.15% เพราะ ชอบพรรคการเมือง ชอบผู้สมัคร มีผลงานให้เห็น มีคนเก่ง มีประสบการณ์ ช่วยเหลือประชาชนได้ดี อยากให้สานงานต่อ ต้องการสนับสนุนพรรคนี้ต่อไป ฯลฯ
อันดับ 2 ยังไม่ตัดสินใจ รอดูก่อน 33.57%
อันดับ 3 เปลี่ยนใจ 21.28% เพราะ ผลงานไม่น่าพอใจ ทำไม่ได้ตามที่พูด มีพรรคการเมืองใหม่ ๆ ที่น่าสนใจหลายพรรค มีตัวเลือกมากขึ้นผู้สมัครหน้าใหม่หลายคน อยากลองเปิดโอกาสให้พรรคอื่นดูบ้าง ฯลฯ .-สำนักข่าวไทย